กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำจะยังคงผันผวนสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังกลุ่มกบฏในไนจีเรียโจมตีท่อส่งน้ำมันอีกครั้ง ได้หนุนราคาน้ำมันดิบให้ทะยานขึ้นเกือบ 3.4% + ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนปรับตัวดีขึ้นมากกว่าคาดในเดือนมิ.ย. + การผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ได้ช่วยหนุนความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Daily
30 Min
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นเป็นขาลง, MACD 30 นาทีอยู่ในแดนลบทำให้ราคาดูลบอยู่เล็กน้อย, MACDF อยู่ในแดนลบทำให้ราคาดูเป็นขาลง, Fast Stochastic เคลื่อนตัวขึ้นทำให้ดูราคาเป็นบวกอยู่ในช่วงต้นของวัน, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 57.022 ถือเป็นระดับ Neutral และไม่บ่งบอกถึงทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็นตลาด Sideways ระหว่างแนวรับแนวต้านที่ $933-$947 ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.98-฿34.18
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - ADX < 20 บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 51.513 ถือเป็นระดับ Neutral และไม่บ่งบอกถึงทิศทางที่ชัดเจน, MACD เคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 แสดงถึงตลาด Sideways, MACDF เคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 แสดงถึงตลาด Sideways, Fast Stochastic ระดับวันกำลังเคลื่อนขึ้น และดูได้ว่าราคาอาจปรับตัวขึ้นต่อในช่วงนี้, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นตลาด Sideways โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านราคาระยะกลางต่อไปอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $912
ตาราง 3: แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,200 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,190 หรือที่ $938.30) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 10 บาท ขณะที่ราคาของ GFQ09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,440 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 250 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFQ09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 250-10 = 240 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท จึงยังคงคุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์อ่อนค่าลง +$0.0021 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4072 จากที่ปิด $1.4051 เมื่อวันก่อนหน้า หลังความเชื่อมั่นที่ดีเกินคาดในยุโรปได้เพิ่มความหวังครั้งใหม่เกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ตลาดยังคงจับตาการแสดงความเห็นในพฤหัสนี้ของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางสวีเดนหลังการประชุมนโยบายการเงิน ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก +$0.0025 มาที่ $1.4097
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทปิดอ่อนค่าลง +2 สต. มาอยู่ที่ 34.03 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34.01 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า หลังมีแรงซื้อดอลลาร์ของกลุ่มบริษัทน้ำมัน ขณะที่นักการเงินให้ความเห็นถึงแนวโน้มเงินบาทในระยะสั้น “จะขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 34.00 ก่อน ซึ่งคาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะพยายามชะลอบาทแข็งค่าหลุดระดับดังกล่าว ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในระยะยาวยังเชื่อว่าบาทจะแข็งค่าผ่านระดับดังกล่าวได้” โดยเช้านี้เงินบาทอ่อนลงอีก +2 สต. มาที่ 34.05 บาทต่อดอลลาร์ และมีแนวรับสำคัญที่ 33.98 บาทและ 33.92 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.11 บาทและ 34.18 บาท
ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น +$2.33 มาปิดที่ $71.49 ต่อบาร์เรล หลังเหตุโจมตีครั้งใหม่ในไนจีเรียและความเห็นแง่บวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจช่วยหนุนหุ้นพุ่งขึ้น ได้ลดความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ซบเซาและสต็อกน้ำมันที่ระดับสูง + จีนออกมาระบุว่าต้องการซื้อน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นราว 160% เพื่อการสำรองในเชิงยุทธศาสตร์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ส.ค.ขยับขึ้นอีก +$0.45 มาอยู่ที่ $71.94 ต่อบาร์เรล
ภาวะเศรษฐกิจจีน — มีรายงานจาก นสพ.พีเพิลส์ เดลีว่า การปล่อยสินเชื่อใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ สูงกว่า 6 ล้านล้านหยวน (8.78 แสนล้านดอลลาร์) ของธนาคารจีนและมีแนวโน้มที่จะแตะ 1.2 ล้านล้านหยวน (1.76 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนมิ.ย. เป็นสาเหตุทำให้มีเงินทุนจำนวนมากเกินไปไหลทะลักเข้าสู่โครงการสาธารณูปโภคและการลงทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งเป็นโครงการใหญ่ที่บางครั้งมีการตรวจสอบที่หละหลวมในการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจจะเกิดขึ้น
ปัจจัยลบ
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์ร่วงลง -3.1% สู่ 78.2 ในเดือนพ.ค.จาก 80.7 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 15 ปี อันเนื่องมาจากการลดลงอย่างรุนแรงของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ + ตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอ่อนแออย่างมากมาอยู่ที่ -2.30 ในเดือนพ.ค.ลดลงจาก -2.27 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงต่อเนื่อง
อุปสงค์ + อุปทาน น้ำมัน — มีรายงาน จีนได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลเกือบ 10% ในวันจันทร์ ขณะที่บริษัทบีพีกำลังเริ่มเปิดเดินเครื่อง fluid catalytic cracking unit ที่โรงกลั่นในเมืองไวท์ติ้ง รัฐอินเดียน่าอีกครั้ง + โพลล์รอยเตอร์คาดว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบ จะลดลง -1.6 ล้านบาร์เรล แต่ปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น +2.0 ล้านบาร์เรล ในวันพุธนี้ + สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ทบทวนปรับเพิ่มอุปสงค์น้ำมันของสหรัฐในเดือนเม.ย. ขึ้นมากกว่าที่คาดไว้เดิม 2.16 แสนบาร์เรล แต่ก็ยังคงลดลง 1.297 ล้านบาร์เรลต่อวันจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะเดียวกันก็ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในระยะกลางลง จากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยระบุว่าอันตรายจากภาวะอุปทานตึงตัวลดลงเพียงแค่เล็กน้อย
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 29 มิ.ย.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,125.74 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.19 ล้านออนซ์
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) — ตลาดรอดูผลการซื้อคืนพันธบัตรอายุที่เหลือไม่เกิน 5 ปี ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการซื้อคืนราว 6 หมื่นล้านยูโร (8.4 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนหน้า + การประชุมกำหนดดอกเบี้ยนโยบายในวันที่ 2 ก.ค.นี้
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
Source: Bloomberg
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอในรายงานดังกล่าว นี้เป็นเพียงความคิดเห็นซึ่งนำเสนอโดย บริษัท YLG Bullion International จำกัด โดยบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ จากความเสียหายที่เกิดจากการใช้รายงานหรือข้อความจากรายงานฉบับนี้
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9)
แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com