กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--IR PLUS
'เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน' มั่นใจปีนี้ปั๊มรายได้ทะลุเป้าหมายโตเพิ่ม 10% จากปีก่อนได้สำเร็จ แม้สารพัดม็อบรุมและ ธุรกิจแข่งขันเดือด เหตุเริ่มรับรู้รายได้จากงานประมูลของเทศบาลนครราชสีมา ส่วนกรณีชาวบ้าน จ.สระบุรี บุกร้องเรียนนายกฯ ถึงทำเนียบรัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เหตุเป็นเรื่องการร้องเรียนเพื่อให้ปลด ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี หลังจากไม่พอใจเรื่องการทำงาน 'สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ' ย้ำอีกครั้งกระบวนการกำจัดขยะได้มาตรฐานและถูกต้องตามเกณฑ์ของกรมโรงงานฯ ยืนยันพร้อมเปิดรับการตรวจสอบจากทุกหน่วยงาน เพื่อให้เห็นถึงความโปร่งใสในการทำธุรกิจ
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/52 ว่า จะพยายามรักษาการเติบโตให้ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/52 ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 111 ล้านบาท (ยังไม่รวมงานโครงการกำจัดขยะเทศบาลนครราชสีมามูลค่า 412 ล้านบาท) ส่วนทั้งปียังเชื่อมั่นว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 611 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทฯ มีจุดแข็งที่ให้บริการครบวงจรทั้งหลุมฝังกลบ บำบัด รีไซเคิล และเตาเผา ถือเป็นผู้นำในธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ
นอกจากนี้ จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการกำจัดขยะเทศบาลนครราชสีมา มูลค่ารวม 412 ล้านบาท และบริษัท อัคคีปราการ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่บริหารเตาเผาขยะความร้อนสูง ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ จะพลิกมามีกำไรเป็นครั้งแรก ก็จะสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ยิ่งมีทิศทางที่ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ในครึ่งปีหลังจะมุ่งเน้นหาลูกค้ารายใหม่เพิ่มมากขึ้น เพื่อมาชดเชยลูกค้ารายเก่าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าในครึ่งปีหลังจะมีงานเข้ามาให้บริษัทฯเข้าร่วมประมูลอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีโรงงานอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้เข้าระบบกำจัดขยะที่ถูกต้องตามกระบวนการของกรมโรงงาน
"มั่นใจว่าในปีนี้ 'เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน' จะผลักดันรายได้ปีนี้ทั้งปีให้เติบโตต่อเนื่องในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว และมีเรื่องกรณีการร้องเรียนเรื่องบ่อกำจัดขยะจากชุมชนบ่อยครั้ง แต่เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถพิสูจน์ได้ว่า ศูนย์บริหารและจัดการกากอุตสาหกรรมของบริษัทฯ เป็นศูนย์กำจัดขยะที่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และลูกค้าเข้าใจในธุรกิจจึงทำให้ปัจจัยดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ยังจะเดินหน้าเข้าประมูลงานต่อเนื่อง เพราะมีโรงงานหลายแห่งที่ต้องการเข้ารับการกำจัดขยะในระบบตามเกณฑ์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งก็เป็นโอกาสที่ทำให้เรายังเติบโตได้"
นายสุวัฒน์ กล่าวชี้แจงต่อถึงกรณีที่ชาวบ้านจาก จ.สระบุรี ขอพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เรื่องได้รับผลกระทบจากบ่อกำจัดขยะอุตสาหกรรมว่า การร้องเรียนของชาวบ้านในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทฯ เนื่องจากเป็นการเรียกร้องขอให้ย้ายและลงโทษนางวารุณี จินารัตน์ ผู้บริหารโรงพยาบาลราชวิถี โดยระบุว่าบกพร่องต่อหน้าที่ผู้บริหารโรงพยาบาลราชวิถี และกลั่นแกล้งแพทย์ผู้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือราษฎรที่คาดว่าเจ็บป่วยจากสารพิษและขอไม่ให้ย้ายแพทย์หญิง อรพรรณ เมธาดิลกกุล ออกไปจากโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทแต่ประการใด
'การมายื่นหนังสือของชาวบ้านในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน แต่มีสาเหตุมาจาก ความขัดแย้งของ ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี กับข้าราชการในสังกัด แต่ใช้ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน เป็นเหตุแห่งความขัดแย้ง ซึ่งในข้อเท็จจริงปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติไม่ได้มีปัญหา ส่วนกระบวนการตรวจสอบคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางราชการ ซึ่งทางบริษัทฯ ยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือตลอดเวลา เพราะมั่นใจว่าการทำงานทุกขั้นตอนมีความโปร่งใสและดำเนินการถูกต้องและได้มาตรฐาน เนื่องจากเราเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีผู้ถือหุ้นเป็นพันคนทำอะไรต้องโปร่งใส ถูกต้องและตรวจสอบได้อยู่แล้ว”
นายสุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ศูนย์บริหารและจัดการกากอุตสาหกรรมของบริษัทฯ เป็นศูนย์กำจัดขยะที่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ตรวจสอบและเฝ้าระวังเรื่องผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด ทั้งด้านสภาพอากาศ น้ำ และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบผลที่ได้จากการตรวจวัดว่าการดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นสาเหตุในการก่อมลพิษทางอากาศให้แก่ชุมชนหรือไม่เป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่ มิถุนายน 2550 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และพบว่า ศูนย์บริหารและจัดการกากอุตสาหกรรมของบริษัทฯ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งเรื่อง น้ำ อากาศ จนเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้เคยถูกร้องเรียนจากผู้แทนชาวบ้านตำบลหนองปลาไหล จ.สระบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการของบริษัทฯ แต่หลังจากนั้น กลุ่มผู้ร้องเรียนดังกล่าวได้ยื่นหนังสือถอนเรื่องร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2551 ต่อ เลขาธิการวุฒิสภา หลังจากผู้ร้องเรียนได้ตรวจสอบและรับฟังคำชี้แจงจากบริษัทฯ แล้วพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมิได้เกิดจากการประกอบกิจการของ BWG แต่อย่างใดทั้งสิ้น และหลังจากนั้นมีกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีมีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากที่มีชาวบ้านประท้วงปิดถนนพหลโยธินเพื่อเรียกร้องให้ปิดศูนย์บริหารและจัดการกากอุตสาหกรรม จังหวัดสระบุรี ทำให้มีการหยุดประกอบกิจการเพียง 1 วัน แต่หลังจากนั้นก็มีคำสั่งออกมายกเลิกคำสั่งดังกล่าว เพราะเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการได้ตามปกติ และไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อธุรกิจของบริษัทฯ
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี(ฟ้า)
Tel. 02-554-9395 E-mail : jurarat@irplus.in.th