กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
สายการบินเอทิฮัด ประกาศซื้อเครื่องยนต์จาก จีอี เอวิเอชั่น, โรลส์-รอยซ์, เอ็นจิ้น อัลลิอานซ์*, และ อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์โรว เอ็นจิ้น (ไอเออี)** เพื่อใช้ประกอบในเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้งซึ่งสายการบินฯได้ทำการสั่งซื้อไปในงานฟานโบโร อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์โชว์ เมื่อปีที่แล้ว
ข้อตกลงจากงานฟานโบโร ประกอบไปด้วยคำยืนยันสั่งซื้อเครื่องบินกว่า 100 ลำ พร้อมสิทธิ์พิเศษทางการค้า (Option) และสิทธิ์ในการซื้อ (Purchase rights) อีกกว่า 105 ลำ ซึ่งมีกำหนดส่งมอบระหว่างปี 2554 ถึง 2563
โดยสายการบินเอทิอัด ซึ่งมีฐานการบินอยู่ที่อาบูดาบี ได้ทำการประกาศยืนยันการสั่งซื้อเครื่องยนต์จากงานปารีส แอร์ โชว์ ดังนี้
เครื่องยนต์ Genx จำนวน78 เครื่อง สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 787 ทั้งสิ้น 35 ลำ
เครื่องยนต์ Engine Alliance GP7200 จำนวน 45 เครื่อง สำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ380ทั้งสิ้น 10 ลำ
เครื่องยนต์ IAE V2500 จำนวน 44เครื่อง สำหรับเครื่องบินแอร์บัสเอ320 แบบลำตัวแคบ ทั้งสิ้น 20 ลำ
สำหรับเครื่องยนต์จากโรสรอยส์ และ จีอี เอวิเอชั่น จะได้นำมาใช้ในฝูงบินแอร์บัส เอ350 ฝูงใหม่ รวมทั้งเครื่องโบอิ้ง 777 ที่จะมีการส่งมอบต่อไปในอนาคต ตามที่ได้ประกาศไปในงานฟานโบโร
Rolls-Royce Trent XWB จำนวน 50 เครื่อง สำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ350 ใหม่จำนวน 25 ลำ
เครื่องยนต์ 22 GE90 จำนวน 22 เครื่อง สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777 300 อีอาร์ ใหม่จำนวน 10 ลำ
คำยืนยันสั่งซื้อเครื่องยนต์จำนวน 239 เครื่อง รวมถึงอะไหล่อีก 19 เครื่อง มีมูลค่าทั้งสิ้น 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมทั้งสัญญาในการดูแลรักษา เมื่อรวมสิทธิ์พิเศษทางการค้า (Option) และสิทธิ์ในการซื้อ (Purchase rights) จะมีจำนวนเครื่องยนต์ทั้งหมดถึง 469 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 1หมื่น 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ*** รวมทั้งสัญญาการดูแลรักษา โดยยอดการสั่งซื้อในครั้งนี้ ถือเป็นการทำลายสถิติการสั่งซื้อเครื่องยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมการบิน
มร.เจมส์ โฮแกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด ได้ประกาศข้อตกลงการสั่งซื้อดังกล่าว ในวันที่สองของการจัดงานปารีส แอร์ โชว์ ณ เลอ บูเกต์ เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส
มร.เจมส์ โฮแกน กล่าวว่า “ท่ามกลางภาวะทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ที่ทุกคนในอุตสาหกรรมการบินต่างก็ต้องเผชิญ สายการบินเอทิฮัดของเรา ยังคงสานต่อแผนงานในการขยายธุรกิจระยะยาว ตามแบบฉบับของเราซึ่งผ่านการไตร่ตรอง และควบคุมมาเป็นอย่างดี”
“ฝูงบินใหม่ รวมทั้งเครื่องยนต์ มีกำหนดการส่งมอบในช่วงปีพ.ศ.2554 จนถึงพ.ศ.2563 ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อแผนธุรกิจที่จะมุ่งมั่นเติบโตด้วยความมั่นคง โดยแผนการทั้งหมดนี้ จะทำให้สายการบินเอทิฮัด ก้าวสู่การเป็นสายการบินชั้นนำที่ดีที่สุดในโลก ควบคู่ไปกับการพัฒนาของเมืองอาบูดาบี ในฐานะศูนย์กลางทางการค้าและการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของโลก
