กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--ไฟว์สตาร์
“ ลองของ ” ภาพยนตร์สยองขวัญส่งท้ายปี’48 ของไฟว์สตาร์ในปีนี้ ปิดกล้องพร้อมฉายแน่ๆ ต้นเดือนธันวาคมนี้ เป็นผลงานเรื่องแรกของ“ โรนินทีม ” กลุ่มคนทำหนัง 7 คนที่รวมตัวกันทำงาน ลองของ นำแสดงโดย มะหมี่ : นภคปภา นาคประสิทธิ์ รับบทเป็นครูพนอ และ ทีมนักแสดงหน้าใหม่ ได้แก่ นะโม ทองกำเหนิด ,กรกช วรมุกสิก , หทัยวรรณ งามสุคนธภูษิต , ชนิดา สุริยะกำพล , อัครินทร์ ศิวพรพิทักษ์ และ ปวริศร์ วงศ์พานิช เนื้อหาของภาพยนตร์เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเด็กวัยรุ่น 6 คน ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่ต่างจังหวัด ปัจจุบันทุกคนต่างก็แยกย้ายกันเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ และพวกเขาทั้ง 6 คนก็ได้มีโอกาสกลับมาพบกันอีกครั้งเพื่อมาเยี่ยมครูที่เคยสอนพวกเขามาเมื่อสมัยมัธยม แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าการกลับมาของพวกเขาครั้งนี้จะทำให้ “ ความลับ ” บางอย่าง....ที่เพื่อนรักทั้ง 6 ไม่เคยปริปากบอกกันมันจะถูกเปิดเผย และตอบแทนเหล่าเพื่อนรักด้วยความตาย เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่....ต้องกลัวจนตัวสั่น สยดสยองเกินกว่าจินตนาการ
ทางด้าน ก้องเกียรติ โขมศิริ หรือ โขม ในฐานะคนเขียนบทและตัวแทนของโรนินทีมเล่าถึงที่มาของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ เริ่มต้นที่เขียนบทเรื่องนี้ก็มีความคิดว่าตอนนี้เรามักจะเห็นหนังผี หนังสยองขวัญที่มีรูปแบบเดิมๆ เต็มไปหมด คือรู้สึกว่ามันมีแต่ปริมาณ มีรูปแบบที่ซ้ำๆ กัน ก็เลยอยากจะทำหนังสยองขวัญที่มีรูปแบบที่แตกต่างออกไป เน้นการบีบคั้นอารมณ์ในแบบที่ไม่กระชาก ไม่เน้นจังหวะสะดุ้ง หรือ อาการตกใจ แต่มันจะเป็นอาการสยองที่ค่อยๆ บีบอารมณ์คุณ เปิดเผยชัดเจน แต่หนักขึ้นเรื่อยๆ และ สุดท้ายมันจะนำพาไปถึงจุดที่ป่วยสุดของความน่ากลัว ...มันเป็นอีกรูปแบบที่เราคิดว่ามันน่าสนใจ และประกอบกับช่วงก่อนที่จะลงมือเขียนได้ไปอ่านเจอข่าวที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ที่คลั่งไสยศาสตร์ คิดว่าตัวเองติดต่อกับพระอินทร์ได้ พอดีมีลูกสาวอยู่ก็ทำการมัดตรึงด้วยสายไฟ แล้วเอาไขควงตอกเจาะที่กลางหน้าผาก ประมาณว่าเป็นการทำให้ตาสว่าง และ เป็นการชำระล้าง มารู้ทีหลังว่า ลูกสาวนั้นเป็นลูกที่เกิดจากชายคนหนึ่งที่ทำเสน่ห์ใส่เธอ เป็นเด็กที่เกิดมาจากความไม่ตั้งใจ ...... เธอก็เลยเชื่อว่าเด็กคนนี้สกปรกมาตลอดเลยจัดพิธีทำความสะอาดซะ ผมอ่านข่าวนี้แล้วมันติดใจมาก .... มันเห็นได้ชัดว่า .... สุดท้ายแล้วความเชื่อเรื่องอย่างนี้ไม่เคยหายไปจากสังคมไทย.....อีกข่าวหนึ่งที่ผมสนใจก็คือเดี๋ยวนี้เด็กวัยรุ่นนิยมไปสัก แล้วออกมาท้าประลองความเหนียวกันหรือข่าวความเชื่อที่ว่า
เด็กสมัยนี้ที่ถ้าชอบใคร ก็จะเอารูปมาแปะติดกับรูปตัวเองแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์ ข้อมูลเหล่านี้มันทำให้ผมคิดว่าเรื่องไสยศาสตร์มีอยู่ในรากเหง้าของไทย ผมนำข่าวพวกนี้มาประมวลและก็เขียนขึ้นมาเป็นบทภาพยนตร์ ที่ต้องการสื่อให้เห็นถึงทางเลือกของวัยรุ่นช่วงข้อต่อของความเป็นเด็กกับผู้ใหญ่ เป็นหนังสยองขวัญ มีเรื่องของไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไสยศาสตร์ในเรื่องนี้คือความเลว ความชั่วที่เด็กๆ เจอ และทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดีก็ยังอยากจะเข้าไปลองมันจึงเป็นที่มาของคำว่า...ลองของ ” โขมกล่าวทิ้งท้าย
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--