กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--สป.
วานนี้ (22 มิ.ย. 2552) คณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาซึ่งประกอบด้วยข้อร้องเรียน ประเด็นในการฟ้องคดี ทำความเข้าใจในเนื้อหาของคำสั่งศาลปกครองกลางที่สั่งชะลอการรับรองรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกกันเองเป็นสมาชิกของกลุ่มการผลิตด้านการเกษตรและกลุ่มการผลิตด้านการบริการ รวมทั้งการตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมคัดเลือกกันเอง เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2552 ทั้งนี้ในการประชุมนั้นคณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาแล้วได้ข้อสรุปเป็นประการสำคัญ ๆ ดังนี้
1. คณะกรรมการสรรหาฯ ยืนยันว่าได้ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ด้วยสุจริตและโปร่งใส ไม่มีการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการสรรหาตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด การดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆรวมทั้งระเบียบและหลักเกณฑ์
การพิจารณาคัดเลือกนั้น คณะกรรมการสรรหาฯ และสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ ได้ประกาศให้สาธารณะทราบทั้งในหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ สื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรงด้วย ทั้งนี้ไม่ปรากฏว่าองค์กรหรือบุคคลใดคัดค้านต่อระเบียบหรือหลักเกณฑ์การดำเนินงานแต่อย่างใด
2.คณะกรรมการสรรหาฯ ได้ให้ความสำคัญกับการให้ความยุติธรรมต่อองค์กรและบุคคลที่ได้รับการเสนอเป็นสมาชิกสภา
ที่ปรึกษาฯอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งตลอดกระบวนการสรรหาฯ ได้มีการร้องเรียนมายังคณะกรรมการสรรหาฯในเรื่องที่ผู้ร้องเรียนเห็นว่าการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด คณะกรรมการสรรหาฯ ก็ได้นำเรื่องร้องเรียนมาพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องเรียนรับทราบ ขณะเดียวกันข้อร้องเรียนที่เป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นข้อร้องเรียนเชิงให้ข้อเสนอแนะและวิพากษ์วิจารณ์นั้น คณะกรรมการสรรหาฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯรวบรวมไว้เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการสรรหาในชุดต่อไปที่จะได้รับทราบอุปสรรคและปัญหาของการสรรหา อันจะนำไปสู่การจัดการสรรหาให้เหมาะสมและดียิ่งขึ้นต่อไป
3. สำหรับในเรื่องของการฟ้องคดีนั้น คณะกรรมการสรรหาฯ เห็นว่าประเด็นในการฟ้อง ตลอดจนความเข้าใจในหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาและการใช้เหตุผลของผู้ฟ้องคดีที่ยกขึ้นอ้างต่อศาลยังมีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงต่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายและเห็นว่าการชะลอการสรรหาออกไป ไม่บังเกิดประโยชน์ต่อสาธารณะหรือต่อองค์กรสภาที่ปรึกษาฯ ขณะที่จะก่อให้เกิดปัญหาใหม่ที่เป็นผลกระทบอันเนื่องมาจากการล่าช้านี้และมีผลต่อองค์กรผู้มีหน้าที่ทำการสรรหาตลอดจนบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกกันเองเป็นสมาชิกไปแล้วอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จึงมีมติให้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่กำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุดโดยทันที ภายใต้ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
4. ทั้งนี้ ในส่วนของการรับรองคุณสมบัติของบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกไปแล้วในกลุ่มอื่นๆนอกเหนือไปจากกลุ่มการผลิตด้านการเกษตรและกลุ่มการผลิตด้านการบริการนั้น คณะกรรมการสรรหาฯยังไม่ได้ให้การรับรอง เนื่องจากการตรวจสอบคุณสมบัติไม่เสร็จสิ้น คาดว่าจะประชุมเพื่อพิจารณาตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติได้ภายในเดือน กรกฎาคม นี้