กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ราคาทองคำในช่วงต้นของสัปดาห์ปรับตัวลดลง หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากจากเศรษฐกิจยูโรโซนที่ยังไม่ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับสหรัฐและหรือเอเชีย ทำให้ค่าเงินยูโรร่วงรุนแรง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นยังออกมายืนยันถึงความสำคัญของดอลลาร์และยังต้องการถือครองพันธบัตรสหรัฐไม่เปลี่ยนแปลง โดยก่อนหน้านี้ดอลลาร์ได้ถูกสั่นคลอนจาก BRICs ในการลดพอร์ตพันธบัตรสหรัฐแล้วจะไปถือพันธบัตร IMF แทน สำหรับราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลงอย่างต่อเนื่องหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและความกังวลเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจแสดงให้เห็นว่า ภาคการผลิตสินค้าตกต่ำลงไปอีกในรัฐนิวยอร์ก ส่งผลลบต่อราคาทองคำอีกทางหนึ่งด้วย
ราคาทองคำในช่วงกลางของสัปดาห์กลับมาปิดเพิ่มขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาอ่อนค่าลง หลังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาด รวมทั้งเศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวมากขึ้นและทำให้ค่าเงินยูโรขยับขึ้นด้วย นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันเพิ่มเติมจาก BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน) ที่พยายามหันไปลงทุนในพันธบัตรของชาติสมาชิกมากขึ้น โดยการลดการถือครองพันธบัตรของสหรัฐลง ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นจากเหตุความไม่สงบในชาติผู้ผลิตสำคัญทั้งอิหร่านและไนจีเรีย ส่งผลให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นด้วย รวมทั้งการที่ S&P ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ รวมทั้งทบทวนปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารสหรัฐ 22 แห่ง หลังอาจขาดทุนมากขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อ แม้การเพิ่มทุนล่าสุดจะช่วยให้ทางธนาคารสามารถชดเชยผลขาดทุนดังกล่าวได้ ขณะที่การทดสอบภาวะวิกฤติบ่งชี้ว่าภาคธนาคารจะเผชิญปัญหามากขึ้นในอนาคตและอาจขาดทุนมากขึ้นสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ในตอนนี้ แต่ S&P ยังระบุด้วยว่า อันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของสหรัฐอาจจะไม่เผชิญกับแรงกดดันในระยะใกล้นี้ ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้นักลงทุนหันมาสู่ทองคำกันมากขึ้น ราคาจึงขยับเพิ่มขึ้นอีก
สำหรับช่วงปลายของสัปดาห์ ราคาทองคำขยับปิดลงเล็กน้อยจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังอังกฤษกำลังจะเปลี่ยนแปลงคำนิยามของ LIBOR ซึ่งอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนในการลงทุนในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้ง การระบายสัญญาของกองทุน เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณเงินเฟ้อในระยะสั้น ซึ่งจะนำไปสู่การอ่อนตัวลงของราคาทองต่อไป นอกจากนี้ ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัฐมนตรีน้ำมันแองโกลากล่าวว่า โอเปกไม่จำเป็นต้องปรับลดการผลิตลงไปอีกในปี 2009 ถ้าหากราคาน้ำมันยังคงทรงตัวที่ระดับปัจจุบัน ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของราคาน้ำมันยังคงไม่แข็งแกร่งพอที่จะรองรับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในระยะนี้ ในขณะที่ตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้นักลงทุนควรเฝ้าติดตามการประชุมของ FED ในการประชุมสัปดาห์นี้ หลังตลาดขาดความเชื่อมั่น
สำหรับการถือครองทองคำของกองทุนทองคำ ETF ของ SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,132.15 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.4 ล้านออนซ์ ซึ่งการถือครองทองคำของกองทุน ETF ถือเป็นมุมมองที่สำคัญของนักลงทุนและ นักลงทุนบ้านเราควรให้ความสำคัญกับปัจจัยนี้เวลาตัดสินใจลงทุนด้วย การที่ราคาทองคำในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงมามากถึง $64 แต่ทว่าการปริมาณการถือทองคำของกองทุนทองคำ ETF ของ SPDR Gold Trust มิได้ปรับตัวลงสอดคล้องกับราคาทองคำ ทำให้ดูได้ว่าการปรับตัวดังกล่าวคงจะรักษาทิศทางเดิมไว้ได้ไม่นาน เนื่องจากขาดการสนับสนุนจากการขายออกของนักลงทุน และทำให้ดูได้ว่าการปรับตัวลงของทองคำในช่วงนี้เป็นผลพวงโดยตรงจากการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ และนักลงทุนยังคงมั่นใจในราคาทองคำในระยะกลางและระยะยาว
ราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะเจอกับความผันผวนที่น้อยลง เนื่องจากช่วงที่ราคาปรับฐานดูเหมือนจะสิ้นสุดลง แนวรับที่ 927 จะเป็นแนวรับทางเทคนิคที่สำคัญและคาดว่าราคาจะสามารถยืนอยู่เหนือระดับนี้ได้ ทว่าหากราคาปรับตัวต่ำกว่า 927 แนวรับต่อไปของสัปดาห์หน้าจะอยู่ที่ระดับ 912 ทองคำระยะสั้นและระยะกลางดูเป็นตลาด Sideways และราคาจะเคลื่อนตัวขึ้นลงระหว่างแนวรับแนวต้านที่ 927 และ 942 หากสามารถยืนเหนือ 942 ได้เป้าราคาต่อไปจะเป็นที่ระดับ 960 และจะมองว่าการปรับฐานได้สิ้นสุดลงและทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อ
หมายเหตุ ข้อมูลจากฝ่ายวิจัย บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือสนใจการลงทุนเกี่ยวกับทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส์ ติดต่อโทร 02-287-1155 หรือ www.ylgbullion.com