บริษัทจดทะเบียนสนใจปฏิบัติตามหลักการบรรษัทภิบาล

ข่าวทั่วไป Monday October 2, 2006 12:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--ตลาดหลักทรัพย์
บจ. สนใจสอบถามจำนวนบริษัทที่เหมาะสมที่กรรมการควรดำรงตำแหน่งในบริษัท คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ในคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ เผยว่า ศูนย์พัฒนาการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ข้อแนะนำว่า กรรมการบริษัทจดทะเบียนควรดำรงตำแน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนไม่เกิน 5 บริษัท และหากจำเป็นสามารถชี้แจงเหตุผล และผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการดังกล่าวในแบบแสดงข้อมูลประจำปี และรายงานประจำปีของบริษัท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบ
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะกรรมการคณะอนุกรรมการสร้างความรู้ความเข้าใจและประชาสัมพันธ์การดำเนินงานเกี่ยวกับ Corporate Governance ในประเทศไทย ในคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรรมการของบริษัทนับเป็นบุคคลที่มีบทบาทอย่างมากในการส่งเสริมบรรษัทภิบาลที่ดี เพราะเป็นบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของบริษัท ดังนั้น กรรมการบริษัทจึงควรให้เวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้บริษัทได้รับประโยชน์สูงสุด และการเป็นกรรมการในบริษัทหลายแห่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำหน้าที่ได้
“ในระยะที่ผ่านมา มีบริษัทจดทะเบียนสอบถามถึงจำนวนบริษัทที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งกรรมการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนให้ความสนใจ และเต็มใจที่จะปฏิบัติตามหลักการที่ดีดังกล่าว และมีความพร้อมที่จะรายงานผลการปฏิบัติในแบบแสดงข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) และรายงานประจำปี 2550 เป็นต้นไป” นางสาวโสภาวดีกล่าว
นางสาวโสภาวดีกล่าวว่า ปัจจุบันมีข้อแนะนำเกี่ยวกับความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ที่ออกโดยศูนย์พัฒนาการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่ากรรมการบริษัทจดทะเบียนควรดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนไม่เกิน 5 บริษัท หากมีกรรมการรายใดของบริษัทจำเป็นต้องดำรงตำแหน่งมากกว่านั้น คณะกรรมการของบริษัทควรชี้แจงเหตุผล และผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการดังกล่าวในรายงานการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแล กิจการที่ดีในแบบแสดงข้อมูลประจำปี และรายงานประจำปีของบริษัทเพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบ
นางสาวโสภาวดีกล่าวด้วยว่า คณะกรรมการบริษัทควรเป็นผู้พิจารณากำหนดจำนวนบริษัทที่กรรมการเข้าดำรงตำแหน่งได้ เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนแต่ละแห่งมีลักษณะสภาพธุรกิจ และขนาดบริษัทแตกต่างกัน โดยหากคณะกรรมการเห็นว่า กรรมการของบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทมากกว่า 5 บริษัทตามข้อแนะนำดังกล่าว และการเป็นกรรมการในบริษัทอื่นหลายแห่งไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ก็สามารถให้เหตุผลกับผู้ถือหุ้นและผู้เกี่ยวข้องได้ ในทางกลับกัน ถ้าคณะกรรมการเห็นว่ากรรมการของบริษัทมีภาระหน้าที่มากต้องใช้เวลาในการปฏิบัติงาน ก็อาจกำหนดจำนวนบริษัทของการดำรงตำแหน่งกรรมการให้สอดคล้องกับภาระหน้าที่ได้เช่นกัน
-ข้อแนะนำดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ทำให้บริษัทจดทะเบียนใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมบริษัทให้มีการกำกับ ดูแลกิจการที่ดีได้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนได้ศึกษาข้อพึงปฏิบัติในต่างประเทศพบว่าการกำหนดจำนวนบริษัทที่กรรมการจะดำรงตำแหน่งตามภาระหน้าที่ แบ่งเป็น 3 กรณี คือ 1) กรณี
กรรมการที่เป็นผู้บริหาร (Executive Director - ED) หรือ Full Time Director ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 4 บริษัท 2) กรณีกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร (Non-Executive Director - NED) หรือกรรมการมืออาชีพ (Professional Director) ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 6 บริษัท และ 3) กรณีประธานกรรมการ ดำรงตำแหน่งเพียง 1 บริษัท
“จากการศึกษาข้อมูลของประเทศไทยพบว่า ข้อแนะนำดังกล่าวไม่มีผลกระทบกับบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ โดยจากการวิเคราะห์สถานะการดำรงตำแหน่งของกรรมการบริษัทจดทะเบียนไทยในปัจจุบันพบว่าร้อยละ 99.5 ของกรรมการทั้งระบบดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนตั้งแต่ 1-5 บริษัท มีกรรมการเพียง 23 ท่าน หรือเพียงร้อยละ 0.5 เท่านั้น ที่ดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนมากกว่า 5 บริษัท” นางสาวโสภาวดีกล่าว
นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนลงมติแต่งตั้งกรรมการ เมื่อคณะกรรมการเสนอชื่อบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการ ก็ควรมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอเรื่องการดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทอื่นของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อแต่ละท่านดังกล่าวด้วย
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร: ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