ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. ทรูคอร์ปอเรชั่น” ที่ “BBB” และหุ้นกู้ที่ “A” และ “BBB” พร้อมเปลี่ยนแนวโน้มเป็น “Positive” จากเดิม Stable”

ข่าวทั่วไป Thursday May 25, 2006 08:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีประกัน (TRUE07OA, TRUE087A, TRUE117A) ของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) ที่ระดับ “BBB” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันของบริษัท (TRUE112A) ซึ่งค้ำประกันบางส่วนโดย International Finance Corporation (IFC) ที่ระดับ “A” รวมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Positive” หรือ “บวก” จากเดิม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะผู้นำในบริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรในประเทศไทย ตลอดจนความเชี่ยวชาญของคณะผู้บริหาร และโอกาสการเติบโตในธุรกิจสื่อสารข้อมูลและโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวถูกลดทอนลงโดยสถานะทางการเงินของบริษัทที่ค่อนข้างเปราะบางอันเป็นผลมาจากการมีภาระหนี้จำนวนมาก และภาวะการแข่งขันที่ยังคงรุนแรงทั้งในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และการสื่อสารข้อมูล รวมถึงความไม่แน่นอนของกฎระเบียบด้านโทรคมนาคม
แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า TRUE จะสามารถรักษาสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจโทรคมนาคมเอาไว้ได้ หลังจากรวมผลการดำเนินงานของ TRUE MOVE และ UBC เข้ามาจะส่งผลให้กลุ่ม TRUE มีความได้เปรียบในการแข่งขันเพราะสามารถรวมผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายเข้าด้วยกันให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า อันดับเครดิตของ TRUE อาจมีการปรับขึ้นหากสถานะทางการเงินของบริษัทดีขึ้นหลังจากที่ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เริ่มสร้างรายได้ให้แก่กลุ่ม ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตอาจมีการปรับลงได้หากบริษัทยังมีการลงทุนจำนวนมากซึ่งทำให้บริษัทต้องกู้เงินเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุน
ทริสเรทติ้งรายงานว่ากลุ่มบริษัท TRUE เป็นผู้นำในบริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรซึ่งธุรกิจแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ โทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ บริการสื่อสารข้อมูล โครงข่ายมัลติมีเดีย บริการอินเทอร์เน็ต และโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก สถานะความเป็นผู้นำของบริษัทมาจากความเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์พื้นฐานในเขตกรุงเทพฯ และตลาดบรอดแบนด์ (Broadband) โดยมีส่วนแบ่ง 55% และ 80% ตามลำดับ นอกจากนี้ TRUE ยังคงความเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่ที่สุด รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด (TRUE MOVE) ชื่อเดิม บริษัท ทีเอ ออเร้นจ์ จำกัด และจากการที่บริษัทซื้อหุ้นเพิ่มจาก บริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (UBC) อีก 58% ได้ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทเพิ่มเป็น 98% ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แก่กลุ่ม TRUE ในการรวมและนำเสนอผลิตภัณฑ์รวมทั้งบริการที่ดึงดูดใจลูกค้า
ทริสเรทติ้งกล่าวว่ารายได้ของ TRUE เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการรวมผลการดำเนินงานของ TRUE MOVE นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปีของ 2547 แม้ว่าฐานะทางการเงินของ TRUE จะลดลงเล็กน้อยจากภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นและอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ลดลงก็ตาม แต่อัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุนของ TRUE ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 100% ณ สิ้นปี 2548 สัดส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้สุทธิเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2547 เป็น 15% ในปี 2548 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ประมาณ 3 เท่าในช่วงปี 2547-2548 ณ สิ้นปี 2548 TRUE ได้กู้ยืมเงินกู้ระยะสั้น 291 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อหุ้นใน UBC โดยจะมีการชำระคืนเงินกู้ยืมดังกล่าวภายในไตรมาสที่ 2 ปีของ 2549 โดย UBC จะจัดหาเงินกู้ยืมระยะยาวก้อนใหม่จากสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นของ TRUE และการรวมผลการดำเนินงานของ UBC จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดให้แก่กลุ่ม ซึ่งปัจจุบัน UBC มีสถานะเกือบปลอดภาระหนี้สินอีกทั้งยังมีกำไรและกระแสเงินสดจำนวนมาก ซึ่งหลังการรวม UBC จะส่งผลให้อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย และสัดส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้สุทธิของ TRUE ดีขึ้นเล็กน้อย แต่กลุ่มก็ยังคงมีภาระหนี้สินมาก
ทริสเรทติ้งยังกล่าวว่า ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันรุนแรงโดยเฉพาะในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยผู้ประกอบการแข่งกันลดค่าบริการลงอย่างมาก ซึ่งทำให้มีกำไรน้อยลง รายได้ของ TRUE ในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานมีแนวโน้มลดลงอันเนื่องมาจากมีสินค้าทดแทนคือโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มการเติบโตในธุรกิจสื่อสารข้อมูลและโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่ง TRUE ได้ดำเนินการมากว่า 2 ปีจะช่วยชดเชยรายได้ในส่วนโทรศัพท์พื้นฐานที่ลดลงได้ ทั้งนี้ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ TRUE087A, TRUE07OA และ TRUE117A ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของบริษัทแต่เพียงประการเดียว แต่ปัจจัยสำคัญในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของหุ้นกู้ TRUE112A ของบริษัทคือการค้ำประกันวงเงินกู้บางส่วนโดย IFC ซึ่งเป็นสมาชิกของ World Bank Group โดย IFC ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA” จาก Standard & Poor’s และระดับ “Aaa” จาก Moody’s Investors Service

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