กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--ฟิทช์+เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National rating) ระยะยาวของบริษัทฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ FNS ที่ระดับ ‘BBB(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ระดับ ‘F3(tha)’
อันดับเครดิตของ FNS สะท้อนถึงโครงสร้างของบริษัทที่เป็นบริษัทประเภทโฮลดิ้ง และระดับเงินกองทุนและสภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัท อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการที่ FNS มิได้มีสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งเป็นผู้ถือหุ้นหลัก รวมทั้งการที่บริษัทมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์ และรายได้จากการลงทุนที่มีความผันผวนสูง
ในปี 2551 FNS ประกาศผลขาดทุนสุทธิจำนวน 614.9 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขาดทุนจากการขายเงินลงทุนในตราสารหนี้ประเภท Collateralised Debt Obligations หรือ CDOs และผลดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจวาณิชธนกิจและนายหน้าค้าหลักทรัพย์ และในไตรมาสแรกของปี 2552 FNS ประกาศผลขาดทุนสุทธิอีกจำนวน 161.1 ล้านบาท เนื่องจากภาวะอุตสาหกรรมโดยรวมที่อ่อนตัวลง และการลดลงของรายได้เนื่องจากสินเชื่อและพอร์ตเงินลงทุนบางส่วนได้ถูกขายออกไปและไม่มีการปล่อยสินเชื่อใหม่ ซึ่งส่งผลทำให้ขนาดของสินทรัพย์ลดลง และอัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์แข็งแกร่งขึ้นมาอยู่ที่ 34.3% ณ สิ้นปี 2551 และ 40.4% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2552
การลดขนาดของธุรกิจการปล่อยสินเชื่อน่าจะส่งผลในทางบวกแก่กลุ่มบริษัทฟินันซ่า เนื่องจากบริษัทไม่มีจุดแข็งในธุรกิจดังกล่าว โดยจะทำให้ FNS สามารถทุ่มเททรัพยากรให้กับธุรกิจที่บริษัทมีความแข็งแกร่งในตลาด เช่น ธุรกิจการลงทุนและธุรกิจที่สร้างรายได้ค่าธรรมเนียมของกลุ่มได้มากขึ้น นอกจากนี้แผนการควบรวมธุรกิจหลักทรัพย์ของ FNS กับบริษัทหลักทรัพย์อีก 2 แห่งยังจะทำให้ธุรกิจหลักทรัพย์ของ FNS แข็งแกร่งขึ้นในระยะยาวจากส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทใหม่ที่จะเกิดจากการควบรวมที่คาดว่าจะสูงขึ้น แม้ว่า FNS จะถือหุ้นประมาณ 25% ในบริษัทใหม่
ในส่วนของโครงสร้างเงินทุน ประมาณ 98% เป็นหนี้สินระยะสั้นโดยส่วนใหญ่ เป็นใบรับฝากเงินที่ออกโดยบริษัทลูกและตั๋วแลกเงินที่ออกโดย FNS ให้แก่นักลงทุนสถาบันและรายย่อย อย่างไรก็ตาม FNS มีสภาพคล่องที่เพียงพอในการชำระหนี้สินระยะสั้น ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2552 อัตราส่วนสินทรัพย์หมุนเวียนต่อหนี้สินหมุนเวียนของบริษัทอยู่ที่ 1.3 เท่าซึ่ง แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นของ FNS ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2552 อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ของ FNS อยู่ที่ 40.4% โดยมีสาเหตุหลักมาจากสินทรัพย์ที่ลดลง ในขณะเดียวกันส่วนของผู้ถือหุ้นก็มีขนาดลดลงเหลือ 1,700 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2552 จาก 3,100 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2548 เนื่องจากผลการประกอบการขาดทุนใน 2-3 ปีที่ผ่านมา
แม้ว่าภาวะอุตสาหกรรมยังคงอ่อนตัว แต่แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพเป็นผลมาจากระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งและความเสี่ยงของธุรกิจของบริษัทที่ลดลง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่อาจจะเกิดในอนาคตอาจมาจากการที่สภาวะของตลาดทุนที่อ่อนตัวกว่าที่คาดไว้ และสภาพคล่องที่ลดลง การที่ FNS ไม่มีผู้ถือหุ้นหลักเป็นสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งที่สามารถให้การสนับสนุนทางการเงิน ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องสูงต่อเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนหรือต่อภาวะที่เกิดความผันผวนในตลาด
ติดต่อ: นฤมล ชาญชนะวิวัฒน์/Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4763/4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน