กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--พับบลิค ฮิต
งานนี้ต้องยกความสนุกให้แก่คุณหนูๆ โดยเฉพาะ เมื่อ บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “เบบี้เลิฟ เพลย์แพ้นส์ มหัศจรรย์วัยเล่นเป็นเรียน” “The Miracle of Playing is Learning” เปลี่ยนเรื่องเล่นๆ ให้เป็นเรื่องการเรียนรู้ จัดกิจกรรมส่งเสริมเจ้าตัวเล็กให้สามารถพัฒนาศักยภาพทั้งทางร่างกาย สมองและจิตใจผ่านของเล่น โดยเปิดงานอย่างเป็นทางการเมื่อสุดสัปดาห์ ที่ผ่านมา ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์
จัสติน หวาง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาค บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้คุณแม่ในการใช้งาน ทำให้เราใส่ใจเกี่ยวกับการศึกษาพฤติกรรมเด็ก เพื่อนำมาออกแบบกางเกงผ้าอ้อมเด็กเบบี้เลิฟ เพลย์แพ้นส์ ที่สวมง่าย ไม่ขัดจังหวะในการเล่นของลูกน้อย
เพราะจากการศึกษาพบว่า การเล่นนั้นมีประโยชน์อย่างมากในการเสริมสร้างทักษะและพัฒนาการของเด็กทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะเด็กวัย 0-3 ขวบ การเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัยของลูกก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่มีส่วนช่วยเรื่องพัฒนาการเด็ก เราจึงจัดงาน เบบี้เลิฟ เพลย์แพ้นส์ มหัศจรรย์วัยเล่นเป็นเรียน “The Miracle of Playing is Learning” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Playing is Learning” โดยกิจกรรมภายในงาน ก็จะสอดคล้องกับแนวคิดดังกล่าวเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ในการเลี้ยงดูลูกในด้านต่างๆ ทั้งการกระตุ้นพัฒนาการด้านสมอง, อารมณ์, จิตใจ และร่างกายผ่านการเล่น เพื่อเตรียมพร้อมในการเรียนรู้ทักษะต่างๆ ต่อไปในอนาคต”
วาสนา สินธุวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า “กางเกงผ้าอ้อม เบบี้เลิฟ เพลย์แพ้นส์ ใหม่นี้ สามารถอำนวยความสะดวกต่อคุณแม่ในการใช้งาน ง่ายต่อการสวมใส่ให้ลูกและไม่ระคายเคืองต่อผิวบอบบางของเด็ก มีแผ่นใยสังเคราะห์ ที่เพิ่มพลังซึมซับ 2 ชั้น มีแผ่นซูเปอร์ แอบเซอร์เบนต์ แมจิกเจลเลเยอร์ ซึมซับดีเยี่ยมตลอดวัน ขอบขาตั้ง ป้องกันการรั่วซึมรอบโคนขา พร้อมการระบายอากาศ 100% ทำให้ผิวแห้งสบายไม่เกิดผดผื่น มีลวดลายการ์ตูนน่ารัก เสริมสร้างการเรียนรู้ มี 2 ลาย ใน 1 แพ็ค ต่างไซส์ต่างลายให้เลือก ได้แก่ NAVY (M), SAFARI (L), HAWAII (XL) และ SOLDIER (XXL) ทำให้เด็กๆ สามารถทำกิจกรรมเสริมสร้างทักษะความรู้ และจินตนาการได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับงานนี้ที่เราจัดขึ้น เนื่องจากให้ความสำคัญในเรื่องพัฒนาการเกี่ยวกับการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งสามารถให้ลูกเล่นได้อย่างเต็มที่ โดยที่คุณแม่ไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น”
บรรยากาศภายในงานถูกแต่งแต้มด้วยสีสันและกิจกรรมมากมายเพื่อการพัฒนาทักษะของเจ้าตัวเล็กโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น มุมนิทรรศการ 1st time experience มุมของเล่น ที่คุณแม่ๆ นำมาจัดแสดง, กิจกรรมดนตรีจากท้องทะเล ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ฟังเสียงเพลงหลากหลายอารมณ์, มหัศจรรย์เรือจับคู่ ให้เด็กๆ ได้สัมผัสรูปร่างหลากหลายรูปทรง, บ่อบอลปลาวาฬ, นิทานซาฟารี, ระบายสีต้นไม้, ข้ามสะพานสี และวิ่งเล่นคลานเล่นในทุ่งซาฟารี ฯลฯ
