กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — ราคาทองคำมีแนวโน้มทรงตัวและอาจปิดเพิ่มขึ้นได้ จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังเศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวมากขึ้นและทำให้ค่าเงินยูโรขยับขึ้นด้วย นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันเพิ่มเติมจาก BRIC ที่พยายามหันไปลงทุนในพันธบัตรของชาติสมาชิกมากขึ้น โดยการลดการถือครองพันธบัตรของสหรัฐลง (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source: Reuters Daily
Source: Reuters 30 Min
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — ADX < 20 บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD และ MACDF 30 นาทีเคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 และทำให้ทิศทางระยะสั้นไม่ชัดเจน, Fast Stochastic กำลังเคลื่อนตัวขึ้นและทำให้ราคาดูบวกในช่วงต้นของวัน, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 37.634 ถือเป็นระดับ Oversold และราคาอาจจะปรับตัวขึ้นต่อ, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $927-$940 ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็นตลาด Sideways-up ระหว่างแนวรับแนวต้าน ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿34.04-฿34.21
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - ADX < 20 บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 38.851 ถือเป็นระดับที่เข้าใกล้ระดับ Oversold, MACD อยู่ในแดนบวกและยังคงทำให้มองราคาทองคำระยะกลางเป็นขาขึ้นอยู่ ทว่า MACD ตัดเส้น Trigger จากด้านบนและดูได้ว่าเป็นสัญญาณกลับตัว, MACDF อยู่ในแดนลบและทำให้ดูราคาเป็นขาลง, Fast Stochastic ระดับวันอยู่ต่ำกว่า 20 และดูได้ว่าราคาอาจปรับตัวขึ้นในช่วงนี้, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นบวก อยู่เล็กน้อย โดยจะใช้แนวต้านที่ Fibo 61.8% ที่ $952 เป็นแนวต้านที่สำคัญของสัปดาห์นี้และแนวต้านราคาระยะกลางต่อไปอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $922 และแนวรับราคาระยะกลางต่อไปอยู่ที่ $910
ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,200 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,160 หรือที่ $933.45) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 40 บาท ขณะที่ราคาของ GFM09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,350 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 190 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFM09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 190-40 = 150 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท จึงคุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทปิดแข็งค่าขึ้น 1 สต. มาอยู่ที่ 34.10 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34.11 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้เงินบาทได้อ่อนค่าลง 7 สต. มาที่ 34.17 บาทต่อดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงได้อีก โดยวันนี้มีแนวรับสำคัญที่ 34.04 บาทและ 33.98 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.21 บาทและ 34.32 บาท
ภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน — เยอรมันประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี ที่ 44.8 ในเดือนมิถุนายนและสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เพียง 35 จากระดับ 31.1 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจเยอรมันได้พ้นจุดต่ำสุดแล้ว แม้รัฐบาลเยอรมันยังคงคาดว่า GDP ปีนี้อาจติดลบถึง 6% และอัตราการว่างงานจะพุ่งสู่จุดสูงสุดที่ 10.5% ในปีหน้า จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 8.2% ก็ตาม แต่ก็ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นทันทีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อในเขตยูโรโซนยังเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% MoM เท่านั้น แต่หากเทียบกับช่วงปีที่แล้วกลับไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะลดลงในเดือนถัดๆไปอีกด้วย ขณะที่ค่าจ้างกลับเพิ่มขึ้นราว 3.6% YoY ในไตรมาสแรก ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้นในช่วงต่อไปด้วย
BRIC - บราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน หารือในที่ประชุมที่จะกระจายความเสี่ยงจากการถือพันธบัตรในรูปเงินดอลลาร์มาเป็นการเข้าถือพันธบัตรที่ออกโดยสมาชิกในกลุ่มกันเอง ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงทันที จากการถูกลดบทบาทครั้งนี้
ปัจจัยลบ
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์อ่อนค่าลง +$0.0041 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.3830 จากที่ปิด $1.3789 เมื่อวันก่อนหน้า หลังดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจเยอรมันพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี + BRIC เตรียมกระจายความเสี่ยง โดยหันมาซื้อพันธบัตรของประเทศสมาชิกด้วยกันมากขึ้น ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์แข็งค่ากลับขึ้นมา -$0.0017 มาที่ $1.3813
ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ค.ปิดร่วงลงเล็กน้อย -$0.15 ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนสูงมาก โดยร่วงลงมาต่ำสุดที่ $69.80 ก่อนทะยานขึ้นไปถึง $72.77 และสุดท้ายลงมาปิดตลาดที่ $70.47 ต่อบาร์เรล จากเหตุความไม่สงบในชาติผู้ผลิตสำคัญทั้งอิหร่านและไนจีเรีย โดยเช้านี้ราคาน้ำมันดิบยังร่วงลงอีก -$0.34 มาที่ $70.13 จากการแข็งค่าของดอลลาร์
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — สหรัฐประกาศดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม -1.1% แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง -0.9% ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.2% MoM ในเดือนพ.ค. แต่ลดลง 5.0% YoY ส่วน PPI พื้นฐานร่วง 0.1% MoM + ยอดค้าปลีกร่วงลงต่ออีก สวนทางกับยอดสร้างบ้างใหม่ที่พุ่งขึ้น 17.2% มาที่ 5.32 แสนยูนิตในเดือน พ.ค. ทำให้ภาพการฟื้นตัวคลุมเครือ แต่อย่างน้อยก็ไม่มีแรงกดดันให้เกิดเงินเฟ้อในช่วงนี้ และยังไม่เป็นผลดีต่อราคาทองคำมากนัก
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) — รายงานการถือทองคำในฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศถึง ณ. วันที่ 12 มิ.ย. ลดลง 21 ล้านยูโร จากสัปดาห์ก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 16 มิ.ย.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,132.15 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.39 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.4 ล้านออนซ์
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — สหรัฐเตรียมประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค + ปริมาณสำรองน้ำมันดิบและดุลบัญชีเดินสะพัดในคืนนี้
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com