กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
กทม. เผยมาตรการเชิงรุกและตั้งรับป้องกันและเฝ้าระวังการระบาดไข้หวัด 2009 เปิดช่องทางพิเศษในโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุขในสังกัดให้บริการตรวจรักษา 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น และเพิ่มเวลา 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มเปิดเขตพื้นที่ให้บริการต่อเนื่อง พร้อมจัดทีมเทศกิจ อปพร. ลงพื้นที่สำรวจผู้ป่วย ติดตาม และเฝ้าระวังอาการ หากพบมีผู้ป่วยนำส่งโรงพยาบาลทันที ขณะที่สายด่วนกทม.โทร 1555 ให้คำปรึกษา มียอดผู้สอบถามต่อเนื่อง เพิ่มความสะดวกให้ประชาชน ลดความแออัดโรงพยาบาล
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงมาตรการเร่งด่วนของกทม. ในการป้องกันและดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า โรงพยาบาลของ กทม.ทั้ง 9 แห่งได้เปิดช่องทางบริการเฉพาะไข้หวัดแบบ One Stop Service ให้การดูแลผู้ป่วยไข้หวัดตามฤดูกาลและไข้หวัด 2009 เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปปะปนกับผู้ป่วยอื่นที่มีโรคประจำตัว อาทิ โรคภูมิแพ้ หรือโรคเลือด เนื่องจากภูมิต้านทานอ่อนแออาจติดเชื้อง่ายและเกิดอาการแทรกซ้อน
นอกจากนี้ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง รวมถึงศูนย์สาธารณสุขชุมชน 72 แห่งของกทม. ได้เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ในการดูแลและให้คำปรึกษาผู้ป่วยไข้หวัดเช่นเดียวกับโรงพยาบาลของกทม. ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ด้วย ส่วนเวลา 16.00—22.00 น. จะเปิดให้บริการ ณ สำนักงานเขตพื้นที่ โดยระดมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและพยาบาลชุมชน ให้คำปรึกษา พร้อมทั้งจัดทีมเทศกิจ และอปพร. ลงพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามอาการของผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัด 2009 โดยเฉพาะในชุมชนแออัด เนื่องจากมีผู้พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากตรวจพบมีผู้ป่วยในพื้นที่จะจัดรถเทศกิจบริการรับส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อเข้ารับการรักษาเร็วที่สุด
เปิดสายด่วน 1555 ตอบคำถามอาการไข้หวัด
ขณะเดียวกันกทม. ได้เปิดสายด่วน 1555 โดยจัดทีมพยาบาลและนักวิชาการแพทย์ประจำคู่สายเพื่อตอบคำถามประชาชน ที่โทรศัพท์เข้ามาสอบถามอาการและวิธีการดูแลรักษาตนเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุใหม่ 2009 ลดความวิตกกังวลของประชาชนเกี่ยวกับโรคดังกล่าว และช่วยลดจำนวนความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 52 มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาขอรับคำปรึกษาจำนวน 498 ราย ซึ่งกทม. จะขยายเวลาเปิดสายด่วนให้บริการคำปรึกษาอาการของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ต่อไปอีก 1 สัปดาห์
วอนผู้เป็นไข้หวัดทุกชนิดใส่หน้ากากอนามัยและไม่ไปในที่ชุมนุมชน
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่า ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และไข้หวัดใหญ่ 2009 มีความรุนแรงใกล้เคียงกัน แต่ไข้หวัดใหญ่ 2009 จะแพร่กระจายเชื้อรวดเร็วกว่า ซึ่งหากผู้ที่มีอาการแพ้ หรือมีโรคประจำตัว อาจเป็นกลุ่มเสี่ยงทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องเฝ้าระวังและได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือประชาชนที่มีอาการเป็นไข้หวัดทุกชนิด ขอให้ดูแลตนเองโดยใส่หน้ากากอนามัย และไม่เข้าไปในที่มีคนจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค หากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงและพื้นที่ภายในโรงพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วย อาจจำเป็นต้องตั้งเต็นท์ให้บริการเฉพาะเพื่อให้การดูแลรักษาและติดตามอาการอย่างทั่วถึง ไม่ปะปนกับผู้อื่น