กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ประเทศไทยบริจาคเงินสมทบกองทุนเพื่อการอนุรักษ์และจัดการเต่าทะเลและแหล่งที่อยู่อาศัยในมหาสมุทรอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเงินขั้นต่ำปีละ 3,687 ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รายงานเรื่องดังกล่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 ว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (13 มกราคม 2547) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นเจ้าภาพหลัก (Focal Point) ในการดำเนินการตามรายละเอียดในบันทึกความเข้าใจ IOSEA Marine Turtle MoU ที่ได้ลงนามไว้แล้ว และได้อนุมัติองค์ประกอบผู้แทนไทยเดินทางไปเข้าร่วมประชุม The Fifth Meeting of the Singnatory States to the Marine Turtle MoU ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคม 2551 ซึ่งที่ประชุมพิจารณาเสนอให้ประเทศภาคีสมาชิก รวมทั้งประเทศไทยบริจาคเงินสมทบเพื่อ การดำเนินงานของสำนักเลขาธิการ IOSEA โดยประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ ราชอาณาจักรกัมพูชา สหภาพพม่า สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้แสดงเจตจำนงในที่ประชุมที่จะร่วมบริจาค โดยขอให้มีหนังสือขอรับการสนับสนุนถึงประเทศสมาชิกอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการ IOSEA ได้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเรื่องการบริจาคเงินสมทบกองทุนเพื่อการอนุรักษ์และจัดการเต่าทะเลและแหล่งที่อยู่อาศัยในมหาสมุทรอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Technical Cooperation Trust Fund on the Conservation and Management of Marine Turtles and their Habitats of the Indian Ocean and South-East Asia) ซึ่งเป็นการบริจาคโดยความสมัครใจตาม United Nations Scale of assessment เป็นเงินขั้นต่ำปีละ 3,687 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 11,061 ดอลลาร์สหรัฐทุกสามปี โดยบริจาคเข้า UNEP Trust Fund Account No.485-002809
โดยประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการมีแผนการจัดการและอนุรักษ์เต่าทะเลทั้งในระดับชาติและภูมิภาคที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดปัญหาการกีดกันทางการค้าจากกรณีการบังคับใช้ Turtle Excluder Device (TEDs) (เครื่องมือแยกเต่าทะเลออกจากอวนลาก) อีกทั้งเป็นการรักษาชื่อเสียงและบทบาทของประเทศไทยในด้านการอนุรักษ์เต่าทะเลระดับโลก และโดยที่เต่าทะเลเป็นสัตว์ทะเลที่มีการเคลื่อนย้ายถิ่นไกล จึงต้องมีความร่วมมือในภูมิภาคในการดำเนินการเพื่ออนุรักษ์และจัดการเต่าทะเลและแหล่งที่อยู่อาศัยได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ดังนั้น ประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีบทบาทและมีชื่อเสียงด้านการอนุรักษ์เต่าทะเลระดับโลกและได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ จึงเห็นควรสนับสนุนการบริจาคเงินสมทบดังกล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
กลุ่มสื่อสารองค์กร www.dmcr.go.th
โทรศัพท์/โทรสาร ๐ — ๒๒๙๘ — ๒๐๒๐