จีเอ็ม รุกสร้างศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว พร้อมเสริมความเข้มแข็งให้แบรนด์หลักทั่วโลก

ข่าวยานยนต์ Tuesday June 2, 2009 07:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--เวเบอร์ แชนวิค การดำเนินธุรกิจ และการให้บริการลูกค้า จะเดินหน้าต่อไป เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (NYSE: GM) ประกาศบรรลุข้อตกลงกับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม รุกเข้มสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และมีผลกำไรในระยะยาว สำหรับสี่แบรนด์หลักของจีเอ็ม ทั้ง เชฟโรเลต คาดิลแลค บูอิค และจีเอ็มซี มุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เจ้าของรถในเครือจีเอ็ม และลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์ และรถกระบะในอนาคต ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว “จีเอ็ม ใหม่” จะได้รับการสร้างสรรค์จากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งที่สุด และจากแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของจีเอ็ม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ทั้งนี้ จีเอ็ม ใหม่ จะเผยโฉมสู่สาธารณชนด้วยตัวเลขหนี้ที่ลดลง และต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์จีเอ็ม ในสหรัฐฯ จีเอ็ม ใหม่จะมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์หลักทั้ง คาดิลแลค เชฟโรเลต บูอิค และจีเอ็มซี ที่ได้รับรางวัลยานยนต์ยอดเยี่ยมมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เชฟวี่ มาลิบู (รถยอดเยี่ยมแห่งปีของภูมิภาคอเมริกาเหนือ ประจำปี 2551) คาดิลแลค ซีทีเอส (รถยอดเยี่ยมแห่งปีของนิตยสารมอเตอร์ เทรนด์ ประจำปี 2551) รวมถึงบูอิค (คว้าอันดับหนึ่งจากการศึกษาหัวข้อยานยนต์ที่สามารถเชื่อมั่นได้ของสถาบันเจ-ดี พาวเวอร์ ประจำปี 2552) จีเอ็ม ใหม่ยังคงความมุ่งมั่นเป็นผู้นำในระดับโลก ในการพัฒนาการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพและความน่าเชื่อถือ การออกแบบที่สวยงาม การบริการลูกค้า และเหนือสิ่งอื่นใด คือคุณค่าของตัวผลิตภัณฑ์ จีเอ็ม ใหม่ จะบริหารงานโดยทีมผู้บริหารชุดปัจจุบันของจีเอ็ม โดยผู้ถือหุ้นหลักคือกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สหภาพแรงงานยานยนต์ และรัฐบาลแคนาดา ข้อตกลงระหว่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส และกระทรวงการคลังสหรัฐฯในการขายทรัพย์สินจากจีเอ็ม สู่นิติบุคคลจีเอ็ม ใหม่ จะต้องได้รับการอนุมัติจากกระบวนการปรับโครงสร้างภายใต้การกำกับดูแลของศาล Chapter 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐฯ ซึ่งจีเอ็ม ได้เริ่มต้นกระบวนการดังกล่าวในวันนี้ ในศาลล้มละลายทางตอนใต้ของรัฐนิวยอร์ก โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และสหภาพแรงงานยานยนต์ คาดว่า จีเอ็ม ใหม่ จะได้รับการอนุมัติจากศาลอย่างรวดเร็ว และเปิดตัวในฐานะบริษัทที่เป็นอิสระประมาณในอีก 60 ถึง 90 วัน การดำเนินงานของจีเอ็มที่อยู่นอกสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการของศาลในสหรัฐฯ และไม่มีผลกระทบโดยตรงกับแผนงานของจีเอ็ม และการดำเนินงานของจีเอ็มนอกสหรัฐฯ นอกจากนี้ จีเอ็ม ยังยืนยันว่า การดำเนินธุรกิจในภูมิภาคยุโรป ละตินอเมริกา เอเชีย ตะวันออกกลาง และภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก จะเดินหน้าต่อไปอย่างแน่นอน ระหว่างการเข้าสู่กระบวนการของศาล ตั้งแต่วันนี้ จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์สู่จีเอ็ม ใหม่ การดำเนินงานของจีเอ็มจะเดินหน้าตามปกติ ผู้แทนจำหน่ายของจีเอ็มจะให้บริการ และมีการรับประกันอย่างมีคุณภาพเช่นเดิม รัฐบาลสหรัฐฯจะสนับสนุน และยืนยันในการรับประกันที่ครอบคลุมไปตามปกติเพื่อความมั่นใจของลูกค้าทุกคน “ช่วงเวลานี้ มีความสำคัญยิ่งที่จีเอ็ม จะปฏิรูปองค์กรให้มีความคล่องตัวมากขึ้น มุ่งเน้นที่ความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น และมีขีดความสามารถในการแข่งขันมากกว่าเดิม นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นบริษัทที่มีผลกำไร” ฟริตซ์ เฮนเดอร์สัน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม กล่าว “วิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมาก แต่ก็ทำให้เรามีโอกาสในการปฏิรูปธุรกิจของเรา เรากำลังลงมือทำสิ่งที่ถูกต้อง การเข้าสู่กระบวนการของศาลนั้นทำให้เรามีช่องทางในการเร่งปฏิรูปองค์กรให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว พร้อมกับการรักษาลูกค้า และธุรกิจของเราไว้ เรามุ่งเน้นที่งานของเราอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า พนักงาน ผู้แทนจำหน่าย ซัพพลายเออร์ พนักงานเกษียณ ผู้จ่ายภาษีชาวอเมริกัน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย” “เราตระหนักดีว่า