กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--เจบิ๊คส์-ฟิล์ม
Bloody Tie บลัดดี้ ไท
เลว/ ดี บี้นรก
กำกับการแสดงโดย
ชอย โฮ
บทภาพยนตร์โดย
ชอย โฮ และ ยูน ดุ๊ควอน
บริษัท เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม จำกัด
Bloody Tie ( เลว/ ดี บี้นรก)
PRODUCTION NOTE
ชื่ออย่างเป็นทางการ Bloody Tie / เลว, ดี บี้นรก
ประเภท Action / Crime / Thriller
บทภาพยนตร์และผู้กำกับ Ho Choi
นักแสดง Ja-Hyeon Chu
Jeong-min Hwang
Jung Mi Hwang
Hee-ra Kim
Jin-hyeok Kim
ความยาว 117 นาที
เข้าฉาย 09 พฤศจิกายน 2549
บริษัทนำเข้า บริษัท เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม จำกัด
จัดจำหน่าย บริษัท เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม จำกัด
เรื่องย่อ
ปี 1998 ปีที่เกาหลีตกอยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจไอเอ็มเอฟที่กำลังเล่นงานประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย ค่าเงินวอนของเกาหลีตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว เกิดการล้มละลายขึ้นอย่างมากมายทำให้อัตราการว่างงานสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เมืองที่ได้รับผลกระทบอันเลวร้ายที่สุดคือ ปูซาน เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศอันเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ ซึ่งสินค้านำเข้าของเกาหลีหลัก ๆ ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายต้องผ่านที่นี่ การค้าที่ทำกำไรมากที่สุดคือการค้าของเถื่อน ยาเสพย์ติด และโดยเฉพาะ เมธแอมเฟตามีน ซึ่งรู้จักกันในปูซานในชื่อ “พิโลปอง”
คนขายยาหนุ่มที่ชื่อ ซังโด (ริว ซวงบุม) ก็เป็นหนึ่งประชากรของปูซานที่ต้องหันมาค้ายาเพราะวิกฤตเศรษฐกิจ ซังโดผู้ซึ่งเป็นคนกลางในวงจรของการค้ายา เขาต้องการผลักดันธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นทั้งที่เขามีอดีตอันขมขื่นที่เกิดจากลุงผู้ซึ่งเป็นอาชญากรค้ายาผู้ชั่วร้ายของเขา
โดห์ (หวาง จุงมิน) ตำรวจปราบปรามยาเสพย์ติดของปูซานต้องถูกหลอกหลอนด้วยความทรงจำอันเลวร้ายเกี่ยวกับการตายของคู่หูของเขาด้วยน้ำมือของ จางชุล ราชายาเสพติดผู้ชั่วร้ายเมื่อสี่ปีก่อน จางชุล ถูกจับได้แต่เขาได้ทำข้อตกลงบางอย่างกับ โค อัยการรัฐของปูซาน หลังจากนั้นก็หนีประกันไปที่เมืองจีน ตั้งแต่นั้น โดห์ ก็ทำงานด้วยเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกำจัดยาเสพย์ติดให้หมดไปจากปูซาน โดห์ วางแผนที่จะใช้ ซังโด เป็นสายเพื่อแทรกซึมเข้าไปในพวกระดับบนของวงการค้ายาและทำการกวาดล้างทุกคนให้หมดตั้งแต่ซังโดขึ้นไปจนถึงระดับสูงสุด โดห์ ส่งเมธให้ ซังโด เป็นเวลาสองปี ซังโด