IOD ร่วม ก.ล.ต. และ ตลท. เดินหน้ายกระดับบรรษัทภิบาล บจ.ไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 10, 2009 16:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--ต.ล.ท. เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2552 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าวเกี่ยวกับการปรับแนวทางการดำเนินโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2552 หรือที่รู้จักกันในนามของโครงการ Corporate Governance Report of Thai Listed Companies (CGR) โดยมุ่งยกระดับโครงการเพื่อการพัฒนาระดับ CG ของบริษัทจดทะเบียนไทย นายชาญชัย จารุวัสตร์ กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย เปิดเผยถึงแนวทางในการดำเนินโครงการ CGR ในปีนี้ว่า เพื่อให้โครงการนี้มีบทบาทมากขึ้นในการยกระดับการกำกับดูแลกิจการในเชิงคุณภาพ และสามารถพัฒนาปรับปรุงโครงการเพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้างมากขึ้นในระยะยาว จึงได้มีการปรับแนวทางการดำเนินโครงการให้แตกต่างจากทุกปี ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการอย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้งหนึ่งในปี 2553 เนื่องจากการสำรวจการกำกับดูแลกิจการนี้ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปี 2551 รวม 6 ครั้งแล้ว ซึ่งพบว่า นอกเหนือจากคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีแล้ว ปัจจุบัน บริษัทจดทะเบียนไทยจำนวนหนึ่งมีแนวปฏิบัติด้านการกำกับดูแลกิจการเทียบเท่ามาตรฐานสากลในหลายเรื่อง จึงเห็นสมควรที่จะทำการศึกษาถึงแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices) ของบริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) ในปี 2551 เพื่อจัดทำเป็นแนวปฏิบัติที่ดีเผยแพร่ให้บริษัทจดทะเบียนทั่วไปได้นำไปใช้ต่อไป “เพื่อให้หลักเกณฑ์การสำรวจของโครงการสามารถใช้ประเมินแนวปฏิบัติได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการโครงการ (Steering Committee) จะทำการศึกษาและทบทวนหลักเกณฑ์การสำรวจ เพื่อให้ครอบคลุมประเด็นสำคัญครบถ้วนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในหมวดการคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย (Role of Stakeholders) โดยจะนำหลักการความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility-CSR) มาพิจารณาร่วมด้วย ซึ่งจะมีการจัดสัมมนาเผยแพร่หลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ให้บริษัทจดทะเบียนทราบก่อนที่จะเริ่มทำการสำรวจในปี 2553 ต่อไป” นายชาญชัยกล่าว นอกจากนี้ นางพรกนก วิภูษณวรรณ รองกรรมการผู้อำนวยการ — วิจัยและพัฒนา IOD กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีนี้ โครงการ CGR จึงจะเป็นการสำรวจข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เช่น บริษัทที่นักวิเคราะห์ไม่น้อยกว่า 5 รายจัดทำบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ของบริษัทในช่วง 3 เดือน (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2552) บริษัทจดทะเบียนใหม่ในปี 2550 ซึ่งเป็นบริษัทที่ยังไม่ได้รับการสำรวจในปี 2551 และบริษัทจดทะเบียนที่สนใจและมีโอกาสปรับปรุงการกำกับดูแลกิจการให้ดีขึ้นได้ในระยะสั้น รวมถึงบริษัทจดทะเบียนที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการประเมินผลอีกจำนวนหนึ่ง นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โครงการ CGR เป็นโครงการที่ได้รับการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุนมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทจดทะเบียนจำนวนหนึ่งได้ถือเอาผลการสำรวจเป็นเป้าหมายในการพัฒนาด้านการกำกับดูแลกิจการของบริษัท ในขณะที่ผู้ลงทุนก็ให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น ดังนั้น หากมีการปรับหลักเกณฑ์ให้มีความเหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการด้านการกำกับดูแลกิจการอยู่เสมอ ก็เท่ากับส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนพัฒนาการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการตามไปด้วย ในขณะเดียวกัน ก็จะทำให้ผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น นักวิเคราะห์ ผู้ลงทุน รวมถึงสถาบันการเงิน และอาจรวมถึงคู่ค้าของบริษัทเหล่านี้มีเครื่องมือประกอบการพิจารณาลงทุนหรือทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับบริษัทเพิ่มเติมด้วย ด้านนายชัยยุทธ์ ชำนาญเลิศกิจ รองกรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ศูนย์พัฒนาธุรกิจตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้การสนับสนุนโครงการ CGR ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยมาโดยตลอด เนื่องจากเล็งเห็นว่าโครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้มีการบริหารงานอย่างโปร่งใส ระมัดระวังรอบคอบ คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย ตลอดจนเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนแก่นักลงทุน อันจะส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียน และยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการของบริษัทในตลาดทุนไทยให้มีความทัดเทียมกับประเทศชั้นนำในภูมิภาคเดียวกัน “สำหรับแนวทางสนับสนุนโครงการ CGR ในอนาคต ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะร่วม กับ ก.ล.ต. ในการผลักดันให้มีการใช้ผลประเมิน CGR เป็นปัจจัยประกอบการพิจารณาลงทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน” นายชัยยุทธ์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