กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ลูกเสือ เนตรนารี กว่า 3,000 คน ร่วมถวายราชสดุดี ทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนาม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงก่อตั้งกิจการลูกเสือไทย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีถวายราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2552 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย โดยมีนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจำเริญ ศิริพงศ์ติกานนท์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา และผู้บังคับบัญชาลูกเสือ พร้อมลูกเสือสังกัดกรุงเทพมหานครจาก 10 สำนักงานเขต ได้แก่ สำนักงานเขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย ปทุมวัน สัมพันธวงศ์ บางรัก ดุสิต พญาไท ราชเทวี สาทรและคลองเตย รวมทั้งสิ้น 300 คน เข้าร่วมพิธี ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี เขตปทุมวัน
จากนั้นเวลา 09.30 น. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางไปศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย—ญี่ปุ่น) ดินแดง เป็นประธานในพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนามลูกเสือกรุงเทพมหานคร เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2552 โดยมีผู้ร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย ลูกเสือสำรอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ เนตรนารี และผู้บังคับบัญชาหมู่ลูกเสือจากโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 3,000 คน ร่วมพิธี
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันที่ 1 ก.ค. ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ กรุงเทพมหานครจึงจัดพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนามลูกเสือกรุงเทพมหานครเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ที่ทรงพระราชทานก่อตั้งคณะลูกเสือไทย ซึ่งในยุคนั้นมุ่งแก้ปัญหาบ้านเมืองให้รอดพ้นจากการตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศมหาอำนาจต่างๆ ด้วยการปลูกจิตสำนึกให้คนไทยตระหนักถึงหน้าที่ของตนที่ต้องร่วมใจปกป้องแผ่นดินไทย จึงตั้งกองเสือป่าขึ้นและได้รับการพัฒนาตามลำดับจนต่อมาก่อตั้งเป็นกองลูกเสือไทยที่สร้างชื่อเสียงและคุณประโยชน์แก่ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของลูกเสือทั่วโลก ซึ่งการจัดกิจกรรมให้นักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครได้รับการฝึกอบรมเป็นลูกเสือ เนตรนารี ถือเป็นการส่งเสริม สนับสนุนกิจการลูกเสือไทยให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้ ฝึกฝนและสร้างความมีระเบียบวินัยอันเป็นรากฐานมั่นคงในการเตรียมความพร้อมรองรับความรู้ ความสามารถทางวิชาการในอนาคตได้เป็นอย่างดี รวมถึงเป็นการสร้างคุณธรรมในจิตใจ และปลูกฝังความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปลูกจิตสำนึกด้านความซื่อสัตย์สุจริต การบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งเกื้อหนุนเยาวชนให้เติบโตเป็นพลเมืองดี มีวินัยของชาติ บ้านเมือง สมดังอุดมการณ์ของลูกเสือไทยที่ว่า “จะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ”
โอกาสนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือดีเด่น สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2550 จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทผู้สนับสนุน ประเภทผู้บริหาร และประเภทผู้สอน