ผู้แทนประเทศไทยเตรียมพร้อมไปแข่งชีววิทยาโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น

ข่าวทั่วไป Thursday June 25, 2009 09:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--สสวท. ผู้แทนประเทศไทย จำนวน 4 คน จะเดินทางไปแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกระหว่างประเทศ ในวันที่ 12 - 19 กรกฎาคม 2552 ณ เมืองซึคูบา ประเทศญี่ปุ่น พวกเขาล้วนแต่มีใจรักในวิชาชีววิทยา และมีการเตรียมความพร้อมที่ดี พวกเขาได้มาเปิดใจก่อนเดินทางไปแข่งขัน ดังนี้ นายจตุพร วนิชานนท์ (กวง) ชั้น ม.6 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย คิดว่า ชีววิทยาทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติมีจุดเด่นต่างกัน การทำแลปหรือการฝึกปฏิบัติจะทำให้เรารู้จักสังเกต วิเคราะห์ และใช้ความคิด ส่วนทฤษฎีเน้นข้อเท็จจริงและความเขาใจ แต่ลึก ๆ แล้ว ชอบภาคทฤษฎีมากกว่าครับ บางทีการทำแลปก็จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจพื้นฐานในการออกแบบการทดลองหรือการอธิบาย ก็เหมือนกับฐานตึก ที่จะต้องมีพื้นอิฐที่แน่นหนา ทำให้เราก่อสร้างถึงยอดตึกได้ “การได้เป็นผู้แทนประเทศไทยต้องมีความกดดันอยู่แล้ว ทั้งจากความคาดหวังของครอบครัว โรงเรียน ประเทศชาติ และความคาดหวังของตนเอง แต่เรารู้ว่าเราได้รับตำแหน่งสำคัญแล้ว ก็จะทำหน้าที่ให้สุดความสามารถ มีการเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม ทุกอย่างเลย เก็บตัวอบรมเต็มที่ เตรียมใจให้สงบพร้อมรับศึกหนัก และก็เตรียมสู้ตาย ! เพื่อประเทศชาติของเราครับ” นางสาวนันทนัช วุฒิไกรวิทย์ (เพชร) ชั้น ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา บอกว่า ชอบชีววิทยาและคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานของกระบวนการคิดของเรา ส่วนชีววิทยาเป็นวิชาที่เป็นศาสตร์บูรณาการที่ต้องอาศัยความรู้จากทุกสาขาวิชาเพื่อโยงเข้ามาตอบปัญหากับ สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว และตัวเราเอง ที่เพชรเลือกแข่งโอลิมปิกวิชานี้เพราะเป็นวิชาที่ชอบและถนัดเพชรเล่าต่อว่า การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการนั้นมีจุดประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กที่สนใจในสาขาวิชาการต่าง ๆ ของแต่ละประเทศได้มาพบกัน ทำความรู้จักกัน ซึ่งโอกาสนี้หาได้ไม่ง่ายเลย “ดีใจและภูมิใจมากที่ได้เป็นผู้แทนประเทศไทย ฯ นับว่าเป็นเกียรติสูงสุดสำหรับเด็กมัธยมศึกษาตอนปลาย เพชรรู้สึกกดดันเหมือนกัน เพราะรุ่นพี่ทำไว้ดีมาก ๆ แต่ตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุด โดยได้ฝึกทำข้อสอบปีก่อน ๆ อ่านหนังสือเพิ่มเติมในเรื่องที่ยังอ่อน และเรื่องที่ยังไม่รู้ ฝึกทำแลปและเรียนทฤษฎีกับอาจารย์มห่วิทยาลัย ทำทุกวันให้ดีที่สุดและเต็มที่ค่ะ ไม่คิดกังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครรู้ว่าการแข่งขันจะออกอะไร เราก็เตรียมตัวเราให้พร้อม เผื่อผลออกมาอย่างไรจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลังค่ะ” นางสาวฝันฝ้าย สมเกียรติ (ฝ้าย) ชั้น ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ชอบเรียนชีววิทยา