กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--มูลนิธิสยามกัมมาจล
หากเปรียบเยาวชนดั่งต้นไม้ ก็คงไม่ต่างจากต้นกล้าน้อยๆ ที่รอคอยการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย อย่างพอเหมาะ พอดี และมีคุณภาพจากผู้ใหญ่ใจดี ซึ่งจะทำให้พวกเขาเติบโต งอกงาม เป็นกล้าใหม่ที่แข็งแรงของสังคมได้ มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จึงจัดค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชนในโครงการ “กล้าใหม่... ใฝ่รู้” ระดับอุดมศึกษา ประจำปี 2551 (กล้าใหม่ปี 3) ขึ้นที่ศูนย์การเรียนรู้ชาวดิน บ้านโคกกลาง ต.หว้าทอง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดยมีนิสิตนักศึกษา 44 คน จาก 14 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรม
นางปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนกล้าใหม่ได้ทำกิจกรรมเรียนรู้ภายในตนเอง และได้ฝึกฝนทักษะการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ทักษะการสื่อสาร และได้เรียนรู้ข้ามโครงการกับเยาวชนของศูนย์การเรียนรู้ชาวดินซึ่งเป็นเครือข่ายของมูลนิธิสยามกัมมาจล พร้อมทั้งทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคมผ่านการทำบ้านดิน
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้ชาวดิน น้องๆ กล้าใหม่ยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทีมวิทยากรพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทยที่เปิดบ้านพาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย เพื่อเรียนรู้ประวัติความเป็นมาทางการเงินการธนาคารของไทย และได้พาชมพัฒนาการสื่อกลางแทนเงินตรา ตลอดทั้งประวัติความเป็นมาของ “ธนาคารไทยพาณิชย์” ธนาคารแห่งแรกของไทย และเป็นต้นแบบของธนาคารพาณิชย์แห่งอื่นๆ โดยยุคแรกเริ่มใช้ชื่อ “แบงก์สยามกัมมาจล” ทับศัพท์มาจาก “Siam Commercial Bank” และใช้ตัวย่อ SCB จวบจนถึงปัจจุบัน
จากนั้นเมื่อเยาวชนกล้าใหม่เดินทางถึงศูนย์การเรียนรู้ชาวดิน น้องๆ กล้าใหม่จึงเริ่มต้นทำกิจกรรมซึ่งสอดแทรกการเรียนรู้ภายในเป็นระยะๆ อาทิ การฝึกสติ “ภาวนาแสงสว่าง” เรียนรู้การทำงานแบบพลังกลุ่มในกิจกรรมผ่านประสบการณ์ “พลิกเสื่อ” เรียนรู้และฝึกฝนเรื่องความไว้ใจผู้อื่นกับกิจกรรม “ตุ๊กตาล้มลุก” (ทิ้งตัวไปด้านหลังให้เพื่อนรับ) และกิจกรรม “ปิดตาพาเดิน” โดยแต่ละกิจกรรมช่วยให้น้องๆ กล้าใหม่ได้ทำความรู้จักตนเอง รู้จักเพื่อน เห็นศักยภาพของกันและกัน ฝึกฝนความเป็นผู้นำที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
ในกิจกรรมต่อมา เยาวชนกล้าใหม่ยังได้เรียนรู้วิธีการทำบ้านดิน และได้ทดลองทำบ้านดินด้วยตัวเอง ตั้งแต่การย่ำโคลน การทำบล็อกดิน และการก่ออิฐทำบ้านดิน จนท้ายที่สุดได้ศาลาอเนกประสงค์ไว้ใช้ประโยชน์ของศูนย์ ระหว่างนั้นเยาวชนยังได้พบปะพูดคุยกับพ่อฮักแม่ฮักที่เยาวชนเข้าพักค้างแรมแบบโฮมสเตย์ ตลอดจนถึงการเรียนรู้วิถีชีวิต ประวัติชุมชน ประเพณีวัฒนธรรม อาชีพ และป่าชุมชนของ ต.หว้าทอง จากผู้อาวุโสและปราชญ์ชาวบ้าน โดยชาวบ้านโคกกลางยังจัด พิธีรับขวัญเยาวชน อย่างอบอุ่น ส่วนน้องๆ ชาวดินก็ได้ตระเตรียม การแสดงสืบสานวัฒนธรรม “หมอลำ” มาสร้างความประทับใจแก่พี่ๆ ก่อนพี่กล้าใหม่จะอำลาศูนย์การเรียนรู้ชาวดิน
โดยวันสุดท้ายจึงเป็นเวลาของเยาวชนกล้าใหม่ได้นำประสบการณ์ที่ได้มาถ่ายทอดผ่าน Zeed Magazine ซึ่งเป็นนิตยสารในโครงการ “กล้าใหม่...ใฝ่รู้” ฉบับพิเศษ โดยมี พี่จุ้ย “ศุ บุญเลี้ยง” นักคิดนักเขียนชื่อดังมาให้ความรู้เกี่ยวกับงานเขียนที่ดีอย่างใกล้ชิด อีกทั้งเมื่อสิ้นสุดค่ายแล้ว เยาวชนยังมีเว็บบล็อก www.okkid.net เป็นช่องทางการสื่อสารที่เชื่อมร้อยเครือข่ายเยาวชนจิตอาสาให้สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือชวนกันคิดทำกิจกรรมดีๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
หลังกิจกรรม นางสาวพรรณนิภา จันทร์เจริญ หรือ “หนูแดง” เยาวชนค่ายจากรั้วแม่โดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พูดถึงค่ายกล้าใหม่ครั้งนี้ว่า เป็นกิจกรรมที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนมากมาย และทำตลอดทั้งวันจนรู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็เป็นกิจกรรมที่สนุก ได้พูดคุยกับพ่อฮักแม่ฮักที่ไปพักค้างแรม นอกจากนั้นแล้วยังประทับใจกับการลงมือทำบ้านดิน ซึ่งต้องอาศัยการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ทำให้นึกถึงบ้านเกิดตัวเองที่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ที่ต้องการทำสิ่งๆ ดีตอบแทนบ้าง อย่างการนำแนวคิดศูนย์การเรียนรู้ชุมชนไปจัดทำพื้นที่สาธารณะ ซึ่งชาวบ้านมาทำกิจกรรมและเรียนรู้สิ่งดีๆ ร่วมกันได้
เช่นเดียวกับ นายอิทธิเทพ โกกิฬา หรือ “น้องอิฐ” จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา บอกถึงประสบการณ์ดีๆ ครั้งนี้ว่า การทำบ้านดินทำให้ได้เรียนรู้ถึงความรักในสิ่งที่ตัวเองได้ทำขึ้นมากับมือ แม้อาจไม่สวยงามนักและต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ก็ทำให้เกิดความผูกพันชนิดที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว
ส่วน นางสาวสุมินตรา พิมล หรือ “น้องมิน” จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ -แพร่เฉลิมพระเกียรติ บอกว่าการมากิจกรรมนี้ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างวัฒนธรรมประเพณีของชาวบ้านโคกกลางที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งยังได้เรียนรู้ถึงแนวคิดการกินอยู่อย่างพอเพียง ซึ่งได้แบบอย่างมาจากเยาวชนศูนย์การเรียนรู้ชาวดิน หลังจากได้มาทำกิจกรรมจิตอาสากับเพื่อนๆ ในครั้งนี้แล้ว ยังทำให้รู้สึกอยากทำกิจกรรมจิตอาสามากขึ้น โดยตั้งใจว่าจะรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ในเครือข่าย ทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคมต่อไป
ไม่เพียงแต่เยาวชนกล้าใหม่เท่านั้นที่ได้เติบโตขึ้นจากกิจกรรมค่ายคราวนี้ น้องๆ ชาวดินก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่ได้มาทำกิจกรรมร่วมกันกับพี่ๆ และรู้สึกขอบคุณพี่ๆ ที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดย นางสาววรรินทร์ โสภา หรือ “น้องโอเล่” เยาวชนแกนนำจากศูนย์การเรียนรู้ชาวดินบอกว่า ทีแรกรู้สึกเกร็งที่ทำกิจกรรมกับพี่ๆ ซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อน และมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน แต่เมื่อเห็นความตั้งใจและมิตรภาพจากพี่ๆ แล้ว ก็ทำให้อาการประหม่าหมดไป แต่กลับแทนที่ด้วยความรู้สึกประทับใจและเกิดความผูกพันทดแทน...
เรียกได้ว่า จบลงอย่างสวยงาม กับความภาคภูมิใจของชาวไทยพาณิชย์ทุกคน ที่ได้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตอย่างงดงามทั้งภายนอกและภายในของเยาวชน “กล้าใหม่...ใฝ่รู้” ซึ่งจะเป็นอนาคตของชาติต่อไป
ติดต่อฝ่ายสื่อสารสังคม มูลนิธิสยามกัมมาจล
สมเกียรติ พุทธิจรุงวงศ์ 086-547-2884
หรือติดตามความเคลื่อนไหวของมูลนิธิ
พร้อมดาวน์โหลดข่าวและภาพข่าวได้ที่ www.scbfoundation.com และ www.okkid.net