กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
- ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำจะยังคงผันผวนสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังค่าเงินยูโรและราคาน้ำมันดิบเริ่ม Rebound กลับมาได้บ้างแล้ว อย่างไรก็ตามการที่ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดมาก + ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังเปราะบางมาก + ปัญหาการขาดสภาพคล่องในยุโรปตะวันออก ยังคงกดดันไม่ให้เงินยูโรแข็งค่าได้มากนัก (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
- กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Daily
30 Min
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD 30 เคลื่อนตัวในแดนบวกแสดงถึงตลาด ขาขึ้น, MACDF เคลื่อนตัวในแดนบวกแสดงถึงตลาด ขาขึ้นเช่นกัน, Fast Stochastic เคลื่อนตัวอยู่เหนือระดับ Threshold ทำให้ดูว่าราคาราคามีโอกาสกลับตัวลงเล็กน้อยในช่วงต้นของวัน, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 65.623 ถือเป็นระดับ Overbought ทำให้ดูว่าราคาราคามีโอกาสกลับตัวลงเล็กน้อยในช่วงต้นของวัน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็นบวกเล็กน้อย แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $908-$916 ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿34.02-฿34.12
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 37.653 ถือเป็นระดับ oversold อยู่เล็กน้อยและทำให้ดูราคาเป็นบวก, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบ แสดงถึงตลาดขาลง, MACDF อยู่ในแดนลบ แสดงถึงตลาดขาลง, Fast Stochastic เคลื่อนตัวขึ้นทำให้ดูราคามีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเป็นบวก, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นตลาด Sideways-Down โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านราคาระยะกลางต่อไปอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $900 และ $880
ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 14,800 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 14,780 หรือที่ $913.20) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 20 บาท ขณะที่ราคาของ GFQ09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 14,980 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 200 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFQ09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 200-20 = 180 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท จึงยังคงคุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
- ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง +2 สต. มาที่ 34.08 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34.06 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า ตามทิศทางสกุลเงินอื่นๆและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ถูกขายออกมา เพื่อกลับไปซื้อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้เงินบาทยังอ่อนค่าลงอีก +1 สต. มาอยู่ที่ 34.09 บาทต่อดอลลาร์อีกครั้ง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 34.02 บาทและ 33.98 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.12 บาทและ 34.18 บาท
- ภาวะเศรษฐกิจจีน — ธนาคารกลางเปิดเผยผ่านเว็บไซต์เมื่อวันพุธ (8 ก.ค.) ว่า จากการคำนวณเบื้องต้น ตัวเลขการปล่อยสินเชื่อก้อนใหม่ของธนาคารในเดือนมิถุนายนพุ่งแตะ 1.53 ล้านล้านหยวน เพิ่มจากเดือนพฤษภาคมเท่าตัว ส่งผลให้ยอดรวม 6 เดือนแรกแตะ 7.4 ล้านล้านหยวน พุ่งทะลุเป้าสินเชื่อปี 2552 ที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 5 ล้านล้านหยวนแล้ว หลังรัฐบาลได้บรรเทากฎระเบียบเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยลดตัวเลขเงินทุนสำหรับโครงการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ และรถไฟฟ้าใต้ดินจาก 35% ของมูลค่าโครงการเหลือ 25% และสำหรับโครงการสร้างสนามบินและท่าเรือลดจาก 35% เหลือ 30%
ปัจจัยลบ
- ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — สหรัฐฯรายงานตัวเลขดุลการค้าขาดดุลราว -2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นตัวเลขการขาดดุลน้อยที่สุดในรอบหลายปี ขณะที่ตัวเลขความเชื่อมั่นที่บ่งชี้ถึงความต้องการจับจ่ายใช้สอยในอนาคตกลับลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.ค.มาอยู่ที่ระดับ 64.60 เท่านั้น จากที่ระดับ 70.80 ในเดือนก่อนหน้า ได้ตอกย้ำถึงภาวะซบเซาต่อเนื่องที่ผู้บริโภคสหรัฐต้องเผชิญ และจะทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวในระยะใกล้ล่าช้าออกไป
- ภาวะเศรษฐกิจยุโรป — ยุโรปตะวันออกอย่างน้อย 10 ประเทศ กำลังเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อรับการสนับสนุนด้านการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อหนุนเศรษฐกิจที่ย่ำแย่นั้น ได้ถ่วงยูโรลง
- ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น -$0.0079 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.3945 จากที่ปิด $1.4024 เมื่อวันก่อนหน้า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกำไรภาคเอกชนสหรัฐที่อ่อนแรง และความหวังที่ลดน้อยลงเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ได้หนุนดอลลาร์และเยน ให้พุ่งขึ้นเมื่อนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์และซื้อคืนดอลลาร์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ และเยนในฐานะแหล่งทุนที่ใช้ในการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงราว +$0.0020 มาที่ $1.3965
- ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ส.ค. ร่วงลง -$0.52 มาปิดที่ $59.89 ต่อบาร์เรล หลังตัวเลขเศรษฐกิจในวันศุกร์ไม่ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็อยู่ในระดับต่ำกว่าคาดมาก ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ส.ค. Rebound กลับขึ้นมา +$0.16 มาอยู่ที่ $60.04 ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
- กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 10 ก.ค.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,109.81 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35.68 ล้านออนซ์
- OPEC - สำนักข่าวกึ่งทางการของอิหร่าน รายงานว่านายโมฮัมหมัด อาลี คาติบี ผู้แทนอิหร่านประจำกลุ่มประทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) กล่าวว่า โอเปกจะตัดสินใจเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมันดิบ ในการประชุมเดือนก.ย. นี้ แต่ยังไม่มีกำหนดเกี่ยวกับการประชุมพิเศษแต่อย่างใด ขณะที่นายอับดุลลาห์ อัล-บาดรี เลขาธิการโอเปก แสดงความเห็นว่าราคาน้ำมัน ซึ่งขณะนี้อยู่เหนือ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลเพียงเล็กน้อยเป็น "ระดับที่ยอมรับได้" แต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับที่โอเปกต้องการ
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
Source: Bloomberg
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอในรายงานดังกล่าว นี้เป็นเพียงความคิดเห็นซึ่งนำเสนอโดย บริษัท YLG Bullion International จำกัด โดยบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ จากความเสียหายที่เกิดจากการใช้รายงานหรือข้อความจากรายงานฉบับนี้
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9)
แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com