กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
กระทรวงพาณิชย์ผลักดันการใช้กลไกการซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ( AFET ) สนับสนุนนโยบายรัฐบาล สร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรและเป็นทางเลือกในการลดภาระงบประมาณในการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตร เพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม และให้ AFET ก้าวสู่การเป็นผู้ชี้นำราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2552 เวลา 14.00 น. รศ.ดร.ไชยา ยิ้มวิไล รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ และนายประพล มิลินทจินดา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับคณะที่ปรึกษา เปิดเผยภายหลังการเยี่ยมชมกิจการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (สำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล.) และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย( AFET ) ว่ากระทรวงพาณิชย์มีความมั่นใจในศักยภาพและการเติบโตของตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ( AFET ) เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ชี้นำราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก และสินค้าที่ซื้อขายล่วงหน้าใน AFET ในปัจจุบันเป็นสินค้าเกษตรหลักของไทย ที่มีปริมาณการส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ข้าว และมันสำปะหลัง ประกอบกับความผันผวนของราคาสินค้าเกษตรภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน รวมทั้งวิกฤตด้านอาหารและพลังงาน จะทำให้การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าได้รับความสนใจในการเข้ามาใช้ประโยชน์มากขึ้น นอกจากนี้ จากนโยบายของรัฐบาลที่ได้กำหนดมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรผ่านเครื่องมือของรัฐและเร่งสร้างระบบประกันความเสี่ยงราคาพืชผลที่มีประสิทธิภาพโดยใช้กลไกตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ดังนั้น AFET จึงมีบทบาทสำคัญที่สามารถสนับสนุนนโยบายดังกล่าวได้ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรได้ในระยะยาว
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์จะให้ความสำคัญ กับการพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะมุ่งเน้น การใช้ประโยชน์และสนับสนุนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ในภาคเกษตรสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา และเพื่อให้รัฐบาลสามารถใช้ราคาล่วงหน้าใน AFET เป็นราคาอ้างอิงในการเจรจาการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นผู้ชี้นำราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมุ่งสนับสนุนการดำเนินงานและเพิ่มศักยภาพของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล. ในการเป็นองค์กรกำกับและพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในการเข้ามาใช้ประโยชน์จาก AFET เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล. ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายต่าง ๆ ในการส่งเสริมพัฒนาและกำกับดูแล AFET และธุรกิจการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ให้มีความเข้มแข็งและก้าวไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
เผยแพร่ในนาม สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวเผยแพร่ฉบับนี้
กรุณาติดต่อที่ศูนย์สารสนเทศและเสริมสร้างความรู้ 0-2685-3250 ต่อ 207
โทรสาร 0-2685-3259 หรือ http://www.aftc.or.th