ทุกฝ่ายต้องมีการเสียสละเพื่อให้งานการปฏิรูปจีเอ็ม และอุตสาหกรรมยานยนต์บรรลุผล” เฮนเดอร์สัน กล่าว “จีเอ็ม มีความยินดีที่ได้รับการสนับสนุน และความเชื่อมั่นในอนาคตของเราจากคณะทำงานยานยนต์ของกระทรวงการคลังสหรัฐ และรัฐบาลแคนาดา ผู้นำและทีมสหภาพแรงงานยานยนต์ พนักงานของจีเอ็มทุกคน และชาวอเมริกันผู้เสียภาษี ที่จะเกื้อหนุนให้เราเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้จีเอ็ม และเศรษฐกิจ” “นับจากวันนี้ จีเอ็ม ใหม่ จะมีจุดยืนอันหนักแน่นในการสร้างยานยนต์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพซึ่งเราได้เดินหน้าพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่อันน่าตื่นเต้น อย่างเชฟวี่ โวลต์ เราสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอคุณค่าของผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าของเรา รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความสำเร็จครั้งนี้ จีเอ็ม ใหม่ จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตของโลกยานยนต์ และทำให้สหรัฐฯ มีความมั่นคงในอุตสาหกรรมการผลิตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน” “ผู้แทนจำหน่ายของจีเอ็ม ทั่วโลก เดินหน้าดำเนินธุรกิจไปตามปกติ นำเสนอยานยนต์ที่มีคุณภาพ ให้การรับประกันตามมาตรฐานอันยอดเยี่ยมของเรา รวมถึงการให้การบริการที่โดดเด่น” เฮนเดอร์สัน กล่าว “นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนการรับประกันรถจีเอ็มอย่างเต็มที่” “ผลิตภัณฑ์คืออนาคตของเรา รถยนต์และรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ของเรานั้น เป็นหมุดหมายแห่งความสำเร็จในอนาคต” เฮนเดอร์สัน กล่าว “จีเอ็ม ใหม่ นั้นมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจในระยะยาว แบรนด์รถยนต์ของเราที่ไม่เป็นสองรองใคร ทำให้เราสามารถแข่งขันในตลาดที่เข้มข้นนี้ได้” “จีเอ็ม ใหม่ จะเป็นผู้นำในการพัฒนาเชื้อเพลิงอันมีประสิทธิภาพในระดับโลกในระยะยาว” เฮนเดอร์สัน กล่าว “จีเอ็มใหม่ จะมุ่งมั่นพัฒนาระบบวิศวกรรมอันล้ำหน้า รวมถึงยกระดับประสิทธิภาพการผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในอนาคต” สานต่อการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จีเอ็ม ใหม่ ซึ่งมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่ดีที่สุด จะเดินหน้าพัฒนายานยนต์อันยอดเยี่ยม และจะมีการเปิดตัวในปี 2552 และ 2553 นี้ ได้แก่ เชฟโรเลต คามาโร รถสปอร์ตคูเป้ดีไซน์โฉบเฉี่ยว มีราคาระดับกลาง อัตราประหยัดเชื้อเพลิงในการวิ่งระยะทางไกลอยู่ที่ 46 กิโลเมตรต่อแกลลอน บูอิค ลาครอส รถซีดานขนาดกลางระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุด คาดิลแลค เอสอาร์เอ็กซ์ ครอสโอเวอร์ และซีทีเอส สปอร์ตวากอน เชฟวี่ อิควิน็อกซ์ และจีเอ็มซี เทอร์เรน ครอสโอเวอร์ขนาดกลางที่มีอัตราประหยัดน้ำมัน 51 กิโลเมตรต่อแกลลอน ซึ่งดีที่สุดในรถระดับนี้ เชฟวี่ ครูซ รถคอมแพกต์สายพันธุ์ระดับโลกรุ่นใหม่ของจีเอ็ม เชฟวี่ โวลต์ รถพลังงานไฟฟ้าที่สามารถขับเคลื่อนได้สูงสุด 64 กิโลเมตร โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เข้าชมได้ที่กระบวนการปรับโครงสร้างภายใต้การกำกับดูแลของศาล ที่เวบไซต์ www.GM.com/restructuring เกี่ยวกับเจนเนอรัล มอเตอร์ส เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (จีเอ็ม) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 ปัจจุบันมีการผลิตรถยนต์และรถปิกอัพใน 34 ประเทศ สำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ โดยมีพนักงาน 234,500 คนในทุกภูมิภาคสำคัญทั่วโลก มีการจำหน่าย และการบริการใน 140 ประเทศ ในปี พ.ศ. 2551 จีเอ็ม มียอดจำหน่ายรถทั้งหมด 8.35 ล้านคัน ภายใต้แบรนด์ชื่อดัง ทั้ง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเดน ฮัมเมอร์ โอเปิล พอนทิแอค ซาบ แซเทิร์น วอกซ์ฮอลล์ และวูลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา รัสเซีย และเยอรมนี ขณะที่ออนสตาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้เครือจีเอ็ม ก็ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย ความมั่นคง และข้อมูลด้านยานยนต์ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจีเอ็ม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.gm.com สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ คุณฐิติณี จารุวิจิตรรัตนา หรือสถาปนา กาญจนประกร เวเบอร์ แชนวิค บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 343 6000, 081 919 7593 อีเมล์: Thitinee@webershandwick.com, Satapana@webershandwick.com หรือ คุณศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2791-3400 โทรสาร 0-2937-0441 อีเมล์: sasinan.allmand@gm.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