กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--กทม.
กทม.ประกาศเกียรติคุณ 282 เยาวชน จาก 39 สถาบัน ผู้เข้าร่วมโครงการค่ายอาสาพัฒนาชนบท ปี 2552 ส่งเสริมเยาวชนให้มีจิตอาสาในการบำเพ็ญประโยชน์ พร้อมทำความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการค่ายอาสาพัฒนาชนบท ปี 2552 ณ อาคารลุมพินีสถาน สวนลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ให้การสนับสนุนมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จัดโครงการดังกล่าวขึ้นเมื่อวันที่ 19-25 เม.ย. 52 ณ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยให้งบประมาณสนับสนุนการจัดกิจกรรมฯ สำหรับเยาวชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจำนวน 140 คน แต่เนื่องจากมีเยาวชนจำนวนมากประสงค์เข้าร่วมโครงการ กรุงเทพมหานครจึงประสานขอรับงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อสร้างเครือข่ายเยาวชนร่วมทำความดีตอบแทนคุณแผ่นดินเพิ่มขึ้น โดยมีเยาวชนร่วมโครงการทั้งสิ้น 282 คน จาก 39 สถาบันการศึกษา แบ่งเป็นระดับอุดมศึกษา จำนวน 80 คน และระดับมัธยมปลาย จำนวน 202 คน พร้อมกันนี้ ยังได้รับการสนับสนุนการประกันภัยในวงเงินคุ้มครอง 30 ล้านบาทจากบริษัทเมืองไทยประกันภัย โรงเรียนบ้านย่านซื่อ และโรงเรียนบ้านรวมไทยที่สนับสนุนสถานที่จัดกิจกรรมและที่พัก และการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนการเดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-หัวหิน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
กิจกรรมค่ายอาสาพัฒนาชนบท ปี 2552 เป็นกิจกรรมที่มีส่วนในการสนับสนุนและส่งเสริมให้เยาวชนมีจิตอาสาในการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม รู้จักเสียสละและอดทนเพื่อสนองพระราชปณิธาน “รู้รักสามัคคี” เสริมสร้างอุดมการณ์ “เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน” และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้รับประสบการณ์จากการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจริงตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เช่น โครงงานการสร้างฝาย การบรรยายโครงการชลประทานตามพระราชดำริฯ และฝึกปฏิบัติจริงเกี่ยวกับการสร้างฝายขนาดเล็ก หรือโครงงานสวัสดิการ เป็นต้น โดยเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะต้องรู้จักรับผิดชอบทั้งตนเองและส่วนรวม รู้จักการบริหารจัดการแบ่งงานกันทำ เพราะสมาชิกค่ายฯ ต้องอยู่กันเอง ปกครองกันเอง เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ห่างๆ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมค่ายอาสาพัฒนาชนบท เป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายด้านเยาวชนของกรุงเทพมหานคร “เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน” ซึ่งเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการนอกจากจะได้เปิดโลกทัศน์ที่กว้างขึ้นแล้ว ยังได้รับความภาคภูมิใจจากการทำความดี พร้อมที่จะเสียสละเพื่อส่วนรวม มีความสามัคคีและคุ้นเคยระหว่างสมาชิกชาวค่าย ซึ่งขอให้เยาวชนทุกคนนำสิ่งที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรมไปใช้ในการพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต พร้อมทั้งเป็นแกนนำในการชักชวนเพื่อนๆ จากสถาบันของตนเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะประโยชน์อื่นๆ ต่อไป