กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่ง ส่งผลให้ราคาถ่านหินในตลาดโลกขยับขึ้นตาม เหตุเศรษฐกิจจีน-สหรัฐอเมริกา มีสัญญาณการฟื้นตัว ส่งผลหุ้นกลุ่มพลังงานรับอานิสงส์ ล่าสุด หุ้นเอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือAGE ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้าน“พนม ควรสถาพร”กรรมการผู้จัดการ เผยครึ่งปีหลังลุ้นยอดขายถ่านหินเพิ่ม หลังจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมสั่งซื้อถ่านหินเพิ่ม
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด(APM) เปิดเผยในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทเอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือAGE ว่า การที่ราคาหุ้นAGE สามารถยืนเหนือระดับราคาIPOที่ 6.50 บาทได้นั้น เป็นผลมาจากภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวตามการลงทุนในตลาดโลก ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนโดยรวมกลับมามีการความมั่นใจการลงทุน
ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวในช่วงขาขึ้น โดยล่าสุดราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ที่ระดับ 66.31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีหลังที่มีแนวโน้มในการฟื้นตัว ดังนั้นหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าวมากที่สุดคือกลุ่มพลังงาน ซึ่งAGE เป็นบริษัทที่นำเข้าถ่านหินสะอาด(บิทูมินัส)จากประเทศอินโดนิเซีย เพื่อจำหน่ายให้กับภาคอุตสาหกรรมใช้เป็นเชื้อเพลิงการผลิต จัดเป็นหุ้นที่เหมาะกับการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว
ด้านนายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือ AGE หนึ่งในผู้นำเข้าถ่านหินสะอาด(บิทูมินัส)จากประเทศอินโดนีเซีย เพื่อจำหน่ายให้กับภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงการผลิต กล่าวว่า ในขณะนี้ หลังจากที่หลายกลุ่มอุตสาหกรรมได้มีการชะลอการสั่งซื้อถ่านหินในช่วงไตรมาส1/2552 โดยล่าสุดกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านั้น ได้กลับเข้ามาสั่งซื่อถ่านหิน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงรองรับการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สะท้อนให้เห็น ถึงภาพรวมของเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับตัวลดลงถึงจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ แนวโน้มตลาดถ่านหินในตลาดโลก มีแนวโน้มที่จะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะล่าสุดความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศจีนมีการฟื้นตัว ตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก สะท้อนไปถึงค่าระว่างเรือที่เริ่มมีการทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม2552 ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้นทำให้ภาพรวมของธุรกิจถ่านหินโดยรวมปรับตัวขึ้นตาม
“โดยส่วนตัวมองว่า หากช่วงครึ่งปีหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้น จะส่งผลดีต่อยอดขายโดยรวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่บริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบระหว่างราคาถ่านหินในขณะนี้มีส่วนต่างที่ถูกกว่าราคาน้ำมันกว่า 40%” นายพนม กล่าว
นายพนม กล่าวอีกว่า ในขณะนี้บริษัทเตรียมเปิดคลังสินค้าแห่งใหม่ในภาคตะวันออก โดยคลังสินค้าดังกล่าวจะสามารถรองรับคลังเก็บสินค้าของบริษัทฯได้กว่า100,000 ตันต่อปี ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ได้ประมาณกลางไตรมาส3/2552นี้ และจะสามารถเอื้อประโยชน์ให้บริษัทฯเข้าถึงกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายของบริษัทฯ ในภาคตะวันออก อาทิ กลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งบริษัทฯมีกลุ่มลูกค้าจำนวนมากที่ครบคลุมพื้นในหลายจังหวัด ทั้งจ.ชลบุรี , ฉะเชิงเทรา, ระยอง , ปราจีนบุรี ฯลฯ
“ ปัจจุบันบริษัทฯมีคลังสินค้า ที่ ตำบลนาดี จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีกลุ่มลูกค้าย่านอุตสาหกรรมในเขตจังหวัดสมุทรปราการ , สมุทรสาคร และเขตอุตสาหกรรมปริมณฑล , อำเภอ เขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี โดยรองรับกลุ่มลูกค้าในเขตภาคใต้ และภาคตะวันตก ซึ่งคลังสินค้าทั้ง2แห่ง เป็นโรงงานคัดแยก และคลังเก็บสินค้า ขณะที่จังหวัดอยุธยา เป็นคลังสินค้ารองรับกลุ่มลูกค้ากลางตอนบน , ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ” นายพนม กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงประมาณการรายได้รวมในปี2552 เพิ่มขึ้น 10-20% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,350 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มโรงไฟฟ้า ฯลฯ ที่ยังคงมีการขยายตัวในการใช้พลังงานถ่านหิน แทนการใช้พลังงานเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทร.02-512-5036 , แฟกซ์.02-512-5036
E-mail : Thitinart@theway.co.th
จตุพล นาคนิ่ม , ฐิตินารท นัคราบัณฑิต ,ครองขวัญ รอดหมวน