กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
กำกับ โยจิโระ ทากิตะ / แสดง มาซาฮิโระ โมโทกิ, เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ, ซึโตมุ ยามาซากิ / ประเทศ ญี่ปุ่น / ประเภท ชีวิต — ตลก / ความยาว 130 นาที / ฉาย 18 มิถุยายน 2552
เรื่องย่อ
เจ้าของรางวัลออสการ์ "ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม", Departures เป็นภาพยนตร์ที่มอบความสดชื่นเบิกบาน นำผู้ชมไปสู่เนื้อแท้ของสังคมญี่ปุ่น รวมถึงการบันทึกธรรมเนียมประเพณีซึ่งหาชมไม่ได้ง่ายๆ
หลังจากแยกตัวออกจากวงออเคสตร้า ไดโกะ (มาซาฮิโระ โมโทกิ) ก็กลายเป็นคนตกงานที่หันไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมน อนาคตเรื่องอาชีพนักดนตรีที่เคยฝันไว้เสียสวยหรู กลับพังทลายลงต่อหน้าต่อตา ไดโกะและ มิกะ (เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ) ภรรยาสาวแสนสวย จึงเดินทางออกจากเมืองหลวง และมุ่งหน้ากลับไปยังบ้านเกิดที่จังหวัดยามางาตะ เพื่อตั้งต้นชีวิตใหม่
ระหว่างที่กำลังมองหางานใหม่ทำอยู่นั่นเอง ไดโกะ เผอิญเห็นใบประกาศติดอยู่ เขาเห็นคำว่า "Departures" จึงรีบเข้าไปสมัคร เพราะเข้าใจว่าเป็นบริษัททัวร์ (Departures แปลความหมายได้ 2 อย่างคือ การเดินทาง และ การตาย) แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อทราบในภายหลังว่า บริษัทดังกล่าว เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจจัดงานศพ
เจ้าของบริษัทเป็นชายชรา ที่ชื่อ ซาซากิ (ซึโตมุ ยามาซากิ ) และหน้าที่ที่เขาและไดโกะต้องทำก็คือ การตระเตรียมร่างกายที่ไร้วิญญาณของผู้ตายให้พร้อมสำหรับการจัดงานศพ
ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นมากนัก ไดโกะจำเป็นต้องรับงานอย่างที่ไม่เต็มใจทำ แต่ทีละน้อย งานที่ดูไม่น่าพิศมัยเสียเลยในคราวแรก กลับทำให้ชายหนุ่มมองชีวิตในมุมที่ตนไม่เคยสำรวจมาก่อน อันนำมาซึ่งการค้นพบความหมายที่ลึกซึ้งและงดงาม ~
เกี่ยวกับผู้กำกับ
โยจิโระ ทากิตะ
โยจิโระ ทากิตะ (เกิดปี 1955) เข้ามาทำงานภาพยนตร์ครั้งแรกในบริษัท มูคาอิ โปรดักชั่น ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับ และกลายมาเป็นที่รู้จักจากการทำหนังโป๊อ่อนๆ หรือ Pink Film ชุด Molester's Train ในปี 1982 ต่อมาภาพยนตร์ชุดนี้ถูกซื้อและรับช่วงทำต่อโดย นิคคัตสึ สตูดิโอ ทากิตะจึงได้รับอานิสงค์ให้มาทำงานในนิคคัตสึไปโดยปริยาย จนในปี 1986 ทากิตะก็มายืนแถวหน้าทันที จากผลงานที่ทำเงินและกวาดคำชมไปอย่างกว้างขวางเรื่อง No More Comic Magazines!
ผลงานหลังจากนั้น ได้รับความสนใจจากนักดูหนังมาโดยตลอด ตั้งแต่ The City That Never Sleeps: Shinjuku Shark (1993), Himitsu (1999), The Yin Yang Master (2001), When the Last Sword Is Drawn (2003) และ Departures (2008) โดยผลงานหลังสุดนี้ ทำให้โยจิโระ ทากิตะ ได้ขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีออสการ์
หนังสือพิมพ์โยมิอุริ ชิมบุน หนึ่งในห้าหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น กล่าวว่า สิ่งที่เรามักจะได้เห็นบ่อยๆ ในงานของทากิตะก็คือ “ความอ่อนโยนอันแสนอบอุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นบุคลิกที่มองโลกในแง่ดีเสมอ”
เกี่ยวกับนักแสดง
มาซาฮิโระ โมโทกิ
มาซาฮิโระ โมโทกิ (เกิดปี 1965) เป็นที่รู้จักจากการเป็นสมาชิกวงบอยแบนด์ ชื่อ ชิบุงากิไท ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงใน หมู่วัยรุ่นญี่ปุ่นยุค 80 หลังจากแยกวงไป โมโทกิหันเหไปเอาดีด้านการแสดง เขาเล่นหนังของผู้กำกับ มาซายูกิ ซูโอะ 2 เรื่อง คือ Fancy Dance (1989) และ Sumo Do, Sumo Don’t (1992) โดยได้เสียงตอบรับเป็นบวกทั้งจากคนดูและนักวิจารณ์ นอกจากนี้โมโทกิยังเล่นหนังแนวแปลกของผู้กำกับ ทากาชิ มิอิเกะ เรื่อง The Bird People in China (1998) และงานของผู้กำกับ ชินยะ ซึกาโมโตะ เรื่อง Gemini (1999) รวมถึงยังเล่นละครโทรทัศน์อีกหลายเรื่อง
เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ
เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ (เกิดปี 1980) เข้าสู่วงการตอนอายุ 14 ปี โดยการประกวดนางแบบของ P&G และสร้างชื่อจากการเล่นละครทางโทรทัศน์ อาทิ Long Vacation (วุ่นนักรักซะเลย), Beach Boys (ร้อนนักก็พักร้อน) โดยละครเรื่องดังที่แฟนชาวไทยน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีคือ Shotgun Marriage (แต่งงานกันเถอะ...นะ) ส่วนผลงานทางเด่นๆ ด้านภาพยนตร์ของฮิโรสุเอะ ได้แก่ Himitsu (1999), Wasabi (2002) และ Collage of Our Life (2003)
ซึโตมุ ยามาซากิ
ซึโตมุ ยามาซากิ (เกิดปี 1936) เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ของวงการหนังญี่ปุ่น ที่เริ่มต้นทำอาชีพนักแสดงจากบทสมทบเล็กๆ ในหนังของ อากิระ คุโรซาวะ เรื่อง High and Low (1963) และ Kagemusha (1980) แต่ผู้กำกับคู่บุญที่มักใช้บริการของยามาซากิเสมอๆ คือ จูโซ่ อิตามิ ซึ่งหนังดังๆ อย่าง The Funeral (1984), Tampopo (1985) และ A Taxing Woman (1987) ล้วนนำแสดงโดยยามาซากิ
สำหรับภาพยนตร์ร่วมสมัยที่ยามาซากิไปปรากฏตัว ได้แก่ Go (2001), Crying Out Love, In the Center of the World (2004) และ Kurosagi (2006) โดยผลงานใน Departures นั้น ทำให้ยามาซากิ รับตุ๊กตาทองญี่ปุ่นไปเป็นตัวที่ 4
เกร็ดภาพยนตร์
? Departures คว้ารางวัลตุ๊กตาทองญี่ปุ่น (Japanese Academy) 10 ตัวด้วยกัน ได้แก่
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- ผู้กำกับยอดเยี่ยม
- บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (มาซาฮิโระ โมโทกิ)
- นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (ซึโตมุ ยามาซากิ)
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (คิมิโกะ โย)
- กำกับภาพยอดเยี่ยม
- ลำดับภาพยอดเยี่ยม
- บันทึกเสียงยอดเยี่ยม
- จัดแสงยอดเยี่ยม
? นอกจากนี้ Departures ยังคว้า 4 รางวัลใหญ่ จากนิตยสารคิเนม่า จุนโป — นิตยสารภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในญี่ปุ่น ได้แก่
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- ผู้กำกับยอดเยี่ยม
- บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (มาซาฮิโระ โมโทกิ)
? แต่รางวัลที่ใหญ่ที่สุดและถือเป็นเซอร์ไพรส์ของทีมงานทุกฝ่าย คือการก้าวขึ้นไปคว้ารางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศแห่งปีไปครอง ท่ามกลางความประหลาดใจของหลายฝ่าย รวมทั้งพระเอกหนุ่มมาซาฮิโระ โมโทกิ ที่ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมได้ชมหนังจากอิสราเอล (Waltz with Bashir) และคิดว่าหนังต้องได้รางวัลแน่ๆ เพราะมันเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมมากๆ ผมจึงเดินเข้าไปในงานออสการ์เพื่อดูโน่นนี่ไปเรื่อย ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรก ผมจะเดินเข้างานด้วยความมั่นใจอันเต็มเปี่ยม”
? มาซาฮิโระ โมโทกิ ซึ่งต้องรับบทนำในหนังเรื่องนี้เล่าว่า เขาต้องใช้เวลาเป็นเดือนในการหัดเล่นเชลโล่ (เพราะเขาต้องเล่นเป็นนักดนตรี) และเวลาที่เหลือ ก็ต้องตระเวนไปร่วมงานศพ “ผมและผู้กำกับเข้าไปร่วมพิธีศพของคนแปลกหน้าเกือบจะทุกวัน และผมก็ต้องเข้าไปฝึกเรียนทำพิธีศพจริงๆ จนเมื่อผมเกิดความมั่นใจแล้วนั่นเอง พวกเขาจึงเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำ”
? ผู้กำกับ โยจิโระ ทากิตะ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “เราไม่มั่นใจเลยว่าหนังจะได้รับเสียงตอบรับอย่างไร เพราะคนญี่ปุ่นนั้นถือว่าเรื่องความตายเป็นเรื่องอัปมงคล เราไม่ได้ห่วงเรื่องรางวัล เราห่วงว่าจะมีใครอยากจะมาดูหนังของเราหรือเปล่าเท่านั้นเอง”
? แต่ทันทีที่หนังออกฉาย ความกังวลของทากิตะก็มลายหายไป Departures กลายเป็นหนังฮิต และนักวิจารณ์ต่างพร้อมใจส่งเสียงเชียร์
JUNE 18, 2009 Exclusive at house RCA