กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน —ราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้นแรงในตลาดลอนดอนและนิวยอร์กจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอย่างใกล้ชิดต่อไป + แรงกดดันของค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — ADX < 20 บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD 30 นาทีเคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกบอกถึงทิศทางขาขึ้น และเส้น MACDF อยู่ในแดนบวก ทำให้ราคาอาจปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้, Fast Stochastic ดูลงเล็กน้อยในช่วงนี้, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 67.574 ถือเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับระดับ overbought และราคาควรจะปรับตัวขึ้นอีกระยะหนึ่งก่อนจะปรับตัวลงจากการ overbought, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $947-$961 ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็นตลาด Sideways-up ระหว่างแนวรับแนวต้าน ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿34.00-฿34.30
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - Directional Index ระดับวันบ่งบอกว่าทิศทางโดยรวมของราคาทองคำดูบวก ทว่า +DI > -DI อยู่เพียงแค่ 3 และทำให้สัญญาณบวกเริ่มอ่อนแรงลง, RSI อยู่ที่ระดับ 51.067 และยังถือเป็นระดับกลางๆและไม่มีสัญญาณ oversold หรือ overbought, MACD อยู่ในแดนบวกและยังคงทำให้มองราคาทองคำระยะกลางเป็นขาขึ้นอยู่ ทว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ที่ MACD ตัดเส้น Trigger จากด้านบน, Fast Stochastic ระดับวันกำลังเคลื่อนตัวขึ้นจากระดับต่ำกว่า 20 และดูได้ว่าราคาอาจปรับตัวลงขึ้นในช่วงนี้, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นบวก อยู่เล็กน้อย โดยจะใช้แนวต้านเดิมที่ Fibo 61.8% ที่ $952 เป็นแนวรับที่สำคัญและแนวรับระดับกลางถัดไปอยู่ที่ $935 และแนวต้านราคาระยะกลางอยู่ที่ $1,000
ราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,550 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,530 หรือที่ $955.65) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 20 บาท ขณะที่ราคาของ GFM09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,580 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 50 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFM09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 50-20 = 30 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาทเท่านั้น จึงยังไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
กลยุทธ์และคำแนะนำ หากนักลงทุนต้องการเล่นระยะสั้นและรับความเสี่ยงได้สูงให้เล่น Short หวังทำกำไรจากการ Correction หากต้องการเล่นระยะสั้นและรับความเสี่ยงได้ต่ำให้เล่น Range Trading ระหว่างแนวรับแนวต้านที่ $947-$961 หากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้สูงให้ท่านเล่น Long โดยคาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปจนถึง High เดิมที่ $1,000 โดยปรับฐานเพียงเล็กน้อย หากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้ต่ำให้รอดูทิศทางตลาดหลังช่วง Consolidation อีกระยะหนึ่ง
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์อ่อนค่าลง +$0.0169 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4064 จากที่ปิด $1.3895 เมื่อวันก่อนหน้า หลังภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว + ความวิตกเกี่ยวกับการก่อหนี้สินเพิ่มขึ้นเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐที่ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์นั้น ก็ยิ่งเพิ่มปัจจัยลบสำหรับดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ทำให้ความต้องการเงินดอลลาร์ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยลดลง ขณะที่เช้านี้ยังอ่อนค่าลงต่ออีกเล็กน้อย มาที่ $1.4068 นอกจากนี้ ยังมีรายงานล่าสุดของโกลด์แมนแซกออกมาระบุให้เข้าซื้อสะสมเงินยูโร โดยคาดว่ายูโรน่าจะแข็งค่าขึ้นไปแตะ $1.45 ต่อยูโรภายใน 2-3 วันนี้ หลังนักลงทุนไม่มีความจำเป็นที่จะถือดอลลาร์ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยอีกต่อไป
ตลาดเงิน (ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล) — ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี ร่วงลง 0.10% มาที่ 1.30% ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ขยับขึ้น 0.012% มาที่ 3.854% ขณะที่การประมูลผลตอบแทนพันธบัตรออกใหม่อายุ 3 ปี มูลค่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์อยู่ที่ 1.96% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่ยังคงได้รับอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และช่วยคลายความวิตกที่ว่าปริมาณพันธบัตรจำนวนมากเกินไปอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นและเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีผู้ออกมาวิจารณ์ว่าผู้ที่เทขายพันธบัตรนั้น ได้คาดการณ์ผิดว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้
ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ค.ปิดขยับขึ้น +$1.92 มาที่ $70.01 ต่อบาร์เรล หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงกว่า 1.2% โดยโพลรอยเตอร์คาดว่า EIA จะประกาศสต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 400,000 บาร์เรลในคืนนี้
ตลาดทอง นิวยอร์ก + ลอนดอน — ราคาทองคำพุ่งขึ้นหลังเปิดตลาดที่ลอนดอน ก่อนถูกแรงขายทำกำไรออกมาบ้างในตลาดนิวยอร์ก + ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแรง ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้เกิดเงินเฟ้อเร็วขึ้น ทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อสะสมทองคำเพื่อใช้ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น
ตลาดทองเอเชียเช้านี้ (06:30 น.) — ราคาอยู่ที่ 955.65 ปรับขึ้นจากที่ปิดในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนก่อนหน้า หลังค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าอีกเล็กน้อย
ปัจจัยลบ
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทปิดแข็งค่าขึ้น 11 สต. มาอยู่ที่ 34.14 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34.25 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า ตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียที่แข็งค่าขึ้นเช่นกัน โดยในเช้านี้เงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอีกเล็กน้อยมาที่ 34.13 บาทต่อดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มแข็งค่าได้อีก โดยวันนี้มีแนวรับสำคัญที่ 34.04บาทและ 33.94 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านในวันนี้จะอยู่ที่ 34.31 บาทและ 34.48 บาทตามลำดับ
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — สหรัฐเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งร่วงลงเกินคาด -1.4% ในเดือนเม.ย.เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน สู่ 4.054 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2007 และมากกว่าตัวเลขที่สำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐจะลดลง 1.1% ในเดือนเม.ย. หลังจากลดลง 1.8% ในเดือนมี.ค.
อุปสงค์+อุปทานโลก — มีรายงานล่าสุดว่ากลุ่มธนาคารกลางในแถบยูโรโซนถือทองคำในฐานะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลงราว 18 ล้านยูโรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 9 มิ.ย.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,132.15 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.4 ล้านออนซ์
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — สหรัฐเตรียมประกาศตัวเลขสำคัญทั้งมูลค่าการค้าระหว่างประเทศและฐานะการคลังในคืนนี้
สนใจลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ กับ วายแอลจี (YLG) สอบถามได้ที่ 0-2287-1155