กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ผิวสวยเนียนเรียบ ไร้รอยแผลเป็น ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ...ผลิตภัณฑ์เจลดูแลรอยแผลเป็น “ฮีรูสการ์” น้องใหม่จากฮีรูดอยด์ นำโดย ปรวีท์ยา ไวศยะ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส แผนกเมดดิโนวา บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ได้จัดกิจกรรม “เพื่อนกัน...ชวนกันมา...สวย” ในหัวข้อ “รู้จักคุณ รู้จักผิว” ให้หนุ่มสาวรักผิวได้ชวนเพื่อนมาร่วมกิจกรรมเรียนรู้วิธีดูแลผิวให้ห่างไกลจากแผลเป็นจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ และรู้จักดูแลตัวเองให้ถูกต้องตามธาตุเจ้าเรือน ตามหลักแพทย์แผนไทย พร้อมกับมีสิทธิ์ลุ้นเป็นนางแบบลงนิตยสาร โดยมีหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพผิว อาทิ ม.ล.ปุญยนุช — ภัทราสุภา ดุลยจินดา , ณัฎฐิ์ประภา ชุณหะวัณ , สาริษฏ์ ฮุนตระกูล , ณพอาภา เทวกุล ณ อยุธยา, สุวรา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา , วิมลลักษณ์ จงรัตนเมธีกุล และ กัลย์ธิดา ทาดะ มิสไทยแลนด์อินเจแปน มาร่วมอัพเดทความรู้ผิวเนียนสวย ณ โรงแรมวี ถนนพญาไท
ภายในงาน ผู้มาร่วมงานต่างทำความรู้จักกับผิวของตัวเองอย่างล้ำลึก ด้วยการตรวจสภาพผิว วิเคราะห์ผิวชั้นในเพื่อดูร่องรอยด่างดำ และรอยแผลเป็นกันก่อนเริ่มงาน พร้อมกับรับคำปรึกษาเรื่องการดูแลตัวเองตามธาตุเจ้าเรือน ตามทฤษฎีแพทย์แผนไทย จาก ปรรพกาล เกษมพรรณราย ที่ปรึกษามูลนิธิการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้แนะนำว่า “ปัจจุบันคนให้ความใส่ใจดูแลเกี่ยวกับสุขภาพกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรที่ปัจจุบันนิยมกันอย่างแพร่หลาย แต่หากเรายิ่งรู้ถึงธาตุเจ้าเรือนว่าตัวเราเป็นคนธาตุอะไรนั้น จะยิ่งทำให้เราสามารถดูแลตัวเราเองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งธาตุเจ้าเรือนตามทฤษฎีแพทย์แผนไทย คือ องค์ประกอบ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนปฏิสนธิ แต่ละคนจะมีธาตุใดธาตุหนึ่งที่เด่นชัดกว่าธาตุอื่น ได้แก่ ธาตุดิน คือผู้ที่เกิดในเดือน ต.ค.-พ.ย.-ธ.ค. โดยรวมแล้วสุขภาพแข็งแรง รับประทานได้ทุกอย่าง ระวังแต่เรื่องท้องผูก ส่วนสุขภาพผิวพรรณดี ฟื้นตัวได้เร็ว ดูแลง่าย , ธาตุน้ำ คือผู้ที่เกิดในเดือน ก.ค.-ส.ค.-ก.ย. ด้านสุขภาพต้องระวังอาการหวัด คัดจมูก อากาศหนาวจะเจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนสุขภาพผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล แต่จะเกิดฝีหรือหนองได้ง่าย เป็นสิวแล้วหายยาก ให้รับประทานอาหารที่มีรสขม และเปรี้ยวเพื่อบำรุงผิวพรรณ , ธาตุลม คือผู้ที่เกิดในเดือน เม.ย.-พ.ค-มิ.ย. ด้านสุขภาพมักเวียนหัว หน้ามืดบ่อยๆ เจ็บป่วยง่ายในช่วงฤดูฝน ผิวพรรณหยาบแห้ง เป็นแผลแล้วมักเกิดแผลเป็น ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เช่น เปรี้ยวจัด เค็มจัด เน้นพวกอาหารเผ็ดร้อน เช่น ขิง ข่า พริกไทย เป็นต้น และ ธาตุไฟ คือผู้ที่เกิดในเดือน ม.ค.-ก.พ.-มี.ค. ด้านสุขภาพเป็นไข้ตัวร้อนได้ง่าย ส่วนผิวพรรณแห้ง เป็นขุย เป็นแผลเป็นง่าย ใช้เวลารักษานาน หลีกเลี่ยงแสงแดดเพราะจะเกิดฝ้าได้ง่าย ควรรับประทานอาหารรสขม จืดและเย็น เป็นต้น ซึ่งแต่ละธาตุมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกัน จึงต้องมีวิธีดูแลสุขภาพและผิวพรรณที่แตกต่างกันไป รวมถึงการเลือกรับประทานสมุนไพรที่ถูกกับธาตุของเรา แต่ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ อีกที่สามารถส่งผลต่อผิวพรรณของเราให้ดูดีขึ้น ก็คือเรื่องของการออกกำลังกาย การทำสมาธิเพื่อให้จิตใจได้ผ่อนคลาย ไม่เครียด และการหลีกเลี่ยงมลภาวะต่างๆ ที่ปัจจุบันล้วนเป็นตัวการทำลายผิวพรรณ รณะงๆ ที่ปัจจุบันล้วนเป็นตัวกาวต่หากเรายิ่งรู้ถึงธาตุเจ้าเรือนว่าตัวเราเป็นคนธาตุอะไรนั้น จะยิ่งทำให้เราสามารถดูแลตัวเราเองได้ด เพียงเท่านี้เราก็จะมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง สุขภาพดี แลดูอ่อนกว่าวัย”