และสังคมศึกษา เพราะทำให้เข้าใจธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น ที่เลือกแข่งชีววิทยาโอลิมปิก เพราเป็นวิชาที่ชอบและสนใจอยู่แล้ว ที่สำคัญคือเป็นวิชาที่สนุก การเข้าร่วมโครงการนี้ได้เข้าค่ายชีววิทยา ทำให้ได้รับการต่อยอดความรู้ในสาขาที่สนใจจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ มีโอกาสปฏิบัติและเห็นของจริงมากกว่าในห้องเรียน รวมทั้งมีบรรยากาศที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนขวนขวายและหมั่นฝึกฝนพัฒนาทักษะทางวิชาการอย่างสม่ำเสมอ น้องฝ้ายเล่าว่า ที่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ส่วนหนึ่งที่เป็นกำลังใจสำคัญคือครอบครัว คุณแม่จะคอยติดตามดูว่าขาดเหลืออะไรบ้าง หรือเราไม่เข้าใจอะไร ก็จะพยายามไปสรรหาสิ่งที่เราขาดมาให้ ส่วนคุณพ่อจะคอยให้กำลังใจตลอด อยู่เป็นเพื่อนเวลาอ่านหนังสือที่บ้าน พออ่าน ๆ อยู่ พ่อก็เอาขนมมาให้กิน “การเตรียมตัวก่อนไปแข่ง คือ พยายามทำใจให้ไม่เครียด เมื่อไหร่ที่เครียดก็หาทางระบาย เช่น เล่าให้เพื่อนฟัง ทำงานอดิเรกที่ตัวเองชอย ทบทวนบทเรียนที่เรียนมา และทำโจทย์เก่า พยายามใช้เวลาแต่ละวันให้คุ้มค่าที่สุด เราจะได้ไม่เสียใจ เพราะทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว” นายวีรภัทร คิ้ววงศ์งาม (นุ้ย) ชั้น ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ มีแรงบันดาลใจจากความสนใจในธรรมชาติ และได้ความสนับสนุนจากครูอาจารย์ในโรงเรียน จึงมีความสนใจในวิชาชีววิทยามากขึ้นจึงได้เข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการ ชอบวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นวิชาพื้นฐานของความคิด สามารถฝึกกระบวนการคิดให้เป็นเหตุเป็นผล อีกทั้งยังเป็นศาสตร์ที่ทำให้เข้าใจธรรมชาติรอบตัวด้วย น้องนุ้ยบอกว่า พ่อกับแม่ต่างก็เรียนมาทางด้านวิทยาศาสตร์ และมีเวลาอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นในครอบครัวจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว เช่น ดินฟ้าอากาศ ต้นไม้ต่าง ๆ ซึ่งเป็นการส่งเสริมกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ไปในตัว “หลังจากทราบว่าได้เป็นผู้แทนประเทศไทย แรก ๆ รู้สึกกดดันบ้าง เพราะนึกถึงภาระที่มีคนมากมายคาดหวังถึงความสำเร็จของเรา แต่ตอนนี้พยายามไม่คิดถึงเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่าเป็น ตัวของตัวเองดีที่สุด และต้องการความเป้นส่วนตัว อยู่กับเพื่อน ๆ ไม่ซีเรียส และอยากทำกิจกรรมอื่นๆ ด้วย นอกจากการเตรียมความพร้อมทางด้านวิชาการก่อนไปแข่งขันแล้ว ยังเตรียมความพร้อมโดยรักษาสุขภาพและรักษาจิตใจ เพื่อผ่อนคลายความเครียด หัดนอน-ตื่นเร็วกว่าปกติ 2-3 ชั่วโมง เพื่อปรับร่างกายให้ตรงกับเวลาที่จะไปแข่งขันจริง” ***ขอเชิญเป็นกำลังใจให้แก่ผู้แทนประเทศไทยที่จะไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ*** ท่านสามารถเข้าไปอ่านประวัติ และ save ไฟล์ภาพผู้แทนประเทศไทยโอลิมปิกวิชาการ วิชาต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ สสวท. www.ipst.ac.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