กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--ธนาคารเอชเอสบีซี
สำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (เอเอฟดี) สถาบันการเงินสัญชาติฝรั่งเศสที่มีพันธกิจเพื่อการพัฒนาด้านสาธารณะ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายพันธบัตรสกุลเงินบาทครั้งที่ 2 แก่นักลงทุนภายในประเทศ โดยธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AAA จากสถาบันจัดอันดับ แสตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) และฟิทช์ เรทติ้งส์ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของเอเอฟดี ตลอดจนโครงการของเอเอฟดีที่กำลังดำเนินการในประเทศไทย และความเชื่อมั่นในตลาดการเงินไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้พันธบัตรได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลายกลุ่มธุรกิจที่ต้องการมองหาการลงทุนที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเอเอฟดีได้เสนอขายพันธบัตรมูลค่ารวม 4 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นวงเงินสูงสุดที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลัง
พันธบัตรสกุลเงินบาทครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรก อายุ 3 ปี มูลค่า 2.2 พันล้านบาท และชุดที่ 2 อายุ 7 ปี มูลค่า 1.8 พันล้านบาท โดยกำหนดอัตราผลตอบแทนที่ร้อยละ 3.4 และร้อยละ 4.6 ต่อปี สำหรับพันธบัตรอายุ 3 ปี และ 7 ปี ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอยู่ที่ร้อยละ 0.72 และร้อยละ 1.01 ต่อปี ตามลำดับ
การเสนอขายพันธบัตรครั้งนี้ทำให้เอเอฟดีสามารถระดมทุนที่ต้องการ ด้วยต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม ขณะเดียวกันยังสามารถขยายฐานนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในประเทศอีกด้วย
ธนาคารเอชเอสบีซี ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเสนอขายครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของการออกพันธบัตรครั้งนี้สะท้อนถึงความ สัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างเอชเอสบีซี และเอเอฟดี รวมทั้งเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชี่ยวชาญของเอชเอสบีซีในตลาดเกิดใหม่ และศักยภาพในการบริหารและจัดการธุรกรรมระหว่างประเทศอีกด้วย
มร. ฟรองซัวส์ ซาวิเย่ ดูปอร์จ ผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การเสนอขายพันธบัตรครั้งนี้เป็นกลยุทธ์การระดมทุนขององค์กรในตลาดตราสารหนี้ไทย เพื่อกระจายแหล่งเงินทุน และมีส่วนร่วมพัฒนาตลาดการเงินในประเทศ เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นสถาบันการเงินที่ได้รับการจัดอันดับระดับ AAA แห่งแรกที่ออกพันธบัตรในประเทศไทยในปีนี้ การเสนอขายพันธบัตรสกุลเงินบาทครั้งที่ 2 นี้สะท้อนถึงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของเอเอฟดีในการลงทุนเพื่อการพัฒนาต่างๆของประเทศไทย”
มร.วิลลี แทม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายพันธบัตรของเอเอฟดีทั้งสองครั้ง เรารู้สึกยินดีที่พันธบัตรของเอเอฟดีได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลามอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพตลาดที่ท้าทายเช่นนี้ ความสำเร็จของการเสนอขายพันธบัตรครั้งที่ 2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่า เอเอฟดีเป็นสถาบันระดับโลกที่มีความน่าเชื่อถือสูง และเอชเอสบีซีรู้สึกภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของการเสนอขายพันธบัตรครั้งนี้ ซึ่งเงินที่ได้จากการเสนอขายจะนำกลับมาลงทุนในโครงการต่าง ๆ ภายในประเทศ เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยต่อไป”
สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย เอเอฟดีมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และการพิทักษ์ทรัพยากรสาธารณะของโลก ซึ่งประกอบด้วย การลดปัญหาโลกร้อน การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการต่อสู้โรคระบาดและโรคที่เกิดใหม่ นอกจากนี้ เอเอฟดี ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยงานปกครองท้องถิ่นอีกด้วย
