กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--ปภ.
สำนักงาน ปภ.จังหวัดฉะเชิงเทรา เตือนประชาชนที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำและบริเวณพื้นที่ราบลุ่ม ระมัดระวังน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงประกอบกับน้ำที่ระบายจากแหล่งต่าง ๆ มีปริมาณมากในช่วงวันที่ 6-10 พ.ย. นี้ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์และเข้าตรวจพื้นที่ เพื่อหาแนวทางระบายน้ำได้ทันท่วงที
นางสาวงามพิศ แก้วประดิษฐ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดฉะเชิงเทราประสบภาวะน้ำท่วมใน 9 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 11,125 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 32,015 ไร่ ประกอบกับปริมาณน้ำในคลองต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการผันน้ำลงพื้นที่จังหวัดรอบนอกเพื่อป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงสถานการณ์ น้ำท่วมรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันที่ 6 - 10 พฤศจิกายนนี้ น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้ง อาจทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งได้ เนื่องจากปริมาณน้ำที่ระบายจากแหล่งต่างๆ ทั้งจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักฯ น้ำที่ไหลบ่าจากปราจีนบุรี นครนายก และจากคลองท่าลาด ซึ่งเป็นทางระบายน้ำจากแอ่งเก็บน้ำแควระบมและคลองสียัด จะไหลมารวมกันที่แม่น้ำบางปะกงและออกสู่ทะเลที่ปริมาณเฉลี่ย 180 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในขณะที่ความสามารถในการผันน้ำออกสู่ทะเลอยู่ที่วันละ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน อาจทำให้เกิดน้ำท่วม ในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงได้ จึงขอเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณสองข้างริมฝั่งแม่น้ำและบริเวณที่ราบลุ่มให้เพิ่มความระมัดระวัง หมั่นสังเกตระดับน้ำไว้ตลอดเวลาในช่วงเฝ้าระวัง และให้ขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของไว้บนที่สูง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุนสูงในช่วงเช้าและหัวค่ำ พร้อมกันนี้สำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทรายังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง เพื่อหาแนวทางระบายน้ำได้อย่างทันท่วงทีหากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราได้รับความเดือดร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงาน ปภ.จังหวัดฉะเชิงเทรา โทร 0-3853-6025 หรือสายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง