กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--สำนักงาน ก.พ.
ก.พ.ค. กำหนด 6 ยุทธศาสตร์การทำงานเชิงรุกช่วงการดำรงตำแหน่ง 6 ปี เน้นให้เป็นที่รู้จักและยอมรับ พร้อมสร้างบรรทัดฐานระบบคุณธรรมในการบริหารงานภาครัฐให้เกิดขึ้นจริง โดยประกาศพร้อมเป็นที่พึ่งของข้าราชการ
นางจรวยพร ธรณินทร์ กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) และโฆษก ก.พ.ค. กล่าวว่า ขณะนี้ ก.พ.ค. ได้จัดทำยุทธศาสตร์ 6 ปี (พ.ศ. 2552-2557) เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานช่วงวาระการดำรงตำแหน่งของ ก.พ.ค. เสร็จสิ้นแล้ว โดยกำหนดเป้าหมายประกอบด้วย ช่วงที่ 1 (2552-2553) ให้ ก.พ.ค. เป็นที่รู้จักและมีผลงานเด่นชัดช่วงที่ 2 (2554-2555) สร้างผลงานเป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่น และช่วงที่ 3 (2556-2557) สร้างบรรทัดฐานของระบบคุณธรรมในการบริหารงานบุคคลภาครัฐ ทั้งนี้ โดยมีวิสัยทัศน์ คือ ก.พ.ค. จะเป็นกลไกหลักช่วยสร้างวัฒนธรรมการบริหารงานบุคคลที่มีคุณธรรม เป็นที่พึ่งของข้าราชการได้
“วิสัยทัศน์ของ ก.พ.ค. คือต้องเป็นที่พึ่งของข้าราชการได้ ซึ่ง ก.พ.ค. จะใช้ยุทธศาสตร์การทำงาน 6 ปีนี้ เป็นแนวทางในการบริหารจัดการงานให้เข้มแข็งตลอดวาระการทำงาน ของ ก.พ.ค. ชุดปัจจุบัน เนื่องจากเห็นว่า ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 นั้น ก.พ.ค. ถือเป็นปรอทวัดอุณหภูมิของระบบคุณธรรมในการบริหารงานภาครัฐ” โฆษก ก.พ.ค. กล่าว
สำหรับยุทธศาสตร์การทำงานช่วง 6 ปี ของ ก.พ.ค. ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์หลัก 6 ประการ ได้แก่ (1) พัฒนากฎระเบียบในกระบวนการทำงานของ ก.พ.ค. รวมทั้งการเยียวยาให้ความช่วยเหลือผู้อุทธรณ์และร้องทุกข์ (2) วางระบบการทำงานของ ก.พ.ค. ที่เป็นองค์กร กึ่งตุลาการให้มีมาตรฐานเทียบเท่าศาลปกครอง (3) พัฒนาขีดความสามารถและมาตรฐาน ของ ก.พ.ค. และองค์คณะวินิจฉัยให้เทียบเคียงได้มาตรฐานสากล (4) สร้างระบบการทำงานร่วมกันขององค์คณะและการทำงานร่วมกับองค์กรกลางบริหารงานบุคคลต่างๆ (รวม 13 องค์กรสำหรับข้าราชการทุกประเภท) (5) สร้างเครือข่าย การทำงานร่วมกับองค์กรอิสระเพื่อการตรวจสอบและวินิจฉัย รวมทั้งส่วนราชการเพื่อวางบรรทัดฐานของการพิทักษ์ระบบคุณธรรม และ (6) สร้างองค์ความรู้และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในกระบวนการบริหารงานบุคคลภาครัฐเพื่อให้ข้าราชการได้รับความคุ้มครองตามระบบคุณธรรม
โฆษก ก.พ.ค. กล่าวด้วยว่า หลังจาก ก.พ.ค. ได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2551 และเริ่มรับคำวินิจฉัยมาตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551 รวมระยะเวลา 8 เดือน เพื่อเป็นการปรับปรุงกระบวนการทำงานของ ก.พ.ค. ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะได้มีการประเมินผลการดำเนินงานของ ก.พ.ค. และบทบาทของสำนักงาน ก.พ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของ ก.พ.ค. โดยละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้จะมีการหารือถึงการปรับ กฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการอุทธรณ์และร้องทุกข์ ในส่วนของขั้นตอนที่ยังไม่ชัดเจนหรือมีอุปสรรค ทำให้กระบวนการวินิจฉัยล่าช้า ตลอดจนการเทียบเคียงกระบวนการบริหารจัดการระหว่าง ก.พ.ค. ไทยกับสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย เพื่อพัฒนาระบบพิทักษ์คุณธรรมของไทยให้มีความเป็นสากลมากขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1786 กลุ่มสื่อสารองค์กร สำนักงาน ก.พ.