ด้านการลดภาวะโลกร้อน เอเอฟดีร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ริเริ่มโครงการเพื่อสนับสนุนการสร้างอาคารที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เอเอฟดียังได้ร่วมกับกรุงเทพมหานครในการนำร่องแผนปฏิบัติการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกรุงเทพมหานครในปีที่ผ่านมาอีกด้วย
ด้านโครงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกของฝรั่งเศส (FFEM) ซึ่งมีเอเอฟดีเป็นตัวแทนในประเทศไทย ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติของไทย สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์การสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) เปิดตัวโครงการการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายพื้นที่คุ้มครองทางทะเล อันดามัน (SAMPAN) เมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้ดำเนินการหลายโครงการ เพื่อมุ่งเน้นการอนุรักษ์ความหลากหลาย ทางชีวภาพของแนวปะการังบริเวณอุทยานแห่งชาติทางทะเล 3 แห่งในฝั่งทะเลอันดามัน (ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา) รวมทั้งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การดำเนินโครงการได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 1 ล้านยูโรจาก FFEM ซึ่งได้มีการใช้จ่ายเงินเพื่อดำเนินโครงการไปบ้างแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วรนันท์ สุทธปรีดา, สาวิตรี หมวดเมือง โทรศัพท์ 0-2614-4609, 0-2614-4606
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:
1. สำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสในประเทศไทย
สำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (เอเอฟดี) ได้ลงนามในสัญญากับสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2549 เพื่ออนุญาตให้เอเอฟดีสามารถดำเนินการในประเทศไทยได้ อย่างเป็นทางการ เอเอฟดีเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาด้านสาธารณะ ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ขจัดความยากจนและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังพัฒนา และดินแดนและเขตการปกครองโพ้นทะเลของสาธารณรัฐฝรั่งเศสเป็นเวลากว่า 60 ปี เอเอฟดีดำเนินการตามนโยบายการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลฝรั่งเศส ในกว่า 50 ประเทศ และสนับสนุนเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการที่จะช่วยยกระดับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน ส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจ และพิทักษ์โลก โครงการที่ได้รับจัดสรรเงินทุนจากเอเอฟดีช่วยสร้างโรงเรียนให้แก่เด็ก ๆ ช่วยเหลือชาวนาและธุรกิจขนาดเล็ก จัดหาน้ำดื่ม อนุรักษ์ป่าเขตร้อนชื้น ลดปัญหาภาวะโลกร้อน และอื่นๆ เอเอฟดีจัดสรรเงินทุนเกือบ 4.5 พันล้านยูโร เพื่อสนับสนุนกิจกรรมในประเทศที่กำลังพัฒนา และดินแดนและเขตปกครองโพ้นทะเลของสาธารณรัฐฝรั่งเศสในปี 2551 เช่น เงินช่วยเหลือได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ในปีที่ผ่านมา
2. ธนาคารเอชเอสบีซีในประเทศไทย
เอชเอสบีซีเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกในประเทศไทย เปิดสำนักงานให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2431 ด้วยประสบการณ์ด้านการเงินการธนาคารและเครือข่ายสาขากว้างขวางทั่วโลก รวมกับความรู้ความชำนาญของบุคลากรภายในประเทศ ธนาคารเอชเอสบีซีเปิดให้บริการด้านการเงินและการธนาคารเต็มรูปแบบ ทั้งบริการด้านเงินฝาก สินเชื่อธุรกิจ พาณิชย์ธนกิจ ธุรกิจสถาบันการเงิน บริการด้านบริหารเงินและตลาดทุน บริการดูแลและรับฝากหลักทรัพย์ บริการการค้าและเครือข่ายธุรกิจระหว่างประเทศ และบริการด้านการชำระเงินและบริหารเงินสดแก่ลูกค้าประเภทองค์กร ตลอดจนบริการบุคคลธนกิจและธุรกิจบัตรเครดิตแก่ลูกค้าประเภทบุคคล ธนาคารเอชเอสบีซีได้รับ การยอมรับจากทั่วโลกในด้านบริการที่ได้มาตรฐานสูง ความมีจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจ และเจตนารมณ์ในการมุ่งมั่นบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคม