กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป
แม้ว่าปีนี้เศรษฐกิจประเทศไทยจะไม่เอื้อต่อการลงทุนนัก แต่สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ยังพอจะถือว่าคึกคักกว่าภาคธุรกิจอื่น โดยเฉพาะเมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาครัฐเห็นความสำคัญ โดยการนำระบบแฟรนไชส์มาต่อยอดให้ผู้ประกอบการ เพื่อขยายโอกาสและสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ หวังผลักดันผู้ประกอบการธุรกิจ SME ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจให้รอดพ้นไปได้ ที่ผ่านมาธุรกิจแฟรนไชส์ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในกลุ่มธุรกิจอาหาร สำหรับปีนี้มีรายใหม่เข้าสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งทั่วไป ชื่อ “ธุรกิจรับสร้างบ้าน” หรือ “ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์” อาจจะไม่คุ้นเคยกับผู้อยู่ในแวดวงธุรกิจแฟรนไชส์มากนัก แต่สำหรับวงการก่อสร้างและอสังหาฯแล้วชื่อนี้รู้จักกันในวงกว้าง พร้อมเตรียมเปิดตัวในงาน เมดอินไทยแลนด์ จัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เร็วๆนี้
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ พีดี เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์รับสร้างบ้านเซ็ทอัพเสร็จสมบูรณ์แล้ว พร้อมเปิดตัวในงาน เมดอินไทยแลนด์ ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี จัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 3-12 กรกฎาคม 2552 นี้ โดยรูปแบบบูธจะจำลองบรรยากาศสาขาต้นแบบ เพื่อไปโชว์ให้ผู้สนใจร่วมเป็นเครือข่ายแฟรนไชส์ได้เห็นภาพชัดเจน คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานคับคั่ง ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้ตราสินค้าและธุรกิจแฟรนไชส์รับสร้างบ้านให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โมเดลธุรกิจแฟรนไชส์รับสร้างบ้านถือเป็นเรื่องใหม่ของวงการธุรกิจรับสร้างบ้าน เพราะบริษัทฯเป็นรายแรกและรายเดียวที่บริษัทฯพัฒนาขึ้นมา โดยตั้งเป้าไว้ขยายสาขา 50 สาขาภายใน 5 ปี ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั่วประเทศ หากโมเดลนี้สามารถขับเคลื่อนเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จะเป็นการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีมาตรฐาน และมีความเป็นมืออาชีพเข้าสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างมีระบบ และจะเป็นการสร้างรายได้รวมและเงินหมุนเวียนมากกว่า 4,500 ล้านบาทตลอดระยะเวลา 5 ปี ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดี เฮ้าส์
“บ้าน คือปัจจัย 4 ความต้องการสร้างบ้านเองของผู้บริโภคและประชาชนมีอยู่ทั่วประเทศ หากแต่ขาดผู้ประกอบการที่มีระบบบริหารจัดการมืออาชีพ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดผู้บริโภคจำเป็นต้องเลือกใช้บริการช่างหรือผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องเสี่ยงกับการ สร้างบ้านไม่ได้บ้าน หรือ สร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน สาเหตุสำคัญเป็นเพราะบริษัทรับสร้างบ้านที่ได้มาตรฐานไม่สามารถให้บริการได้ทั่วถึง จึงเป็นช่องว่างทางการตลาดและที่เปิดทางให้ผู้ประกอบการที่มองเห็นเป็นโอกาส นำศักยภาพและประสบการณ์ที่มีอยู่มาต่อยอดธุรกิจ โดยหวังกวาดแชร์ส่วนแบ่งตลาดมาครองภายใต้ระบบการบริหารธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยจากผู้อยู่ในแวดวงธุรกิจรับสร้างบ้านว่า ธุรกิจนี้จะถูกพัฒนาเป็นระบบแฟรนไชส์ได้จริงหรือไม่ แล้วหากเป็นจริงจะไปได้ไกลเพียงใด นับเป็นเรื่องที่น่าให้กำลังใจและเฝ้าติดตามต่อไปสำหรับโมเดลธุรกิจนี้”
นายสิทธิพร กล่าวต่อ ปีนี้ปริมาณความต้องการสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลลดลง ทั้งนี้มีผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศไทยที่ถดถอยรุนแรง รัฐบาลจึงพยายามออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับสร้างบ้านต่างพยายามโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ภาพของธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นที่รู้จักและยอมรับมากขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการเองก็มีการแข่งกันตลอดเวลาเช่นกัน สำหรับยอดขายของบริษัทฯในพื้นที่กรุงเทพฯครึ่งปีที่ผ่านมาต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ในขณะที่สาขาในต่างจังหวัดกลับมียอดขายเติบโต อย่างไรก็ดีปีนี้บริษัทฯไม่มุ่งหวังเพิ่มยอดขายมากนัก แต่จะมุ่งปรับโครงสร้างองค์กรและพัฒนาบุคลากร รวมถึงการพัฒนาสินค้าทั้งในด้านดีไซน์และมาตรฐานงานก่อสร้าง โดยเฉพาะแนวโน้มบ้านประหยัดพลังงานที่กำลังมาแรงและเป็นที่สนใจของผู้บริโภค ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้บริษัทฯได้รับรางวัลฉลากประเภท “ดีมาก” ประจำปี 2552 รวม 4 รางวัล จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน และถือว่าเป็นจุดขายใหม่และตอกย้ำถึงมาตรฐานสินค้าและบริการของบริษัทฯ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด โทร.0-2996-0940-7
Email : warinthorn@pd.co.th , aem-on@pd.co.th , malee@pd.co.th