ซึ่งไม่มีทางเลือกมากนักจึงต้องให้ความร่วมมือ แต่ซังโดที่แสนเจ้าเล่ห์นั้นมองเห็นโอกาสที่จะใช้ โดห์ เพื่อกำจัดคู่แข่งเพื่อที่ตัวเขาจะได้ขึ้นไปแทนที่ ทั้งสองคนได้กระโจนเข้าสู่เกมส์อันตราย หากแต่ทั้งคู่มิได้ตระหนักถึงความทะเยอทะยานของอัยการของรัฐที่ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องอีกทั้งยังได้ส่งสายของตัวเขาเองเข้ามาอีกด้วย และเมื่อ จางชุล ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง เดิมพันที่สูงขึ้นและเลือดจึงหลั่งไหลไปทั่วท้องถนน
ที่มาของเรื่อง
ยาเสพย์ติดที่เป็นตัวเลือกในเรื่อง บลัดดี้ ไท คือ เมธแอมเฟตามีน หรือที่รู้จักในชื่อ คริสตัล เมธ ในขณะที่เกาหลีนั้นถูกมองว่าเป็นประเทศที่แทบจะไม่มีความเกี่ยวพันกับยาเสพย์ติดเลยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น แต่ยาเสพย์ติดกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่หลวงโดยเฉพาะในเขตเมืองปูซาน ในทศวรรษ 1950 และ 1960 อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพย์ติดในเกาหลีส่วนมากนั้นเกี่ยวข้องกับฝิ่นและเมตาโดน ในทศวรรษ 1970 คือกัญชา ในทศวรรษ 1980 การใช้ เมธแอมเฟตามีน หรือที่รู้จักกันในเกาหลีว่า “พิโลปอง” เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากนำไปสู่การเสพโดยการฉีด และอาชญากรรมเกี่ยวกับยาเสพย์ติดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจไอเอ็มเอฟในช่วงปลายทศวรรษ 1990
เมธแอมเฟตามีน นั้นกำเนิดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อปี 1919 โดยนักเคมีที่ชื่อ เอ.โองาตะ เมธ คือยาเสพย์ติดสังเคราะห์โดยลดการอีฟีดรีนและใช้ฟอสฟอรัสแดงและไอโอดีน อีฟีดรีน คือส่วนผสมที่มีผสมอยู่ทั่วไปในยาสามัญประจำบ้าน เมธ นั้นถูกใช้อย่างกว้างขวางในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองทั้งฝ่ายสัมพันธมิตร อักษะ และกองทัพของญี่ปุ่นในฐานะที่เป็นยากระตุ้น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์เองก็ได้รับการฉีด เมธ จากแพทย์ประจำตัวของเขา ชาวญี่ปุ่นยังใช้เมธเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของคนงานเหมืองถ่านหินชาวเกาหลีใต้ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ชาวเกาหลีและสังคมชาวเกาหลีในระหว่างที่ถูกญี่ปุ่นปกครองจนกระทั่งถึงการปลดปล่อยในปี 1948 ได้รู้จักกับยาเสพย์ติด หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองการที่กองทัพได้สะสมยาเสพย์ติดนี้ไว้เป็นจำนวนมากทำให้เกิดการติดยาในหมู่ประชากรเป็นจำนวนมากโดยผ่านมาทางเมืองท่าปูซาน
การผลิต เมธ ในเกาหลีเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดทศวรรษ 1960 แต่เริ่มเห็นผลในปี 1980 นำมาซึ่งการใช้อย่างแพร่หลายในทศวรรษ 1990 หลังจากนั้นวัตถุดิบก็ถูกลักลอบนำเข้ามาจากจีนและญี่ปุ่นซึ่งทำให้ผู้ใช้มากมายติดยา การใช้ เมธ นั้นแพร่กระจายไปทั่วเอเชีย และเกาหลีเหนือก็เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ส่งออกยาเสพย์ติดรายใหญ่
ตัวละครหลัก
ลี ซังโด
นักค้ายาข้างถนนผู้เชี่ยวชาญในเรื่อง คริสตัล เมธ ถึงแม้ว่าธุรกิจจะไปได้สวยแต่มันก็เป็นแค่ธุรกิจสำหรับเขา เขาไม่เคยใช้ยาไม่เหมือนกับลุงผู้เป็นอาชญากรอุกฉกรรจ์ผู้ซึ่งเป็นทั้งผู้ค้าและผู้เสพ และลุงของเขาคนนี้เองที่ทำให้แม่ของเขาต้องพบกับความตายสุดอนาถเมื่อห้องแลปที่ใช้ผลิตเมธที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันเกิดระเบิดขึ้นมา
เพื่อความอยู่รอด ซังโด รับเป็นสายให้กับ โดห์ หัวหน้าตำรวจปราบปรามยาเสพย์ติดของปูซานและเมื่อ โดห์ ต้องการเรียกใช้บริการเขาอีกครั้ง ซังโด จึงเห็นโอกาสที่จะได้เลื่อนฐานะจึงฉวยคว้าโอกาสนั้น ถึงแม้จะรู้ว่ามีอันตรายรออยู่เบื้องหน้าแต่เขาก็ไม่ใส่ใจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดห์
เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพย์ติดระดับสูงของปูซานผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ด้วยจุดมุ่งหมายเพียงหนึ่งเดียวคือ กวาดล้างยาเสพย์ติดให้หมดไปจากปูซาน แรงผลักดันของเขามาจากการที่คู่หูของเขาเสียชีวิตอย่างอนาถในการจับกุมราชายาเสพติดผู้ชั่วร้าย จางชุล ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาโดห์ก็รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบภรรยาหม้ายของคู่หู เขาจึงรับบทบาทเป็นสามีของเธอ รวมไปถึงบทบาทบนเตียงกับเธอด้วย
มันเป็นงานที่ไม่เคยมีวันหยุดสำหรับ โดห์ ซึ่งเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าอันตรายกำลังรออยู่เมื่อเขาได้ใช้ให้ ซังโด เป็นสายเพื่อจุดมุ่งหมายในการกวาดล้างขบวนการยาเสพย์ติดตั้งแต่ระดับสูงสุดจนถึงล่างสุดก่อนที่ โค อัยการรัฐของปูซานจะเข้ามาแทรกแซง และเมื่อข่าวลือที่ว่า จางชุล เริ่มแทรกซึมกลับมายังปูซาน โดห์ จึงจะไม่อาจรั้งรอที่จะทำการแก้แค้น
จางชุล
จางชุล เป็นหัวหน้าของวงการค้ายาเสพย์ติดของปูซานจนกระทั่งเขาถูกจับกุมโดยนักสืบ โดห์ และคู่หูของเขา เขาถูกจับในข้อหาค้ายาเสพย์ติดและฆาตกรรมคู่หูของ โดห์ แต่กลับจัดการขอทำการประกันตัวและหลบหนีประกันไปยังจีนได้ หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าคนอื่น ๆ จะเข้ามาควบคุมดูแลวงการค้ายาของปูซาน แต่สี่ปีหลังจากนั้น จางชุล ก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เขาแข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมา ความลับของอำนาจของเขานั้นโยงใยกับการหลบหนีในอดีตของเขาและจางชุลใช้มันสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ก่อนที่จะกลับไปวงการใต้ดินอีกครั้ง
อัยการรัฐ โค
โค เป็นอัยการของรัฐปูซานและเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานอย่างมาก เมื่อความสนใจของคนทั้งชาติมุ่งมาที่ปัญหายาเสพย์ติดในปูซาน โค จึงเห็นโอกาสและจึงเริ่มที่จะเข้ามาควบคุมแผนกยาเสพย์ติดและเจ้าหน้าที่ในแผนก เขานั้นจงเกลียดจงชังคนแบบเจ้าหน้าที่ โดห์ มากซึ่งเขามองว่าเจ้าหน้าที่ โดห์ นั้นเป็นทั้งตำรวจเลวและเป็นคนขี้แพ้ โคยังมีสายส่วนตัวของเขาและไม่เคยยอมหยุดใช้สายของเขาจนกว่าที่ความทะเยอทะยานของเขาจะเป็นจริง
ลี แทคโจ ลุงของ ซังโด
ลี แทคโจ เป็นอาชญากรอุกฉกรรจ์ซึ่งขณะนี้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำอันเนื่องมาจากเหตุผลทางด้านการแพทย์ เขาเป็นสาเหตุของการตายของแม่ซังโด เมื่อห้องแลปที่ใช้ผลิตเมธและเป็นบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ร่วมกันเกิดระเบิดจนลุกเป็นไฟ อดีตผู้เสพยาผู้ซึ่งขณะนี้ใช้ชีวิตอย่างขาวสะอาด ลุงผู้ซึ่งมีความลับที่จะบีบให้ ซังโด ต้องให้อภัยหรือลืมเลือนกับการกระทำของเขา
คิม จียัง
คิม จียัง เจ้าของห้องเสื้อไฮโซผู้น่ารัก เธอยังเป็นผู้หญิงของหัวหน้าที่ ซังโด รับยามาขายและส่งยาให้อีกด้วย เธอรักคนรักของเธอแต่ชีวิตของเธอกลับต้องผันผวนกลับกลายเป็นนรกแห่งกามารมณ์และการติดเมธหลังจากที่คนรักของเธอถูกฆ่าโดยนักสืบโดห์โดยความผิดพลาดที่ซังโดเป็นคนก่อขึ้น ซังโด พบว่าเธอถูกส่งต่อจากผู้ค้ายารายหนึ่งไปสู่อีกรายหนึ่งและรู้สึกผิดต่อการเป็นสาเหตุการตายของคนรักของเธอจึงพยายามดึงเธอให้ออกห่างจากเมธและหยัดยืนขึ้นให้ได้
นักแสดงนำ
ริว ซวงบุมในบทของลี ซังโด
ผลงานล่าสุดได้รับบทนำในเรื่อง ครายอิ้ง ฟิสต์ (ควินไซน์ ปี 2005) ริว ซวงบุม คือผู้นำในบรรดานักแสดงรุ่นใหม่ของเกาหลี การแสดงของเขานั้นเปล่งประกายด้วยความมีเอกลักษณ์และเทคนิคชั้นสูง ในบท ซังโด ริวได้รับโอกาสแสดงเป็นตัวละครชาวปูซานซึ่งสำเนียงพูดที่เขาแสดงออกมานั้นทำให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่แสดงบทบาทได้อย่างกว้างขวาง
ผลงานภาพยนตร์จนถึงปัจจุบัน
ครายอิ้ง ฟิสต์ (2005)
เดอะ บีสต์ แอนด์ เดอะ บิวตี้ (2005)
อาราฮาน (2004)
โน บลัด โน เทียร์ (2002)
ไวกิกิ บราเธอร์ส (2001)
ดาย แบด (2000)
หวาง จุงมิน ในบทของนักสืบ โดห์
