ไทยนำเสนอปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในงาน The World Expo 2010

ข่าวทั่วไป Wednesday July 1, 2009 14:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--สป.พม. ไทยนำเสนอปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในงาน The World Expo 2010 ภายใต้แนวคิด “ ความเป็นไทยวิถีแห่งความยั่งยืนของชีวิต Thainess : Sustainable Ways of Life ” กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำเสนอหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แก่นแกนแนวคิด “ความเป็นไทยวิถีแห่งความยั่งยืนของชีวิต “Thainess : Sustainable Ways of Life” ในงาน The world Exposition Shanghai China 2010 ที่นครเซียงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน งานมหกรรมโลกที่ยิ่งใหญ่ ครั้งสำคัญ เทียบเท่าโอลิมปิคเกมส์ และฟุตบอลโลก มีประเทศและองค์กรระหว่างประเทศทั่วโลก กว่า 230 ราย เข้าร่วมประชันนำเสนอนวัตกรรมสู่สายทั่วโลก รวมทั้งการคิดค้นงานที่ท้าทายในยุคกระแสโลกาภิวัตน์เพื่อการพัฒนาเมืองและสังคมควบคู่ไปกับการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษยชาติ ตามแนวคิดหลักของการจัดงานครั้งนี้ คือ “Better City , Better life : เมืองที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” วันนี้ (1 ก.ค. 2552) เวลา 09.30 น. ที่อาคาร ICC ศูนย์การประชุมอิมแพคเมืองทองธานี นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในการแถลงข่าวการเข้าร่วมจัดงาน The World Exposition Shanghai China 2010 ของประเทศไทย ว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการเข้าร่วมงาน The World Exposition Shanghai China 2010 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม - 31 ตุลาคม 2553 โดยสาธารณรัฐประชาชนจีน ในฐานะประเทศเจ้าภาพ กำหนดจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้หัวข้อหลัก “Better City, Better Life: เมืองที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” บนเนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากถึง 70 ล้านคน นับว่าเป็นการจัดงานมหกรรมโลกที่ยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่ง เทียบเท่าโอลิมปิคเกมส์ และฟุตบอลโลก มีประเทศต่าง ๆ และองค์กรระหว่างประเทศทั่วโลก ให้ความสำคัญและแจ้งความจำนงเข้าร่วมงานกว่า 230 ราย “การเข้าร่วมงานมหกรรมโลกครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศต่าง ๆ จะได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ สู่สายตาชาวโลก รวมทั้ง การคิดค้นงานที่มีความท้าทาย ในยุคกระแสโลกาภิวัตน์ที่มีความสอดคล้องตามแนวคิดของหัวข้อหลักการเข้าร่วมงาน คือ ““Better City , Better life : เมืองที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” จะเป็นโอกาสที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ร่วมกันค้นหาแนวทางการพัฒนาเมืองในอนาคตให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ การค้นหาวิถีทางการพัฒนาและการผสมผสานวิถีแห่งการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเพื่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของมวลมนุษยชาติ” นายอิสสระ กล่าว นายอิสสระ กล่าวต่อว่า การเข้าร่วมงานมหกรรมโลกของประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นการเข้าร่วมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของภาคีสมาชิก ประเทศไทยได้วางเป้าหมายให้อาคารศาลาไทยเป็นหนึ่งในศาลาที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในงานนี้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวต่างชาติได้มาลงทุนทั้งในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมงานบริการต่างๆ รวมทั้ง ยังเป็นการสร้างโอกาสในการเรียนรู้นวัตกรรม และแนวคิดใหม่ๆในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของสังคมไทยในอนาคต ตลอดจนเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับนานาประเทศ ภายในอาคารศาลาไทย ยังได้จัดร้านอาหารไทย เพื่อให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมชื่อเสียงของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น “รูปแบบการจัดแสดงงาน เป็นรูปแบบอาคารที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย สำหรับรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการ จะมีการนำเสนอด้วย เทคนิค อุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อสร้างความน่าสนใจ มีความตื่นตา ตื่นใจ และดึงดูดผู้เข้าชมงาน ตามแนวคิดหลักของเรา คือ “Thainess : Sustainable Ways of Life” เพื่อให้นานาประเทศได้รับรู้ถึงวิถีความเป็นไทย แนวทางการดำเนินชีวิตทั้งในรูปแบบของเมืองและชนบท ความงดงามอย่างมีเอกลักษณ์ด้านศิลปะและวัฒนธรรมอย่างไทย การนำภูมิปัญญาไทยมาปรับใช้ร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ มาเป็นแนวทางการดำรงชีวิตที่ก่อให้เกิดการพัฒนาความสงบสุขในสังคมอย่างยั่งยืน นำเสนอผ่านการจัดแสดงนิทรรศการด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในห้องจัดแสดงนิทรรศการของอาคารศาลาไทย” นายอิสสระ กล่าว นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเพิ่มเติมถึงรูปแบบการจัดงาน ว่า เป็นการนำเสนอในรูปแบบของอาคารศาลาไทย ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยนำเอาสถาปัตยกรรม และศิลปะของไทยมาผสมผสาน เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสความงดงามแบบไทย มีความเข้าใจสภาพความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของคนไทย ภายใต้แนวความคิด “Thai Perspective” สำหรับนิทรรศการภายในอาคาร แบ่งออกเป็น 3 ห้อง ประกอบด้วย ห้องที่ 1 “จากต้นสายแหล่งกำเนิด : A Journey of Harmony” ภายใต้แนวคิด วิถีแห่งน้ำ วัฎจักรแห่งชีวิต เพื่อแสดงถึงบรรยากาศวิถีชีวิตความเป็นไทยตั้งแต่เริ่มกำเนิดชาติไทย การหลอมรวมของคนหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม วิถีการดำเนินชีวิตพึ่งพาธรรมชาติ จุดเริ่มต้นแห่ง “วัฒนธรรมสายน้ำ” ถ่ายทอดผ่าน”วัฎจักรของน้ำ” อันเปรียบดั่งเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตเกิดควบคู่ไปพร้อมๆกัน ห้องที่ 2 “เกิดร้อยพันหลายวิถี : A Harmony of Difference Tones” ภายใต้แนวคิด ประเทศไทยกับการติดต่อค้าขายกับต่างชาติ นำมาซึ่งวิวัฒนาการของแผ่นดิน เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ของประเทศไทยกับนานาชาติ ความสัมพันธ์ไทย-จีน รวมถึงการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย(Blending of Diverse Cultures in the City) ที่มีอิทธิพลต่อวิถีการดำเนินชีวิตของชาวไทยในสังคมไทยปัจจุบัน ห้องที่ 3 “หลอมรวมชีวีสู่วิถีความเป็นไทย : A Harmony of Thais” ภายใต้แนวคิดปรัชญาพอเพียง ดั่งเทียนส่องสว่าง สู่หนทางแห่งความสุขอันยั่งยืน เป็นการแสดงถึงประเทศไทยในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่แม้จะมีการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี และความทันสมัยแบบต่างชาติ แต่แก่นแท้ของคนในชาติ เรายังคงอยู่อย่างเรียบง่ายภายใต้หลักการดำเนินชีวิตด้วยความ “พอเพียง” ที่สามารถปรับใช้ได้ในทุกระดับชนชั้น เพื่อดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