กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--ธนาคารอิสลามแห่งประเทศ
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศ หรือ ไอ แบงก์ เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้น ในเดือน พฤศจิกายน นี้ เพื่อขอเพิ่มทุนอีก 6,000 ล้านบาท เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล 6 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ ไอแบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารจะจัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุนอีก 6,000 บาท ซึ่งแผนการเพิ่มทุนดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะจัดสรรเงินงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 (เอสพี 2) ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินเพิ่มทุนเข้ามาประมาณเดือน พฤศจิกายน นี้ ทั้งนี้ เงินเพิ่มทุนใหม่ธนาคารจะนำมาขยายสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนที่จะปล่อยสินเชื่อกว่า 20,000 ล้านบาท ภายใต้นโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งมีโครงการรวม 6 โครงการ ดังนี้
สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ทดแทนซอร์ฟ โลน สินเชื่อเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการอาชีพให้บริการรถสาธารณะสินเชื่อเพื่อสนับสนุนธุรกิจ เอส เอ็ม อี และธุรกิจฮาลาลสินเชื่อรากหญ้า ไอ-แบงก์ คอมมูนิตี้ แบงก์ และสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ หนี้นอกระบบสินเชื่อโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาเพื่อยกระดับการศึกษาสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบกิจการฮัจย์“เบื้องต้นแผนการเพิ่มทุนของธนาคารได้มีการหารือ กับ นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลธนาคาร และนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งรับทราบแล้ว” นายธีรศักดิ์ กล่าว
นายธีรศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ธนาคารปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 27,000 ล้านบาท จะมีเงินคงเหลือที่จะปล่อยสินเชื่อได้อีกเพียง 4,000 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็น พี แอล ของธนาคาร จากเดือนสิงหาคม 2551 มียอด เอ็น พี แอล เท่ากับ 22.31% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2552 มียอด เอ็น พี แอล ลดลงเหลือ เท่ากับ 12.33 % ดังนั้น ธนาคารจึงต้องมีการเพิ่มทุนอีก 6,000 ล้านบาท เพื่อขยายสินเชื่อใหม่ได้ประมาณ 60,000 ล้านบาท