นอกจากกิจกรรมสนุกๆสำหรับคุณหนูๆ แล้ว งานนี้ยังมีเนื้อหาสาระสำหรับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย โดยเชิญวิทยากร ชื่อดัง นายแพทย์จอม ชุ่มชวย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลมนารมย์ มาร่วมบรรยายพิเศษเกี่ยวกับเรื่องพัฒนาการของเด็ก และเรื่องการเรียนรู้จากการเล่น “การเล่นคือการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญกับเด็กๆ มาก เพราะของเล่นสามารถส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยรอบด้าน ทั้งการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ อารมณ์ สติปัญญา และสังคม และที่สำคัญเด็กที่ขาดโอกาสในการเล่นและไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอ ก็มีปัญหาทางจิตใจได้”
อาจารย์ยังได้แนะนำของเล่นที่เหมาะสมกับเด็กๆ ในแต่ละวัยว่า “สำหรับเด็กขวบปีแรก ของเล่นสำคัญที่สุดของลูกก็คือพ่อแม่ เพราะการได้สัมผัส กอด จับ และมองหน้าสวยๆ ของแม่ ก็ทำให้เด็กแรกเกิดอารมณ์ดี เด็กวัยนี้จะชอบสัมผัสรูปร่างที่หลากหลาย สำรวจตรวจตราสิ่งรอบข้าง คุณพ่อคุณแม่ก็ควรเตรียมพื้นที่ที่ปลอดภัยและของเล่นที่มีเสียงกรุ๋งกริ๋ง ของเล่นที่มีความหลากหลายทั้งรูปร่าง สีสันและฟังก์ชั่น ส่วนเด็ก 1- 2 ขวบ นั้น ของเล่นก็ต้องปรับเปลี่ยนให้มีฟังก์ชั่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลูกบอล บล็อกไม้ ของเล่นที่ให้หยิบ ค้น ขว้าง ปา เคาะ หรือเรียงกันให้เป็นเรื่องเป็นราวได้ หลังจากนั้นพอเด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไป ก็ควรเน้นเรื่องจินตนาการ ของเล่นที่เหมาะสมก็ควรเป็นเซ็ตต่างๆ เช่น เซ็ททำครัว เซ็ทเที่ยวชายหาด เซ็ทฟาร์มสัตว์ เซ็ทรถยนต์ นอกจากนั้นก็ควรเป็นของเล่นที่พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น จักรยาน รถเข็น ฯลฯ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ควรปล่อยให้ลูกเล่นเพียงลำพัง พ่อกับแม่ควรเล่นกับลูกด้วย”
ไฮไลท์ของงานคงเป็นเรื่องราวความน่ารักของคุณแม่-คุณลูก เซเลบริตี้ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การเลี้ยงดูลูกให้เล่นเป็นเรียน และส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อยผ่านการเล่น ซึ่งได้แก่ ณวิภา เอี่ยมอมรพันธ์ และน้องเคท, รวิวัลย์ ชุณหะวัต ทานาก้า และน้องไอโกะ, ลอร่า ศศิธร วัฒนกุล และน้องมาร์โก้ และ ตุ๊ก-ชนกวนันท์ วัชรคุณ และน้องแพรว
เริ่มจากคุณแม่มือใหม่ น้ำฝน-ณวิภา เอี่ยมอมรพันธ์ มากับลูกสาวคนสวย น้องเคท-ณ มน วัย 1 ขวบ 6 เดือน โดยมีคุณพ่อมาร์ค-ธนพ เอี่ยมอมรพันธ์ มาให้กำลังใจ คุณแม่เล่าถึงพัฒนาการของน้องเคทว่า น้องเดินคล่องแล้ว และกำลังชอบปีนป่ายเป็นที่สุด ตอนนี้กำลังฝึกพูด น้องจะพูดตามทุกคำที่ได้ยินคุณแม่พูด “น้ำฝนจะคุยกะลูกให้มากที่สุด คุยไปเรื่อยๆ ว่าสิ่งนี้สิ่งนั้นเป็นสีอะไร รูปร่างเป็นยังไง และเล่านิทานให้ฟังทุกวัน เพื่อให้เค้าได้พัฒนาทักษะทางการพูด”
ส่วนของเล่นของน้องเคทก็จะเน้นเป็นรูปภาพ สีสัน ตุ๊กตา ของเล่นที่มีเสียงเพลง แต่ของเล่นที่ชอบที่สุดในตอนนี้คือ สิ่งของทุกอย่างที่เป็นของพ่อและแม่ “ของเล่นของน้องตอนนี้จะเป็นได้ทุกอย่าง เวลาแม่แต่งหน้า เค้าก็จะหยิบเครื่องสำอางมาแต่งด้วย เวลาคุณพ่อโทรศัพท์เค้าก็จะหยิบโทรศัพท์แม่มาคุย ส่วนของเล่นชิ้นแรกของน้องเคทคือตุ๊กตาพลาสติกที่คุณย่าซื้อมาฝาก ซึ่งเอาไว้เล่นเวลาอาบน้ำ น้องเคทจะชอบเล่นมาก เพราะตุ๊กตาสามารถดูดน้ำได้ พอบีบน้ำก็จะไหลออกมา ซึ่งของเล่นชิ้นนี้ก็เป็นการฝึกพัฒนาการมือของน้อง ให้น้องได้ฝึกใช้มือมากขึ้น” คุณแม่น้ำฝนเผย
ด้านคุณแม่คนสวย เปิ้ล-รวิวัลย์ ชุณหะวัต ทานาก้า และน้องไอโกะจัง ทายาทตัวน้อยของร้านฟูจิ วัย 2 ขวบ ก็ควงคู่กันมาออกงาน คุณแม่เผยถึงพัฒนาการของลูกสาวว่า น้องไอโกะเป็นเด็กที่มีพัฒนาการเกินไว โดยเฉพาะเรื่องของการพูด น้องพูดได้ตั้งแต่ 8 เดือน พอตอนนี้ 2 ขวบ ก็สามารถพูดเป็นประโยคยาวได้แล้ว “เปิ้ลเป็นคนชอบเด็กอยู่แล้วค่ะ พอได้เลี้ยงลูกเองก็จะพูดคุยกับลูกตลอด รวมถึงอ่านนิทานด้วย การพูดคุยและอ่านหนังสือให้ลูกฟังช่วยในเรื่องพัฒนาการของน้องได้ดีมาก ตอนนี้น้องไอโกะสามารถจำคำกลอนในหนังสือนิทานและอ่านบทยาวๆ ได้แล้ว”
ภายในงาน น้องไอโกะเป็นพี่ใหญ่กว่าเพื่อน ดังนั้นของเล่นของน้องไอโกะในวันนี้จึงแตกต่างกว่าของรุ่นน้องที่มาร่วมงาน “ของเล่นชิ้นแรกของไอโกะคือเปียโนของเล่น น้องจะชอบหัดเคาะและร้องเพลงตาม บางทีก็จะร้องพร้อมคุณแม่แล้วก็เล่นดนตรีด้วยกัน แต่ตอนนี้น้องจะชอบเล่นตามจินตนาการและเล่นบทบาทสมมุติ ของเล่นที่น้องชอบส่วนใหญ่จะเป็นพวกอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องซักผ้า เตารีด ชุดครัว ตอนนี้เปิ้ลก็ต้องร่วมเล่นกับลูก เช่น วันนี้เราจะไปตะลุยสวนสัตว์กันนะ ก็เอาของใช้ในบ้านหรือตุ๊กตาที่มีอยู่มาดัดแปลงเป็นสัตว์ต่างๆ สร้างทางเดิน สร้างกรงสัตว์ แล้วก็เดินเล่นกัน ซึ่งการเล่นในช่วงนี้จะสำคัญกับน้องมาก เพราะเมื่อลูกได้ต่อยอดจินตนาการ พอโตขึ้น เค้าก็จะเป็นเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์” คุณแม่กล่าวเพิ่มเติม
ด้านคุณแม่ลูกสอง ลอร่า ศศิธร วัฒนกุล ที่วันนี้อุ้มน้องมาร์โก้ ลูกชายคนเล็กวัย 10 เดือน มาร่วมงาน เผยว่า ตอนนี้มีความสุขมากๆ ที่ได้เลี้ยงลูกทั้งสองคน (น้องโมนิค 6 ขวบครึ่ง)เคยคิดว่าหัวใจคนเรามีแค่ดวงเดียว จะรักลูกทั้งสองคนเท่ากันได้เหรอ แต่ไม่น่าเชื่อว่า หัวใจดวงเล็กๆ ของคนเป็นแม่จะสามารถขยายให้ใหญ่และรักลูกได้เท่ากัน
“ความแตกต่างด้านพัฒนาการของลูกทั้งสองคนนั้น ไม่เหมือนกันเลย คงด้วยเหตุที่น้องมาร์โก้เค้าเป็นผู้ชาย เลยจะออกแนวบ้าพลัง ชอบใช้กำลังเยอะ เล่นของเล่นก็จะตอกแรงๆ ส่วนน้องโมนิคตอนเล็กๆ เค้าก็แอ็คทีฟนะคะ แต่จะแรงเยอะไม่เท่ามาร์โก้ ลอร่าก็ตั้งใจจะเลี้ยงลูกทั้งสองคนในลักษณะเดียวกัน ก็คือ เน้นสายสัมพันธ์พ่อแม่ลูกและให้อยู่กับธรรมชาติมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการคลอดเองตามธรรมชาติ เลี้ยงลูกเองในลักษณะโฮมสคูล ที่สำคัญให้เค้าได้เล่นและเรียนรู้กับธรรมชาติ” คุณแม่คนสวยเผยของเล่นสำคัญของพี่สาวและน้องชายคู่นี้ ส่วนใหญ่จึงเป็นธรรมชาติ “ของเล่นชิ้นแรกของลูกก็คือคุณพ่อคุณแม่ค่ะ มาร์โก้โชคดีกว่าโมนิค เพราะเค้ามีของเล่นคือพี่โมนิคเพิ่มมาอีกคน โมนิครักน้องมาก ชอบเล่นกับน้อง ไม่ว่าจะเป็นการหยอกล้อ สัมผัส ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ และพัฒนาการของน้องมาร์โก้ได้ดี” คุณแม่ลอร่าเผยถึงของเล่นชิ้นโปรดของน้องมาร์โก้
