กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
- ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — ราคาทองคำในวันนี้ มีแนวโน้ม Rebound กลับ หลังค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเล็กน้อย + ราคาน้ำมันเริ่มขยับขึ้นบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ต้องระวังไว้ให้มากในวันนี้ยังคงเป็น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 2 ปี ที่ยังค่อนข้างผันผวนไปในทางทั้งบวกและลบในเช้านี้ (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
- กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Index บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นมีทิศทางขาลง, MACD 30 นาทีเคลื่อนตัวสู่แดนบวกบอกถึงทิศทางขาขึ้น และเส้น MACDF อยู่ในแดนบวก ทำให้ราคาอาจปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นของวัน, Fast Stochastic ดูลงเล็กน้อยในช่วงนี้, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 49.748 ถือเป็นระดับกลางๆและไม่มีสัญญาณ oversold หรือ overbought ทว่าทิศทางของเส้นกำลังเคลื่อนตัวลง, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $942-$959 ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็นตลาด Sideways-down ระหว่างแนวรับแนวต้าน ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿34.17-฿34.36
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - Directional Index ระดับวันบ่งบอกว่าทิศทางโดยรวมของราคาทองคำดูบวก, RSI อยู่ที่ระดับ 47.354 และยังถือเป็นระดับกลางๆและไม่มีสัญญาณ oversold หรือ overbought, MACD อยู่ในแดนบวกและยังคงทำให้มองราคาทองคำระยะกลางเป็นขาขึ้นอยู่ ทว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ที่ MACD ตัดเส้น Trigger, Fast Stochastic ระดับวันกำลังเคลื่อนตัวขึ้นจากระดับต่ำกว่า 20 และดูได้ว่าราคาอาจปรับตัวลงขึ้นในช่วงนี้, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นบวก อยู่เล็กน้อย โดยจะใช้แนวต้านเดิมที่ Fibo 61.8% ที่ $952 เป็นแนวรับที่สำคัญและแนวรับระดับกลางถัดไปอยู่ที่ $935 และแนวต้านราคาระยะกลางยังอยู่ที่ $1,000
- พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,550 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,560 หรือที่ $953.95) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 10 บาท ขณะที่ราคาของ GFM09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,550 บาท จะมีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 10 บาทเช่นกัน ดังนั้น จึงยังไม่สามารถหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
- กลยุทธ์และคำแนะนำ หากนักลงทุนต้องการเล่นระยะสั้นและรับความเสี่ยงได้สูงให้เล่น Short หวังทำกำไรจากการ Correction หากต้องการเล่นระยะสั้นและรับความเสี่ยงได้ต่ำให้เล่น Range Trading ระหว่างแนวรับแนวต้านที่ $942-$959 หากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้สูงให้ท่านเล่น Long โดยคาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปจนถึง High เดิมที่ $1,000 โดยปรับฐานเพียงเล็กน้อย หากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้ต่ำให้รอดูทิศทางตลาดหลังช่วง Consolidation อีกระยะหนึ่ง
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
- ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบเงินยูโร อีก -$0.0077 มาที่ $1.3895 จากที่ปิด $1.3972 เมื่อวันก่อนหน้า โดยเป็นผลจากดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 2 ปี ที่ยังขยับขึ้นเป็นสำคัญ + S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของไอร์แลนด์ ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลง ขณะที่เช้านี้อ่อนค่าลงเล็กน้อย มาที่ $1.3930
- ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ค.ปิดร่วงลง -$0.35 มาที่ $68.09 ต่อบาร์เรล จากค่าดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่าขึ้น ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันเริ่มกระเตื้องขึ้นมาที่ $68.65 ต่อบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นราว +$0.56 ต่อบาร์เรล จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในเช้านี้ + เจพี มอร์แกนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4 ปีนี้ขึ้นเป็น 65 ดอลลาร์/บาร์เรล จากที่คาดไว้ในเดือนพ.ค. ที่55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทปิดอ่อนค่าลงอีก 6 สต. มาอยู่ที่ 34.25 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34.19 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า ตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียที่อ่อนค่าลงเช่นกัน ส่วนในเช้านี้เงินบาทยังคงอ่อนค่าลงอีก 7 สต. มาอยู่ที่ 34.32 บาทต่อดอลลาร์ โดยวันนี้มีแนวรับสำคัญที่ 34.17 บาทและ 34.10 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านในวันนี้จะอยู่ที่ 34.36 บาทและ 34.48 บาทตามลำดับ
- ตลาดทองเอเชียเช้านี้ (06:30 น.) — ล่าสุดราคาอยู่ที่ 953.95 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงในเช้านี้
ปัจจัยลบ
- ตลาดเงิน (อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาว) — ราคาพันธบัตรยังคงร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ขยับขึ้นอีก +0.0129% มาที่ 1.4109% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ขยับขึ้นอีก +0.0022% มาที่ 3.8678% ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสำหรับที่อยู่อาศัยและดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อรถยนต์ให้เพิ่มสูงขึ้นได้ และจะเป็นการบั่นทอนการฟื้นตัวของการบริโภคมวลรวมด้วย
- ตลาดทอง นิวยอร์ก + ลอนดอน — ราคาทองคำปิดร่วงลงราว -$10.10 มาปิดที่ $952.50 ที่ตลาดนิวยอร์ก หลังดอกเบี้ยพันธบัตรยังคงพุ่งขึ้น + ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นด้วย
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
- กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 8 มิ.ย.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,132.15 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.43 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.4 ล้านออนซ์
- ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — คืนนี้มีประกาศตัวเลขยอดค้าส่งและค้าปลีกของสหรัฐ โดยรวมๆ คาดว่าจะชะลอตัวน้อยลง
- ภาวะเศรษฐกิจจีน — นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของจีนในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่าความต้องการสินค้าเอเชียกำลังเพิ่มมากขึ้นในตลาดสำคัญๆในชาติตะวันตกหรือไม่ และอุปสงค์ภายในประเทศของจีนจะยังคงช่วยชดเชยการส่งออกที่ย่ำแย่หรือไม่ โดยในสัปดาห์นี้ จีนจะรายงานข้อมูลการค้า + การผลิตภาคอุตสาหกรรม + การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและยอดค้าปลีก
ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) — นักเศรษฐศาสตร์กำลังเรียกร้องให้ FED ซื้อตราสารหนี้มากยิ่งขึ้นเพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ย โดย FED มีภาระผูกพันในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลราว 3 แสนล้านดอลลาร์และซื้อหนี้ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาจำนองอีกราว 1.45 ล้านล้านดอลลาร์ + ?รัฐบาลสหรัฐกำลังจัดประมูล (ขาย) พันธบัตรอายุ 3 ปี มูลค่า $3.5 หมื่นล้านดอลลาร์, อายุ 10 ปี มูลค่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ และอายุ 30 ปี อีกราว 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในสัปดาห์นี้
สนใจลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ กับ วายแอลจี (YLG) สอบถามได้ที่ 0-2287-1155