ประชุม ก.พ.ครั้งที่ 6/2552

ข่าวทั่วไป Tuesday June 30, 2009 09:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--กลุ่มสื่อสารองค์กร สำนักงาน ก.พ. เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ก.พ. ครั้งที่ 6/2552 ณ สำนักงาน ก.พ. โดยที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบในเรื่องสำคัญ ดังนี้ 1. การปรับปรุงร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. .... ก.พ.มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกหลักการ “รอการเลื่อนเงินเดือน” สำหรับผู้ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดยให้ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนตามผลการปฏิบัติราชการ เพราะผู้ที่อยู่ระหว่างการถูกสอบสวน ยังไม่ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดวินัย และในระหว่างการถูกสอบสวน ผู้นั้นยังคงปฏิบัติหน้าที่และมีผลการปฏิบัติงานที่สามารถนำไปประเมินเพื่อพิจารณาเลื่อนเงินเดือนได้ แต่อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนดังกล่าวให้คำนึงถึงวินัยของข้าราชการด้วย สำหรับการพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นให้ดำเนินการได้ หลังจากพ้นโทษแล้ว และสามารถพิจารณาเลื่อนเงินเดือนได้ มอบให้ อ.ก.พ.วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการทบทวนร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. .... และร่างกฎ ก.พ. ที่จะออกตาม มาตรา 63 ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป 2. เห็นชอบโครงการเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการร่วมกันระหว่างสำนักงาน ก.พ. และศอ.บต. โดยแต่ละปีจะมีการคัดเลือกข้าราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติปฏิบัติชอบ มีคุณธรรมจริยธรรมอันดีงาม และครองตนอยู่ในครรลองของศาสนาที่นับถืออย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ เข้าร่วมโครงการฯ แบ่งเป็นข้าราชการไทยมุสลิม 50 คน ไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะ เป็นเวลา 1 เดือน และข้าราชการไทยพุทธ 50 คน ไปนมัสการสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดียและเนปาล เป็นเวลา 10 วัน โครงการฯ ดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการเสริมสร้างขวัญกำลังใจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของข้าราชการที่ปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ทั้งยังจะส่งผลให้ข้าราชการที่เข้าร่วมโครงการฯ มีความเข้มแข็งทางจิตใจ ซึ่งจะนำไปสู่ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 3.เห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งนิติกรเพิ่มเติม ตามที่ อ.ก.พ.วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการรับรองนักกฎหมายภาครัฐเสนอ ดังนี้ 3.1 เห็นชอบให้นำแนวทางการประเมินคุณลักษณะของบุคคลตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 0708.4 / ว 16 ลงวันที่ 29 กันยายน 2538 มาปรับใช้ในประเมินคุณลักษณะและพฤติกรรมของผู้ดำรงตำแหน่งนิติกร และผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (นิติการ) ระดับต้น เพื่อคัดเลือกให้ได้รับ พ.ต.ก. ไปพลางก่อน จนกว่า ก.พ. จะประกาศใช้แนวทางการกำหนดความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่ง และ อ.ก.พ.ฯ มีมติเป็นอย่างอื่น 3.2 เห็นชอบให้ อ.ก.พ.กรม หรือ อ.ก.พ.ส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมสามารถแต่งตั้ง “หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม” เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายได้อีกตำแหน่งหนึ่ง สำหรับกรณีที่ส่วนราชการ ไม่มีตำแหน่งที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงหรือตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของกรม และไม่มีการมอบหมายให้รองหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมคนใดคนหนึ่งรับผิดชอบภารกิจด้านกฎหมายของส่วนราชการ 3.3 ห็นชอบให้กำหนดคุณสมบัติของผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายภายนอก ส่วนราชการในคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ดังนี้ (1) เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 9 หรือเทียบเท่าตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการไม่ต่ำกว่าระดับเชี่ยวชาญ ตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง หรือตำแหน่งประเภทบริหาร เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองศาสตราจารย์ในสาขากฎหมายซึ่งรับเงินเดือนในอัตราไม่ต่ำกว่าระดับ 9 หรือเทียบเท่า หรือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายในภาคเอกชน (2) เป็นผู้ที่มีความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในงานด้านกฎหมายของส่วนราชการเป็นอย่างดีและเป็นที่ยอมรับในวงการวิชาชีพกฎหมาย (3) ต้องไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างในส่วนราชการที่จะได้รับแต่งตั้ง (4) ต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ดำรงตำแหน่งนิติกรที่ขอรับการคัดเลือกฯ หรือส่วนราชการที่จะได้รับแต่งตั้ง 3.4 ให้นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคัดเลือกบุคคลให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งนิติกรเพิ่มเติมดังกล่าวไปจัดทำหนังสือแจ้งเวียนส่วนราชการและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติต่อไป 4. เห็นชอบ กับมติ อ.ก.พ.วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการ เรื่อง ข้าราชการพลเรือน ซึ่งดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการ ซึ่งกระทรวงหรือกรมแต่งตั้งไปประจำจังหวัด ผู้จะได้รับแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนผู้ได้รับเลือกใน อ.ก.พ.จังหวัด ดังนี้ อนุกรรมการข้าราชการพลเรือนผู้ได้รับเลือกจากผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการซึ่งกระทรวงหรือกรมแต่งตั้งไปประจำจังหวัดใน อ.ก.พ. จังหวัด หมายถึง หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ปลัดจังหวัด และผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการอื่น ที่มิใช่หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดที่กระทรวง กรมต่างๆ แต่งตั้งไปประจำจังหวัด ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการสามัญประจำจังหวัด หรือ “อ.ก.พ.จังหวัด” เป็นองค์กรบริหารทรัพยากรบุคคลในจังหวัด ซึ่งตามมาตรา 19 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 กำหนดให้ อ.ก.พ. จังหวัด ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายหนึ่งคน เป็นรองประธาน และอนุกรรมการซึ่งประธาน อ.ก.พ. แต่งตั้งจาก 1. ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกินสามคน 2. ข้าราชการพลเรือนซึ่งดำรงตำแหน่งประเภทบริหารหรือประเภทอำนวยการซึ่งกระทรวงหรือกรมแต่งตั้งไปประจำจังหวัดนั้นและได้รับเลือกจากข้าราชการพลเรือนผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว จำนวนไม่เกินหกคน แต่ละคนต้องไม่สังกัดกระทรวงเดียวกัน 5. เห็นชอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่ง ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 บัญญัติว่า ตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญจะมีในส่วนราชการใด จำนวนเท่าใด และเป็นตำแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด ให้เป็นไปตามที่ อ.ก.พ.กระทรวงกำหนด โดยต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ความไม่ซ้ำซ้อน และประหยัดเป็นหลัก และต้องเป็นไปตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งที่ ก.พ. จัดทำตามมาตรา 48 ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ. จะแจ้งเวียนให้ส่วนราชการถือปฏิบัติ ต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1786 กลุ่มสื่อสารองค์กร สำนักงาน ก.พ.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