หลังจากนั้น ยังได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง กล่าวถึงการดูแลผิวให้ห่างไกลจากแผลเป็นว่า “รอยแผลเป็นต่างๆ อาจเกิดได้ทั้งการบีบสิว การทำเลเซอร์ ถูกความร้อนจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก นั้นแบ่งได้ 3 ลักษณะ คือ 1.แผลเป็นนูน หรือ คีลอยด์ เกิดจากการสร้างเนื้อเยื่อใหม่มีมากกว่าปกติและมีรอยนูนหนาที่ลุกลามขยายขอบเขตจากแผลเดิมไปเรื่อยๆ เกิดจากเนื้อเยื่อผิวหนังงอกผิดปกติ ซึ่งเกิดได้กับแผลทุกขนาด และไม่สามารถหายเองได้ ต้องรักษาโดยแพทย์ฉีดเสตียรอยด์เข้าที่แผลเป็น ซึ่งมีความเจ็บปวดมาก เนื่องจากแผลเป็นมีความแข็งและต้องใช้แรงกดมาก แผลอาจยุบตัวและอาจขยายตัวขึ้นมาอีกได้ หากตำแหน่งของแผลเป็นไม่ได้รบกวนการเคลื่อนไหวของอวัยวะหรือจุดสำคัญ เช่น ใบหน้า แพทย์แนะนำให้ปล่อยไว้เฉยๆ จะดีกว่า และหลีกเลี่ยงการบีบนวด ซึ่งอาจทำให้แผลขยายใหญ่ขึ้นได้ 2. แผลเป็นหลุม เกิดจากเนื้อเยื่อผิวถูกทำลายลึกหลายชั้น และไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่ออื่นทดแทนที่ชั้นผิวได้เต็มเหมือนเดิม เช่น รอยสิว อีสุกอีใส ในกรณีเป็นน้อย สามารถดูแลได้ด้วยตัวเอง คือ การทายาที่มีวิตามินเอ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ดันก้นหลุมลึกให้ตื้นขึ้น แต่หากแผลเป็นหลุมลึก ต้องรับการรักษาโดยแพทย์ ด้วยการฉีดกรดที่ก้นแผล ให้ดูเรียบเนียนขึ้น 3.สีผิวที่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะรอยดำ รอยคล้ำจากสิว ตามธรรมชาติแล้วแผลเป็นชนิดนี้จะสามารถคืนสภาพได้เองในเวลา 1-2 เดือน ยกเว้นแผลเป็นที่มีสีอ่อนกว่าสีผิว ซึ่งมักจะเป็นถาวร รักษาไม่หาย ทั้งนี้ การรักษาแผลเป็นโดยภาพรวมนั้น ก่อนอื่นควรป้องกันไว้ดีกว่ารักษา แต่เมื่อเกิดแผลขึ้นแล้ว ควรดูแลรักษาแผลให้ดี หลีกเลี่ยงสบู่ที่อาจไปรบกวนสมดุลของแผล และแผลจะหายเร็วขึ้นด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้น การรักษาไม่ให้เกิดแผลเป็นเบื้องต้นจะต้องรีบรักษาตั้งแต่แผลหายดีใหม่ๆ ด้วยเจลดูแลรอยแผลเป็นซึ่งมีหลายตัวยา เช่น มิวโคโพลีซัคคาไรด์ โพลีซัลเฟต หรือ MPS เป็นสารอย่างหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งเป็นปัจจัยในการทำให้เนื้อเยื่อสมาน หรือแผลหายเร็วขึ้น , อัลเลียม ซีปา หรือสารสกัดจากหัวหอม เชื่อว่ามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ลดการอักเสบของแผล ซึ่งเป็นปัจจัยเกิดการแผลเป็น , ซิลิโคน มีทั้งที่เป็นยาทา และแผ่นปิดที่บริเวณแผลเป็น เป็นต้น ทั้งนี้ การดูแลแผลเป็นด้วยการทายาจึงเป็นข้อปฏิบัติเบื้องต้น ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง แม้อาจไม่ได้ผิวที่เนียนเรียบกลับมา 100% แต่ก็สามารถป้องกันการลุกลาม และง่ายต่อการรักษาโดยแพทย์ต่อไป”
พบกับ กิจกรรม “Friend get Friend เพื่อนกัน...ชวนกันมา...สวย” ในหัวข้อต่อไปได้ในเดือนกันยายนศกนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อร่วมกิจกรรมได้ฟรี ที่โทร.081-613-6843 หรือ www.market-revolution.com/hiruscar สาวผิวสวย ร่วมถ่ายภาพลงในนิตยสารอาจเป็นคุณ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300
คุณสุจินดา , คุณแสงนภา , คุณชินนารี