กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — ราคาทองคำมีแนวโน้มปิดลดลงเล็กน้อย จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังอังกฤษกำลังจะเปลี่ยนแปลงคำนิยามของ LIBOR ซึ่งอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนในการลงทุนในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้นด้วย
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Daily
30 Min
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — ADX < 20 บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD 30 นาทีอยู่ใกล้ 0 ทำให้ทิศทางระยะสั้นเป็นตลาด Sideways, MACDF เริ่มเข้าสู่แดนลบทำให้ราคาดูลงอยู่เล็กน้อย, Fast Stochastic กำลังเคลื่อนตัวขึ้นและทำให้ราคาดูบวกในช่วงต้นของวัน, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 44.579 ถือเป็นระดับ Neutral และไม่บ่งบอกถึงทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็นตลาด Sideways ระหว่างแนวรับแนวต้านที่ $927-$940 ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿34.03-฿34.18
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - ADX < 20 บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 40.077 ถือเป็นระดับ Oversold อยู่เล็กน้อยและราคายังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อ, MACD อยู่ในแดนบวกและยังคงทำให้มองราคาทองคำระยะกลางเป็นขาขึ้นอยู่เล็กน้อย ทว่ากำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ 0 ทำให้ดูได้ว่าเป็นสัญญาณการกลับตัวสู่ขาลง, MACDF อยู่ในแดนลบและทำให้ดูราคาเป็นขาลง, Fast Stochastic ระดับวันอยู่ใกล้ 20 และดูได้ว่าราคาอาจปรับตัวขึ้นในช่วงนี้, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นตลาด Sideways โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านราคาระยะกลางต่อไปอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $927 และแนวรับราคาระยะกลางต่อไปอยู่ที่ $910
ราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,200 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,140 หรือที่ $932.90) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 60 บาท ขณะที่ราคาของ GFM09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,240 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 100 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFM09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 100-60 = 40 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท จึงยังไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทปิดแข็งค่าขึ้น -2 สต. มาอยู่ที่ 34.09 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34. 11 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า แม้ปริมาณการซื้อขายยังเบาบาง แต่ก็เป็นการแข็งค่าจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ + มีเงินไหลเข้าซื้อหุ้นเพิ่มมากขึ้นในตลาดหุ้นด้วย ขณะที่เช้านี้เงินบาทได้อ่อนค่าลงมา +6 สต. มาที่ 34.15 บาทต่อดอลลาร์ โดยวันนี้มีแนวรับสำคัญที่ 34.03 บาทและ 33.98 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.18 บาทและ 34.28 บาท
ภาวะเศรษฐกิจเขตยุโรป — ผู้นำในประเทศสมาชิกเขตยูโรโซนเห็นพ้องต้องกันว่า เศรษฐกิจในยูโรโซนเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นและไม่มีความจำเป็นที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆเพิ่มเติมอีกต่อไป + IMF มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกประจำปี 2010 ในขณะที่มีสัญญาณว่าอัตราการลดลงของผลผลิตทั่วโลก ได้ชะลอตัวลงแล้ว
ตลาดทองคำ นิวยอร์ก + ลอนดอน — ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ตามความผันผวนของดอลลาร์ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรอดูความชัดเจนของทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ หลังการประชุมของ FOMC ในวันอังคารและพุธนี้ก่อน
ปัจจัยลบ
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์อ่อนค่าลง +$0.0047 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.3950 จากที่ปิด $1.3903 เมื่อวันก่อนหน้า โดยเป็นการลดช่วงบวกลงมาหลังยูโรยังคงไม่สามารถพุ่งทะลุระดับแนวต้านสำคัญที่ 1.40 ดอลลาร์ได้ ทำให้นักลงทุนซื้อคืนดอลลาร์ อย่างไรก็ดี การที่ตัวเลขเศรษฐกิจในทุกโซนของโลกกำลังส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจในแต่ละโซนได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ได้เพิ่มความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นให้กับนักลงทุน ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย -$0.0031 มาที่ $1.3919
ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ค.ปิดร่วงลง -$1.82 มาปิดที่ $69.55 ต่อบาร์เรล หลังคาดกันว่าปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น จากการที่โรงกลั่นได้เพิ่มกำลังการผลิต + มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ วันนี้ยังเป็นวันสิ้นอายุสัญญาซื้อขายงวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมของน้ำมันดิบอีกด้วย จึงทำให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายกำไรออกมา ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ส.ค.ร่วงลงต่ออีก -$0.28 มาปิดที่ $69.74 ต่อบาร์เรล หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในเช้านี้
IMF — ได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสสหรัฐในการขายทองคำแท่งจำนวน 403 ตัน เรียบร้อยแล้ว โดย IMF จะทยอยขายออกที่ละส่วน เพื่อป้องกันไม่ให้มีผลกระทบต่อราคาทองคำในตลาดโลกมากนัก
สมาคมธนาคารอังกฤษ - จะเปลี่ยนแปลงคำนิยามของ LIBOR เพื่อให้มีจำนวนสถาบันมากขึ้นในเข้าร่วมในกระบวนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยรายวันได้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนี้สูงขึ้นและจะส่งผลให้ผลตอบแทนในการลงทุนในสหรัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — ตัวเลขอัตราการว่างงานที่เกิน 10% ในหลายมลรัฐของสหรัฐ โดยเฉพาะในรัฐมิชิแกนที่สูงถึงกว่า 14% กำลังจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 19 มิ.ย.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,132.15 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.40 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.4 ล้านออนซ์
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) — นักลงทุนกำลังรอดูการประชุมของ FED ในการประชุมสัปดาห์นี้ + รอดูการเปิดประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้