กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--สสส.
ปัญหาสารเคมีที่คุกคามเข้าสู่ภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย ได้ก่อร่างสร้างปัญหาสะสมไว้มากมายจนเกิดเป็นความเปลี่ยนแปลงเชิงลบในปัจจุบัน ทั้งสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลง ปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดขึ้น รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ฝืดเคืองอันเนื่องมาจากการไม่รู้เท่าทันพิษภัยรอบด้านของการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง
ด้วยเหตุนี้ทาง องค์การบริหารส่วนตำบลดอนหญ้า อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้จัดทำ “โครงการตำบลบูรณาการสร้างสุขภาวะ” โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อให้เกิดการประสานงานทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน อย่างมีระบบผ่านเวทีชุมชน อันจะนำไปสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างมีคุณค่า โดยเน้นพัฒนาด้านการเกษตรเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนโครงการ
นางสาวดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการสร้างสุขภาวะในพื้นที่และชุมชน สสส. เปิดเผยว่า “การที่หน่วยงานจากทุกภาคส่วนและชุมชนต่างร่วมมือกันทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาในชุมชน ทำให้เกิดการรวมกลุ่มกัน เกิดความเอื้ออาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กลายเป็นสังคมแห่งสันติสุข ขับเคลื่อนสู่การมีสุขภาวะทางปัญญา จากการได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ร่วมกันพินิจพิเคราะห์ข้อมูลก่อนตัดสินใจเชื่อ เรียกได้ว่าเป็นพลังทางปัญญาซึ่งจะกลายเป็นองค์ความรู้ของชุมชนได้อย่างยั่งยืน”
นายสุรกิจ สุวรรณแกม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนหญ้านาง และหัวหน้าโครงการฯ เปิดเผยว่า ชาวตำบลดอนหญ้านางมีอาชีพหลักคือการทำนาปลูกข้าว ที่ผ่านมาทาง อบต. ได้มีการสำรวจข้อมูลราษฎรพบว่า ปัญหาหลักคือภาวะหนี้สินพอกพูน ซึ่งได้มีการสืบค้นถึงต้นตอของปัญหาก็พบว่าเกิดจากต้นทุนในการประกอบอาชีพภาคการเกษตรเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะทางกายและใจของประชากรอย่างเห็นได้ชัด
“เมื่อค่านิยมการใช้สารเคมีได้เข้ามาโดยมุ่งเน้นแต่ปริมาณผลผลิต ทำให้วิถีชีวิตการทำนาแบบดั้งเดิมค่อยๆ สูญหายไป และผลที่ได้กลับคืนมาคือ หนี้สินที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว จากการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อปุ๋ยและยาฆ่าแมลง จึงเป็นที่มาของโครงการนี้ ซึ่งเป็นการทำงานอย่างบูรณาการให้ทุกหน่วยงานได้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีกับประชาชนมากกว่าการที่ต่างคนต่างทำ” นายสุรกิจกล่าว
โครงการตำบลบูรณาการสร้างสุขภาวะ มุ่งเน้นการพัฒนาการเกษตรระดับตำบล เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับอาชีพดั้งเดิมคือการทำนา โดยเป็นการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนงานอนามัย งานพัฒนาชุมชน งานพัฒนาการเกษตร งานด้านการศึกษา ฯลฯ รวมไปจนถึงผู้นำท้องถิ่นและเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพการเกษตรในท้องถิ่น ซึ่งจะมีการจัดขบวนการเวทีชุมชนเพื่อสังเคราะห์ปัญหาต่างๆ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายหลักในการแก้ไขปัญหาแบบมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน