กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--สคร.
สคร. เผยรายได้นำส่งเดือนมิถุนายน 2552 จำนวน 5,768.40 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการไว้ 1,969.69 ล้านบาทจากเป้า 3,798.71 ล้านบาท ส่วนในระยะเวลา 9 เดือน(ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 — มิถุนายน 2552) มีรายได้นำส่งสะสมเป็นจำนวนเงิน 62,292.24 ล้านบาท
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึง ผลการนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจประจำเดือนมิถุนายน 2552 ว่า รัฐวิสาหกิจสามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐเป็นจำนวน 5,768.40 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้จำนวน 3,798.71 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการไว้ 1,969.69 ล้านบาท โดยแยกตามรายสาขา ได้แก่ สาขาพลังงาน 3,881 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 2,500 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง 911ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 470 ล้านบาท ) สาขาพาณิชย์และบริการ 1,216.97 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจากการจำหน่ายสลาก 1,030.40 ล้านบาท จากเงินรางวัลที่ไม่มีผู้ที่มาขอรับและดอกเบี้ย 180.05 ล้านบาท และเงินรางวัลค้างจ่ายสลากบำรุงการกุศล 6.49 ล้านบาท สาขาขนส่ง 600 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากการท่าเรือแห่งประเทศไทย 600 ล้านบาท) สาขาการสื่อสาร 49.99 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จาก บริษัท ไปรษณีย์ จำกัด 49.99 ล้านบาท สาขาสถาบันการเงิน 8.80 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย 8.80 ล้านบาท) และสาขาเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ 0.30 ล้านบาท(เป็นเงินนำส่งรายได้จากองค์การสะพานปลา 0.30 ล้านบาท)
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 จำนวน 11.34 ล้านบาท โดยเป็นเงินนำส่งรายได้จาก บริษัท หินอ่อน จำกัด 10.74 ล้านบาท และโรงพยาบาลราชพฤกษ์ 0.60 ล้านบาท
นายอารีพงศ์ กล่าวต่อว่า รัฐวิสาหกิจที่สามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐ 5 อันดับแรกของเดือนมิถุนายน 2552 ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) 2,500 ล้านบาท สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 1,216.97 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) 911 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) 470 ล้านบาท และการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) 600 ล้านบาท
“ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงปัจจุบัน (ตุลาคม 2551 — มิถุนายน 2552) รัฐวิสาหกิจสามารถนำส่งเงินรายได้เข้าคลังทั้งสิ้น 62,292.24 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ในปี 2552 ซึ่งคาดว่าจะนำส่งเงินเข้าคลังได้ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้” นายอารีพงศ์กล่าว