กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--ปภ.
ปภ. เตือน ขับรถตามรถบรรทุกสารเคมี อย่าขับจี้ท้าย หากพบอุบัติเหตุให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที อย่ากระทำการอันใดโดยไม่รู้จริงเป็นอันขาด เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึง การใช้รถใช้ถนนโดยทั่วไปของพี่น้องประชาชนในปัจจุบันว่า นอกจากต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการเพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ แล้ว ต้องหมั่นสังเกตยานพาหนะรอบ ๆ ตัว ว่า เป็นรถบรรทุกสารเคมีหรือไม่ โดยสามารถสังเกตได้ง่าย จากลักษณะของถัง หรือ แทงค์ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นการเฉพาะ เพื่อการขนส่งและเก็บวัตถุอันตราย และลักษณะเฉพาะของภาชนะบรรจุเหล่านี้ สามารถบ่งบอกได้ว่า วัตถุที่บรรจุอยู่ภายในคืออะไร ส่วนใหญ่รถที่บรรทุกของเหลวไวไฟ (น้ำมัน) ถังบรรจุที่มากับตัวรถจะมีลักษณะเป็นรูปวงรี หัว-ท้ายโค้งมนเล็กน้อย และเรียบ มีช่องทางเดินบนหลังคา, รถบรรทุกก๊าซเหลวอุณหภูมิต่ำมาก (ก๊าซเฉื่อยต่าง ๆ เช่น ฮีเลียมเหลว ไนโตรเจนเหลว ออกซิเจนเหลว) ตัวถังบรรจุเป็นรูปทรงกระบอกขนาดใหญ่ หัว-ท้ายโค้งมน บริเวณส่วนท้ายของถังมีตู้ควบคุมระบายความดันและช่องถ่ายสาร, รถบรรจุสารกัดกร่อน (ถังกรด-ด่างแก่ เช่น กรดเกลือ กรดกำมะถัน โซเดียมไฮดรอกไซด์) ลักษณะถังบรรจุถ้ามองจากด้านท้ายจะเป็นรูปวงกลมเล็ก ด้านข้างเป็นรูปทรงกระบอก หัว-ท้ายโค้งมนเล็กน้อย ตัวถังทำด้วยสแตนเลส มีวงแหวนรัดรอบ, รถบรรทุกก๊าซเหลวอัดความดัน (ก๊าซไวไฟ และก๊าซพิษบางชนิด เช่น คลอรีน แอมโมเนีย) มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก หัว-ท้ายโค้งมน เป็นรูปครึ่งวงกลม ผิวเรียบ หากต้องขับรถเข้าใกล้รถบรรทุกเหล่านี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ขับจี้ท้าย และหากพบว่ารถบรรทุกเหล่านี้เกิดอุบัติเหตุหรือมีการรั่วไหลของสารเคมี ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวอย่างน้อย 50 เมตร จากนั้นรีบมองหาผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างระมัดระวัง หากพบผู้บาดเจ็บและแน่ใจว่าสามารถให้การช่วยเหลือได้โดยไม่มีความเสี่ยง ให้เข้าช่วยเหลือจากทางเหนือลมเท่านั้น แล้วรีบเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บไปยังที่มีอากาศบริสุทธิ์ทันที จากนั้นให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ หรือ โทร 1784 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุ และลักษณะการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับหน่วยงานที่จะเข้าทำการกู้ภัยและให้ความช่วยเหลือ
ที่สำคัญ หลีกเลี่ยงอย่าให้เกิดประกายไฟในบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุเป็นอันขาด เนื่องจากอาจมี ไอระเหยของสารเคมีหรือก๊าซติดไฟได้ในบริเวณนั้น อย่าเปิดท้ายรถที่บรรจุสารเคมี เพราะอาจทำให้สารเคมีที่มีความเข้มข้น รั่วไหลออกมา ทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่าจอดรถ หรือขับรถผ่านในที่ที่เป็นทางผ่านของสารเคมี หรือกลุ่มควัน ให้ระลึกอยู่เสมอว่ายานพาหนะเป็นแหล่งเกิดประกายไฟ และอย่าพยายามกระทำการอันใดในสิ่งที่ไม่มีความรู้ เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียหายรุนแรงโดยมิได้คาดคิด--จบ--