“แม้ว่าเราต้องดำเนินงานท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ท้าทาย แต่เราก็มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในอนาคตของเรา ทั้งนี้ด้วยการเชื่อมโยงและการประสานงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับอาบูดาบี ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่การพัฒนาและเปลี่ยนผ่านที่น่าตื่นเต้นเช่นกัน นอกจากนั้นเรายังมีเครื่องยนต์และฝูงบินใหม่จากพันธมิตรของเรา ที่จะช่วยเสริมการให้บริการให้มึประสิทธิภาพสูงสุด”
หลักที่ใช้ในการคัดเลือกเครื่องยนต์ตามข้อตกลงดังกล่าว คำนึงถึงศักยภาพของเครื่องยนต์แต่ละชนิดเป็นสำคัญ โดยเครื่องยนต์ที่เอทิฮัดเลือกใช้สำหรับเครื่องบินแบบลำตัวกว้างและมีขนาดยาว เป็นเครื่องยนต์ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระดับสูง รวมทั้งสามารถประหยัดการใช้เชื้อเพลิงมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมทางอากาศเพื่อให้สมกับการเป็นหนึ่งในสายการบินที่ได้ชื่อว่าคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
ในเดือนกรกฏาคม 2551 สายการบินเอทิฮัด ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการอุตสาหกรรมการบินด้วยการประกาศยืนยันการสั่งซื้อเครื่องบินใหม่กว่า 100 ลำ โดยสายการบินได้ยืนยันการใช้เครื่องยนต์โรสรอยส์ Trent XWB สำหรับเครื่องแอร์บัส เอ350 จำนวน 25 ลำ ในขณะที่ใช้เครื่องยนต์ GE90 สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 10 ลำ
มร.โฮแกน กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากการทำวิจัยและการแข่งขันที่ค่อนข้างเข้มข้นในกลุ่มผู้ผลิต พวกเราพร้อมแล้วที่จะประกาศการสั่งซื้อเครื่องยนต์ที่จะนำมาใช้กับเครื่องบินอีก 65 ลำ ซึ่งประกอบไปด้วยโบอิ้ง 787 35 ลำ แอร์บัส เอ380 10 ลำ และ แอร์บัสเอ320 20 ลำ ข้อตกลงดังกล่าว นับเป็นการสั่งซื้อเครื่องยนต์ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งนี้คำนึงถึงหลักการใช้งาน สิ่งแวดล้อมและการเงินของเราเป็นสำคัญ”
เดวิด จอยซ์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีอี เอวิเอชั่น กล่าวว่า “นับเป็นเกียรติของเราอย่างสูงที่สายการบินเอทิฮัดได้เลือกเครื่องยนต์ GEnx และ GE90-115B สำหรับเครื่องโบอิ้ง 787 และ 777-300 อีอาร์ โดยพวกเราจะได้มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพฝูงบินของเอทิฮัดสู่การบริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพ ทั้งนี้ด้วยเครื่องยนต์ทั้งสองชนิดของเราที่มาพร้อมกับข้อดีด้านการดูแลรักษา นอกจากนั้น ทีมงานของเราพร้อมมอบบริการหลังการติดตั้งเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสายการบินในอีกหลายปีข้างหน้านี้อย่างเต็มที่”
จิมส์ โมราเวเชก ประธานบริษัทเอ็นจิ้น อัลลิอานซ์ กล่าวว่า “พวกเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ เครื่องยนต์ GP7200 ได้รับการคัดเลือกให้ใช้สำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ380ของสายการบินเอทิฮัด ผลิตภัณฑ์ของเราโดดเด่นในเรื่องการประหยัดการใช้เชื้อเพลิงที่ดีที่สุด ซึ่งตอบสนองความต้องการของเอทิฮัด ทั้งนี้เพื่อสร้างรายได้จำนวนมหาศาลให้กับสายการบินในขณะที่มีต้นทุนการให้บริการที่ต่ำ เรามีความมุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานของเอทิฮัด ที่จะขยายและเติบโตทั้งในภูมิภาคนี้และภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก “
สายการบินเอทิฮัด ได้ทำการคัดเลือกเครื่องยนต์ V2500 จากไอเออี อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์โรว เอ็นจิ้น เพื่อใช้สำหรับฝูงบินแอร์บัส ตระกูลเอ320 จำนวน 20 เครื่อง โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ เหมาะสำหรับการใข้งานในภูมิภาคตะวันออกกลาง และสามารถทำงานได้ดีในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวและมีอุณหภูมิสูง ปัจจุบันเอทิฮัดใช้งานเครื่องรุ่น V2500 กับฝูงบินทั้งสิ้น 10 ลำ และเครื่องยนต์อีก3 เครื่อง มีกำหนดการส่งมอบภายในปีนี้ นอกจากนั้น สายการบินเอทิฮัด นับเป็นลูกค้ารายแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ได้ใช้เครื่องยนต์รุ่น V2500 SelectOne
จอห์น บีทตี้ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอเออี กล่าวว่า “เครื่องยนต์ V2500 ของเราแสดงให้เห็นแล้วถึงศักยภาพอันเต็มเปี่ยม ทั้งนี้ตั้งแต่เอทิฮัดเริ่มนำเข้ามาใช้ครั้งแรกในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 และการสั่งซื้อเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะอันสมบูรณ์แบบของเครื่องยนต์ เรามีความตั้งใจที่จะสานต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างเราและสายการบินฯต่อไปในอนาคต”
ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2546 เอทิฮัดได้รับการยกย่องให้เป็นสายการบินที่เจริญเติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมการบิน ขณะนี้สายการบินมีจุดหมายปลายทางทั้งสิ้นกว่า 50 แห่ง ครอบคลุมภูมิภาคต่างๆทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และ อเมริกาเหนือ โดยในปีนี้ ตั้งเป้าทำยอดผู้โดยสารทะลุ7ล้านคน
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา สายการบินฯได้ทำการเปิดเส้นทางการบินใหม่ไปยัง เมลเบิร์น อิสตันบูล เอเธนส์ ลาร์นากา และ แอสตานา ประเทศคาซัคสถาน ในเดือนกันยายนปีนี้ เอทิฮัดจะได้เปิดเส้นทางใหม่ไปยังนครชิคาโก
ปัจจุบัน เอทิฮัดให้บริการด้วยเครื่องบินจากทั้งแอร์บัสและโบอิ้ง ทั้งสิ้น 42 ลำ โดยใช้เครื่องยนต์จากผู้ผลิตหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โรลส์-รอยซ์, จีอี, ซีเอฟเอ็ม และไอเออี
คำบรรยายภาพ: (จากซ้ายไปขวา) เดวิด จอยซ์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีอี เอวิเอชั่น; ฯพณฯท่านอับดุลลาห์ อัล อาเมรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ประจำฝรั่งเศส; ฯพณฯท่านชีคคาหลิด บิน ซาอิด อัล นายาน รองประธานสายการบินเอทิฮัด; เจมส์ โฮแกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด และ จิมส์ โมราเวเชก ประธานบริษัทเอ็นจิ้น อัลลิอานซ์
สำหรับรูปภาพ:
รูปภาพเครื่องบินเอทิฮัด รวมทั้งภาพจากการลงนามในงานปารีส แอร์ โชว์ สามารถดาวน์โหลดได้ที่www.etihadmediacentre.com หรือ ติดต่อได้ที่ ภาริสา ฉายากุล (สมุย) โทร 02-2605820 ต่อ 121/ samui@tqpr.com
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ:
* เอ็นจิ้น อัลลิอานซ์ เป็นการร่วมทุนกันระหว่าง เจเนอรัล อิเล็กทริค และ แพรท แอนด์ วิทนีย์ ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของยูไนเต็ด เทคโนโลยี คอร์เปอร์เรชั่น โดยมีสัดส่วนการลงทุน 50:50
** ไอเออี เป็นการร่วมทุนกันระหว่าง โรลส์-รอยซ์ แพรท แอนด์ วิทนีย์ เอ็มทียู แอร์โรว เอ็นจิ้น และ เจแปนนิส แอร์โรว เอ็นจิ้น
*** จำนวนดังกล่าว ยังไม่ร่วมเครื่องยนต์อะไหล่ และสัญญาการดูแลรักษาสำหรับฝูงบินแอร์บัสเอ350 โดยสัญญาดังกล่าว กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาและคาดว่าจะเสร็จสิ้นและลงนามได้ภายในปีนี้
ฝูงบินปัจจุบันของสายการบินเอทิฮัด:
ยอดวันที่ 16 มิถุนายน 2552 สายการบินเอทิฮัด มีเครื่องบินทั้งสิ้นสำหรับโดยสารทั้งสิ้น 42 ลำ และใช้สำหรับขนส่งสินค้าทางอากาศ 3 ลำ โดยประกอบไปด้วย