“สิ่งจำเป็นเวลาออกจากบ้านพร้อมกับลูกคือผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปค่ะ เพราะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณแม่เยอะมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่เลี้ยงลูกเอง การเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปก็จะเน้นความนุ่มสบาย สวมใส่ง่าย และสามารถล็อคความชื้นได้ดี เพราะอย่างเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงจะเปียกไม่เหมือนกัน ตอนลอราเลี้ยงโมนิค เราจับผ้าอ้อมตรงก้นก็จะรู้ว่าเปียกแล้ว แต่พอถึงตามาร์โก้ เราจับตรงก้นยังแห้งอยู่แต่พอมาดูด้านหน้ากลับเปียกเต็มเลย ส่วนลวดลายของผ้าอ้อมก็สำคัญ โมนิคเค้าจะเป็นคนช่างเลือก ยิ่งมีลวดลายน่ารักๆ หลายๆแบบ อย่าง เบบี้เลิฟ เพลย์แพ้นส์ เค้าคงสนุกที่จะเลือกผ้าอ้อมให้น้องค่ะ” คุณแม่กล่าวปิดท้าย
ส่วนคุณแม่ยังสาว ตุ๊ก-ชนกวนันท์ วัชรคุณ วันนี้ควงทั้งคุณพ่อ บ๊วย- เชษฐวุฒิ ซึ่งมาร่วมเป็นพิธีกรของงาน และน้องแพรว-แพรวพิชชา วัชรคุณ คุณแม่เผยถึงพัฒนาการของน้องแพรวว่า “ตอนนี้น้องแพรวกำลังหัดเดิน เตาะแตะได้หลายก้าวแล้วค่ะ ของเล่นสำคัญที่สุดของน้องแพรวก็คือพ่อกับแม่ค่ะ ตุ๊กจะคุยและเล่นกับลูกตลอด ยิ่งพี่บ๊วยด้วยแล้วจะเห่อลูกมากค่ะ เค้าจะคอยบันทึกประจำวันของลูกทุกวัน ในสมุดบันทึกจะมีดาวหนึ่งดวงทุกหน้า ซึ่งติดไว้ตรงที่พี่เค้าบันทึกพัฒนาการของลูก เช่น วันนี้ลูกเดินได้ 5 ก้าวแล้วนะ พ่อดีใจจังเลย นอกจากนั้นก็จะเป็นการบันทึกประจำวันทั่วไปของลูก เช่น วันนี้ลูกไปออกงานกับพ่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ลูกประจบผอ. โรงพยาบาลด้วยการยิ้มแฉ่งใหญ่เลย”
นอกจากตัวคุณพ่อคุณแม่เองแล้ว น้องแพรวยังชอบหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ คุณแม่ตุ๊กเผยว่า ของเล่นชิ้นโปรดของลูกสาวคือหนังสือนิทาน “ทั้งตุ๊กเองและพี่บ๊วยชอบอ่านหนังสือค่ะ บ้านเราจะมีชั้นหนังสือที่มีหนังสือเยอะมาก และ 50 เล่มในนั้นก็เป็นหนังสือของลูกสาว น้องแพรวเริ่มคลานได้เพราะหนังสือนิทาน ซึ่งคุณพ่อเค้าได้เอาหนังสือนิทานล่อให้เค้าคลานมาหา เพราะเค้าชอบอ่านนิทานมาก เรื่องโปรดที่สุด คือเรื่องกุ๊กไก่ปวดท้องค่ะ”
เรื่องราวความผูกพันและกิจกรรมการเล่นของคุณแม่และคุณลูกเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ผ้าอ้อมเด็กเบบี้เลิฟ เพลย์แพ้นส์ ต้องการถ่ายทอดให้คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่สนับสนุนการเล่นของลูกน้อยอย่างเต็มที่ เพราะการเล่นอย่างเหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย สามารถเนรมิตให้เจ้าตัวเล็กของคุณเกิดความคิดสร้างสรรค์และเป็นอัจฉริยะได้ในอนาคต...
บริษัท พับบลิค ฮิต จำกัด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 public hit