หวาง จุงมิน ปรากฎตัวในฐานะที่เป็นหนึ่งในนักแสดงชั้นนำของเกาหลีหลังจากที่เขารับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง เอะ กู๊ด ลอวเยอร์ส ไวฟ์ (เวนีส 2003) ในปี 2005 เพียงปีเดียว หวาง รับบทนำในภาพยนตร์ที่ติดอันดับต้น ๆ ของอันดับภาพยนตร์ทำเงินของเกาหลีถึงสามเรื่องคือ ยู อาร์ มาย ซันไชน์ และ ออล ฟอร์ เลิฟ ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านการแสดง ในบทรองโดยเป็นอันธพาลผู้ชั่วร้ายในเรื่อง เอะ บิทเทอร์ สวีท ไลฟ์ (คานส์ 2005) การถ่ายทอดบทเป็นนักสืบ โดห์ ของ หวาง ยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาในฐานะนักแสดงและยังอาจเป็นบทที่ท้าทายที่สุดตั้งแต่เคยรับมาของเขาก็ได้
ผลงานภาพยนตร์จนถึงปัจจุบัน
ยู อาร์ มาย ซันไชน์ (2005)
ออล ฟอร์ เลิฟ (2005)
เอะ บิทเทอร์ สวีท ไลฟ์ (2005)
เดอะ วูล์ฟ รีเทิร์นส์ (2004)
เอะ กู๊ด ลอวเยอร์ส ไวฟ์ (2003)
โรด มูฟวี่ (2002)
ไวกิกิ บราเธอร์ส (2001)
สาสน์จากผู้กำกับการแสดง
ในเดือนธันวาคมปี 1997 วิกฤตทางการเงินไอเอ็มเอฟไม่เพียงแต่ทำลายล้างธุรกิจจำนวนมากของเกาหลีแต่ยังทำลายแม้กระทั่งความรู้สึกถึงความมั่นคงและความสงบสุขของชาวเกาหลีทุกคนอีกด้วย ความเป็นจริงได้กวาดล้างเอาภาพลวงทางเศรษฐกิจและการเมืองไปหมดสิ้น ข่าวการฆ่าตัวตายเป็นหัวข้อที่เห็นเพิ่มขึ้นในหนังสือพิมพ์ ในช่วงเวลานี้ปรากฏการณ์อันแปลกประหลาดก็ได้เกิดขึ้นในเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลีซึ่งก็คือเมืองท่าปูซาน เมื่อผู้คนสูญเสียด้ายแห่งความหวังสุดท้ายและได้แต่สวดภาวนาเพื่อหลีกหนีจากความเป็นจริง ทำให้เกิดการติดยาเสพย์ติดและทำให้จำนวนของผู้ค้ายาเพิ่มขึ้นหลายร้อยราย ผมต้องการจะถ่ายทอดอาการบิดเบี้ยวของสังคมในครั้งนี้ในรูปแบบของฟิล์มนัวร์ ผมรู้สึกถึงความต้องการที่จะสร้างภาพยนตร์ในรูปแบบที่มีพลังเพื่อบรรยายให้เห็นถึงการคอร์รัปชั่นที่ไหลเวียนอยู่ทั่วประเทศและความขัดแย้งที่มีมาอย่างต่อเนื่องที่ทอดตัวอยู่ภายในสังคม
ผมพบแรงขับเคลื่อนในภาพยนตร์ยากูซ่าของ ฟุกุซากุ คินซี ในทศวรรษ 1960 ที่ถ่ายทำในแบบกึ่งสารคดีที่มีชีวิตชีวาและหยาบกร้านด้วยมุมกล้องอันสุดขั้วที่ขยายกรอบทั้งทางด้านกว้างและด้านสูงทั้งยังเพลงประกอบอันทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวละครของ ฟุกุซากุ ที่สุดโต่งและเพิกเฉยต่อขอบเขตทั้งหลายทั้งปวงนั้นเป็นแรงบันดาลใจ
เมื่อมาร์กเซลล์เป็นจุดจบของราชาค้ายาเสพย์ติดในเรื่อง เดอะ เฟรนช์ คอนเน็คชั่น เมืองท่าปูซานซึ่งตั้งอยู่ที่ปลายคาบสมุทรเกาหลีซึ่งอยู่ทางตอนใต้ก็คือสถานที่ที่เป็นศูนย์กลางของวงการค้ายาเสพย์ติดของเกาหลี เป็นศูนย์กลางอาชญากรรมและผลที่ตามมา
โซล, 14 เมษายน 2006
ชอย โฮ
ผู้กำกับการแสดง
ชอย โฮ
ชอย โฮ ศึกษาด้านภาพยนตร์ในมหาวิทยาลัยชุนกังและยังได้รับปริญญาทางด้านภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยปารีส 8 ผลงานภาพยนตร์เปิดตัวของเขาเรื่อง บาย จูน (1998) นั้นได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางว่าสามารถจับเอาช่วงเวลาร่วมสมัยของเยาวชนเกาหลีไว้ได้ ในภาพยนตร์เรื่อง ฮู อาร์ ยู? ชอยแสดงให้เห็นถึงการถ่ายทอดเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสมัยใหม่ในกรุงโซลได้อย่างยอดเยี่ยม บลัดดี้ ไท เป็นผลงานภาพยนตร์ลำดับที่สามของเขาและเห็นได้ชัดว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีความทะเยอทะยานที่สุดของเขา
