กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนการจัดตั้งอีทีเอฟดัชนีฟุตซี่เซ็ท โดย บลจ. วรรณ และ บมจ. หลักทรัพย์ เคจีไอ ใช้ชื่อว่า “ThaiDex FTSE SET Large Cap ETF” หรือ TFTSE (ที ฟุตซี่) นับเป็น อีทีเอฟกองที่ 3 ของไทย เตรียมเปิดเสนอขายให้ประชาชนทั่วไปปลาย ก.ค. 2552 มั่นใจได้รับความสนใจจากทั้งผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนทั่วไป
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดตั้ง FTSE SET Large Cap ETF ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญในการนำ FTSE SET Index Series ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมพัฒนากับ FTSE Group เพื่อใช้ประโยชน์ในการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ซึ่ง TFTSE ถือเป็นอีทีเอฟตัวแรกที่อ้างอิงดัชนีดังกล่าว และเป็นกองทุนอีทีเอฟที่ 3 ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยดัชนี FTSE SET Large Cap นั้น เป็นดัชนีที่แสดงถึงหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งประกอบด้วยหลักทรัพย์ที่มีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุด 30 ตัวแรกที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกแล้ว เหมาะที่จะใช้เป็นดัชนีอ้างอิงในการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ของประเทศไทย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯเชื่อมั่นว่ากองทุน FTSE Large Cap ETF น่าจะเป็นที่นิยมของผู้ลงทุน รวมทั้งช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนมากขึ้น”
ดร. สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ. วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า “กองทุนเปิด ThaiDex FTSE SET Large Cap ETF: TFTSE (ที ฟุตซี่) เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ FTSE group บลจ.วรรณ และทีมจัดตั้งและบริหารจัดการ โดย ThaiDex FTSE SET Large Cap ETF ซึ่งอ้างอิงดัชนี FTSE SET Large Cap มี บมจ. หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market maker) และมีบริษัทหลักทรัพย์ร่วมทีมอีก 6 แห่งเป็นผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน (Participating Dealers: PD) ประกอบด้วย บมจ. หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บมจ. หลักทรัพย์ ธนชาต บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง บล.ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) และ บล.ทิสโก้”
“กองทุนเปิด TFTSE นี้ จะอ้างอิงดัชนี FTSE SET Large Cap ซึ่งมีการคำนวณดัชนี Real-Time ดังนั้น ผู้ลงทุนจะสามารถซื้อขายกองทุน TFTSE นี้ได้เหมือนหุ้นตัวหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ฯ กองทุนเปิด TFTSE มีการกระจายการลงทุนในหุ้น 30 ตัว โดยน้ำหนักหุ้นประมาณร้อยละ 35 มาจากกลุ่ม ธนาคาร (Bank) ประมาณร้อยละ 25 มาจากธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (Oil and Gas) และประมาณร้อยละ 9 มาจากกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Telecom) ซึ่ง TFTSE เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นรายตัว นับเป็นการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อดึงดูดผู้ลงทุนรายใหม่ และช่วยกระตุ้นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคตอีกด้วย” ดร. สมจินต์กล่าว
อีทีเอฟ ถือเป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ เห็นได้จากมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (Asset Under Management) ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จนมีจำนวนอีทีเอฟจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกกว่า 3,300 กอง และมีมูลค่าสินทรัพย์รวมกันทั่วโลกกว่า 35 ล้านล้านบาท โดยอีทีเอฟ เป็นการลงทุนที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถกระจายการลงทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำ และมีสภาพคล่องที่สูง สามารถซื้อขายได้สะดวก ทั้งนี้ TFTSE อยู่ในระหว่างการพิจารณายื่นคำขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยมีกำหนดที่จะเปิดเสนอขาย ประมาณปลายเดือนกรกฎาคมนี้
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ. วรรณ โทร. 0 2659 8888 ติดต่อฝ่ายการตลาด หรือ www.one-asset.com