กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--บีโอไอ
บอร์ดบีโอไอ ไฟเขียวปรับปรุงเงื่อนไข และราคาจำหน่ายในโครงการบ้านบีโอไอ จาก 6 แสนบาทต่อหน่วย เป็น 1 ล้านบาทต่อหน่วย สำหรับโครงการในเขต 1 รับสถานการณ์ต้นทุนพุ่งทั้งที่ดินและวัสดุก่อสร้าง หวังกระตุ้นผู้ประกอบการลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยเพิ่มทางเลือกประชาชนในพื้นที่เขตเมือง
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการปรับปรุงเงื่อนไขและราคาจำหน่ายในกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง หรือบ้านบีโอไอ เพื่อให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการดังกล่าวเข้ากับสภาพการณ์ปัจจุบัน และเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการสนใจในการลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเภทดังกล่าวได้ต่อไปได้โดยเฉพาะในพื้นที่ตั้งโครงการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (เขต 1)
โดยที่ประชุมได้เห็นชอบในการปรับเงื่อนไข และราคาจำหน่าย การส่งเสริมกิจการบ้าน บีโอไอจากเดิม ดังนี้ กำหนดเงื่อนไขของผู้ประกอบการที่จะต้องจัดที่อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 50 หน่วยสำหรับทุกเขต โดยโครงการที่ตั้งในเขต 1 กรณีการก่อสร้างอาคารชุด จะต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร และจำหน่ายในราคาหน่วยละไม่เกินหนึ่งล้านบาท (รวมค่าที่ดิน) กรณีการก่อสร้างบ้านแถวหรือบ้านเดี่ยวจะต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 70 ตารางเมตร และจำหน่ายในราคาหน่วยละไม่เกิน หนึ่งล้านสองแสนบาท (รวมค่าที่ดิน)
สำหรับโครงการที่ตั้งในเขต 2 และเขต 3 ยังคงเงื่อนไขเดิม คือ จะต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 31 ตารางเมตร และจำหน่ายในราคาหน่วยละไม่เกิน หกแสนบาท (รวมค่าที่ดิน)
“จากการประเมินแล้วพบว่า การดำเนินกิจการในพื้นที่เขต 1 มี ต้นทุนหลัก ได้แก่ ที่ดิน วัสดุก่อสร้าง ซึ่งคิดเป็น 70-80%ของต้นทุนการผลิต รวมถึงค่าจ้างแรงงานปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจริง จึงเห็นชอบในราคาจำหน่ายให้สอดรับกับสถานการณ์ได้ ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านในเขตเมือง ช่วยลดภาระการเดินทาง ทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนที่อยู่อาศัยในเขต 2 และ 3 เห็นว่า ยังไม่จำเป็นต้องปรับราคาเพราะค่าที่ดินยังปรับสูงขึ้นน้อยกว่า เขต 1 และยังมีโครงการที่จำหน่ายบ้านในราคาไม่เกินหกแสนบาทได้ ” นายชาญชัยกล่าว
สำหรับโครงการบ้านบีโอไอ ได้เปิดให้มีการส่งเสริมมาตั้งแต่ปี 2536 โดยมีเงื่อนไขที่กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องจัดที่อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 150 หน่วย สำหรับในเขต 1 และไม่น้อยกว่า 75 หน่วย สำหรับในเขต 2 และเขต 3 รวมถึงกำหนดให้มีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยต้องไม่น้อยกว่า 31 ตารางเมตร มีราคาจำหน่ายไม่เกินหน่วยละหกแสนบาท(รวมค่าที่ดิน) เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตามข้อมูลล่าสุดนับตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน (มีนาคม 2552) มีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 185 โครงการ ซึ่งแนวโน้มพบว่าโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนมีทำเลตั้งอยู่ในเขต 1 มากที่สุด