ผลงานการกำกับภาพยนตร์
บาย จูน (1998) กำกับและบทภาพยนตร์
ฮู อาร์ ยู (2002) กำกับและบทภาพยนตร์ร่วม
บลัดดี้ ไท (2006) กำกับและบทภาพยนตร์ร่วม
บริษัทผู้สร้าง
เอ็ม เค พิคเจอร์ส
บลัดดี้ ไท เป็นผลงานสร้างของ อ็ม เค พิคเจอร์ส บริษัทผู้นำแห่งวงการภาพยนตร์เกาหลี ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา อาทิ เดอะ เพรสซิเดนท์ส ลาสท์ แบง (ควินไซน์ 2005) และ เอะ กู๊ด ลอวเยอร์ส ไวฟ์ (เวนีส 2003) เช่นเดียวกับผลงานภาพยนตร์ทำเงิน เทกึกกี (2004), เจเอสเอ (เบอร์ลิน 2001) และชิริ (1999) เอ็ม เค พิคเจอร์ส เกิดขึ้นจากการรวมกันของสองบริษัทภาพยนตร์คือ เมียงฟิล์มและคังเจคิวในปี 2004
ผลงานภาพยนตร์โดยเมียง
1996 คอร์เส็ท กำกับโดย เจียง บุงกัค
1997 เดอะ คอนแทคท์ กำกับโดย ชาง ยุนฮุน
1998 เดอะ ไควเอ็ท แฟมิลี่ กำกับโดย คิม จีวุน
1998 อีฟ เดอะ ซัน ไรเซส อิน เดอะ เวสต์ กำกับโดย ลี อุน
1999 แฮ็ปปี้ เอ็นด์ กำกับโดย จุง จีวู
2000 ดิ ไอส์ล กำกับโดย คิม คีดุ๊ก
2000 จอยท์ เซคเคียวริตี้ แอเรีย กำกับโดย ปาร์ค ชานวุค
2001 ไวกิกิ บราเธอร์ส กำกับโดย อิม ซุนแร
2002 ลาบรี กำกับโดย ลี มียอน
2002 ฮู อาร์ ยู? กำกับโดย ชอย โฮ
2002 วายเอ็มซีเอ เบสบอล ทีม กำกับโดย คิม ฮุนซุค
2003 ดีไซเออร์ กำกับโดย คิม อุงซู
2003 เอะ กู๊ด ลอวเยอร์ส ไวฟ์ กำกับโดย อิม ซังซู
ผลงานภาพยนตร์โดยคังเจคิว
1999 ชิริ กำกับโดย คัง เจคิว
2000 เดอะ เลเจนด์ ออฟ กิงโค กำกับโดย ปาร์ค จีฮุน
2001 คิส มี มัช กำกับโดย คิม ยุนซู
2002 โอเวอร์ เดอะ เรนโบว์ กำกับโดย อาห์น จินวู
2002 เวท ดรีมส์ กำกับโดย จุง โชชิน
2003 บูล กำกับโดย ลี จุงกุค
2004 เทกึกกี กำกับโดย คัง เจคิว
ผลงานภาพยนตร์โดยเอ็ม เค พิคเจอร์ส
2005 เวท ดรีมส์ 2 กำกับโดย จุง โชชิน
2005 ลิตเติ้ล บราเธอร์ กำกับโดย ลิม แทฮุง
2005 เดอะ เพรสซิเดนท์ส ลาสท์ แบง กำกับโดย อิม ซังซู
2006 เวน โรแมนซ์ มีทส์ เดสทินี่ กำกับโดย คิม ฮุนซุค
2006 บีวิชชิ่ง แอทแทรคชั่น กำกับโดย ลี ฮา
2006 บลัดดี้ ไท กำกับโดย ชอย โฮ
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Prasert Songsiriworakul (Meng)
Promotion & Web Site Public Relations.
J-BICS FILMS CO.,LTD
Tel (+668) 2-640-5522
Fax (+668) 2-641-6161,(+668) 2-641-6688
Mobile (+668) 9-129-0569
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net