กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--คต.
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นมา ได้ทำให้การค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นและการส่งออกไปญี่ปุ่นขยายตัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยในปี 2552 (มกราคม-มีนาคม) มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 8,433.49 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกไปญี่ปุ่นเป็นมูลค่า 3,466.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไทยนำเข้าจากญี่ปุ่น คิดเป็นมูลค่า 4,966.59 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในส่วนของการให้บริการตรวจและรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ในปี 2552 (มกราคม-มีนาคม) กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form JTEPA) จำนวนทั้งสิ้น 21,170 ฉบับ มีมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิ 2,253.49 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการขอใช้สิทธิภายใต้ความตกลง JTEPA ทั้งสิ้น 991.77 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ คิดเป็นร้อยละ 44.01 ของมูลค่าส่งออกภายใต้สินค้าที่ได้รับสิทธิ โดยมีสินค้าสำคัญที่ใช้สิทธิส่งออกภายใต้ JTEPA ได้แก่ เนื้อไก่และเครื่องในไก่ที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย กุ้งที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย แหนบรถยนต์ กุ้ง (กุ้งกุลาดำ กุ้งก้ามกราม) แช่แข็ง และเดกซ์ทรินและโมดิไฟด์สตาร์ชอื่นๆ เป็นต้น
ในช่วงที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศได้มีการประชาสัมพันธ์เพื่อการใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง และได้สนับสนุนการส่งออก โดยการตรวจและรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า เพื่อการส่งออกไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีศุลกากรในการนำเข้าประเทศญี่ปุ่นภายใต้ความตกลงดังกล่าว สอบถามรายละเอียดในการใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น หรือ JTEPA ได้ที่ สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385 หรือ http://www.dft.go.th