กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--Triple J Communication
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึง การปรับสูตรน้ำมันดีเซลใหม่ ให้เหลือเพียงเกรดเดียวว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาซึ่งคาดว่าจะได้ข้อยุติเร็วๆนี้ โดยจะคำนึงถึงปัจจัยสำคัญๆ ทั้งในส่วนของเกษตรกร ผู้ผลิต B100 ผู้ค้าน้ำมัน และโดยเฉพาะผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยมีทางเลือกกลไกในการส่งเสริมให้มีความต้องการใช้ไบโอดีเซลมากขึ้น โดยจะกำหนดการใช้น้ำมันไบโอดีเซลผสม ในไบโอดีเซล 5% หรือ B5 เร็วขึ้นก่อนปี 2554 ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี หรือจะใช้กลไกที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือการบังคับผสมไบโอดีเซล 2% หรือ B2 ควบคู่ไปกับความสมัครใจ ขาย B5 ซึ่งทั้ง 2 ทางเลือก ต้องมีการพิจารณาว่าทางเลือกใดจะมีต้นทุนในการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยกว่ากัน แต่ในขณะเดียวกันจะคำนึงถึงความพอเพียงของวัตถุดิบเช่นกัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากที่ได้ระบุไว้ในแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี ซึ่งมีเป้าหมายให้ใช้ไบโอดีเซลในปริมาณ 4.5 ล้านลิตร / วัน ใน ปี 2565 ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B2 ที่ 25.61 ล้านลิตร/วัน และ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วดีเซลหมุนเร็ว B5 ที่ 25.69 ล้านลิตร คิดเป็นปริมาณ B 100 เทียบเท่ากับ 1.80 ล้านลิตร/วัน หรือ 3.51 % ของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วทั้งหมด
ในขณะที่เดือน มีนาคม — กรกฎาคม มีผลผลิตปาล์มประมาณ 900,000 ตัน/เดือน สามารถผลิตเป็นน้ำมันปาล์ม (CPO)ได้ 153 ล้านลิตร/เดือน หรือ 5 ล้านลิตร/วัน ซึ่งให้เพื่อการบริโภคและพลังงาน ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานไบโอดีเซล 13 โรง มีกำลังการผลิตรวม 4.4 ล้านลิตร/วัน แต่สามารถผลิตไอโอดีเซลได้ประมาณ 1.2 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากปริมาณวัตถุดิบมีจำกัด
“กระทรวงพลังงานจะเร่งส่งเสริมไบโอดีเซลให้มากขึ้น เพื่อเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรรม โดยได้เร่งรัดให้เพิ่มพื้นที่ปลูกและพัฒนาผลผลิตปาล์ม และกระทรวงพลังงานยังคงนโยบายใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล B5 ต่อไป” นายแพทย์วรรณรัตน์กล่าว
Parichart Vichahong ><
Public Relations Officer
Triple J Communication., Ltd
02-221-2296