โบอิ้ง 777-300 อีอาร์ โดยเครื่องยนต์ GE90 5 ลำ
แอร์บัส เอ319 โดยเครื่องยนต์ IAE V2500 2 ลำ
แอร์บัส เอ320 โดยเครื่องยนต์ IAE V2500 และ CFM 56-5A 10 ลำ
แอร์บัส เอ330-200 โดยเครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent 700 16 ลำ
แอร์บัส เอ340-500 โดยเครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent 500 4 ลำ
แอร์บัส เอ340-600 โดยเครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent 500 5 ลำ
คำสั่งซื้อจากงานฟานโบโร อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์โชว์:
ในวันที่ 15 กรกฏาคม 2551 สายการบินเอทิฮัด ได้ประกาศสั่งซื้อเครื่องบินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมการบิน ณ งานฟานโบโร แอร์โชว์ สหราชอาณาจักร
ข้อตกลงดังกล่าวประกอบไปด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินทั้งสิ้น 205 ลำ ทั้งแบบลำตัวกว้างและแคบ โดยมีมูลค่าทั้งสิ้น 4หมื่น 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นคำสั่งยืนยันสั่งซื้อ 100 ลำ สิทธิ์พิเศษทางการค้า (Option) 55 ลำ และสิทธิ์ในการซื้อ (Purchase rights) 50 ลำ จากทั้งผู้ผลิตแอร์บัสและโบอิ้ง
คำยืนยันสั่งซื้อจากแอร์บัส ทั้งสิ้น 55 ลำ ประกอบไปด้วย
แอร์บัส เอ320 โดยเครื่องยนต์ IAE 20 ลำ
แอร์บัส เอ350 โดยเครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent XWB 25 ลำ
แอร์บัส เอ380 โดยเครื่องยนต์ Engine Alliance GP720010 ลำ
นอกจากนั้น ยังมีสิทธิ์พิเศษทางการค้าสำหรับแอร์บัส เอ320 5 ลำ และเอ380 อีก 5 ลำ รวมทั้งสิทธิ์ในการซื้อแอร์บัสเอ320 15 ลำ เอ350 15 ลำ และ เอ380 อีก 5 ลำ
คำยืนยันสั่งซื้อจากโบอิ้ง ทั้งสิ้น 45 ลำ ประกอบไปด้วย
โบอิ้ง787 โดยเครื่องยนต์ GEnx 35 ลำ
โบอิ้ง777-300 อีอาร์ โดยเครื่อง GE90 10 ลำ
นอกจากนั้น ยังมีสิทธิ์พิเศษทางการค้าสำหรับโบอิ้ง787 25 ลำ โบอิ้ง777-300 อีอาร์ 10 ลำ รวมทั้งสิทธิ์ในการซื้อโบอิ้ง787 10 ลำ และ โบอิ้ง777 5 ลำ
เครื่องบินใหม่และเครื่องยนต์มีกำหนเการส่งมอบในช่วงปี 2553 ถึงปี 2563 และเมื่อการส่งมอบเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้เอทิฮัดมีฝูงบินทั้งสิ้น 150 ลำ
กำหนดการส่งมอบเครื่องยนต์:
เครื่องยนต์เหล่านี้ มีกำหนดการส่งมอบตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553 จนถึง 2563
เครื่องยนต์ IAE V2500 สำหรับแอร์บัส เอ320: 2554 - 2558 เครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent XWB สำหรับแอร์บัส เอ350: 2560 - 2563 เครื่องยนต์ Engine Alliance GP7200 สำหรับแอร์บัส เอ380s: 2555 - and 2558 เครื่องยนต์ GEnx สำหรับโบอิ้ง787: 2558 - 2563 เครื่องยนต์ GE90 สำหรับโบอิ้ง777: 2553 - 2556
เกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัดสายการบินเอทิฮัด เป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีสำนักงานใหญ่ ณ เมืองหลวงอาบูดาบี ปัจจุบันสายการบินเอทิฮัดให้บริการเที่ยวบินสำหรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติกว่า 50 จุดหมายปลายทาง ครอบคลุมตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ แอฟริกา และเอเชีย ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัดได้ที่ www.etihadairways.com
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ สายการบินเอทิฮัด กรุณาติดต่อ
ภาริสา ฉายากุล /เมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์
บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0 2260-5820 ต่อ 121 โทรสาร 0 2260-5847-8 อีเมล์ samui@tqpr.com/mae@tqpr.com