ภาวะตลาดและแนวโน้มราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 14 ก.ค.52 โดย วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 14, 2009 10:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT) - ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำจะยังคงผันผวนสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังค่าเงินดอลลาร์และเงินเยนเริ่มอ่อนค่าลงบ้างแล้ว หลังคาดกันว่ากำไรของธนาคารสหรัฐจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีการที่ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังเปราะบางมาก + ความวิตกต่อการจ่ายคืนหนี้ในตลาดพันธบัตรของ CIT Group Inc. จะยังคงกดดันไม่ให้เงินยูโรแข็งค่าได้มากนัก (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป) - กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT) Daily 30 Min - ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะเป็นบวก, MACD 30 เคลื่อนตัวในแดนบวกแสดงถึงตลาด ขาขึ้น ทว่ากำลังตัดเส้น Trigger และทำให้ราคามีโอกาสกลับตัวเป็นขาลง, MACDF เคลื่อนตัวสู่แดนลบทำให้ดูราคาเป็นขาลง, Fast Stochastic เคลื่อนตัวลงทำให้ดูว่าราคาราคามีโอกาสกลับตัวลงเล็กน้อยในช่วงต้นของวัน, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 49.253 ถือเป็นระดับ Neutral ทำให้ดูว่าราคาราคาเป็นตลาด Sideways, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways-down แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $911-$926 ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿34.05-฿34.21 - ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 43.7ถือเป็นระดับ Neutral ทำให้ดูว่าราคาราคาเป็นตลาด Sideways, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบ แสดงถึงตลาดขาลง, MACDF อยู่ในแดนลบ แสดงถึงตลาดขาลง, Fast Stochastic เคลื่อนตัวขึ้นทำให้ดูราคามีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเป็นบวกในช่วงนี้, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นตลาด Sideways-Down โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านราคาระยะกลางต่อไปอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $900 และ $880 ตาราง 3: แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ Source: YLG’s estimations พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 14,800 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 14,930 หรือที่ $919.50) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 130 บาท ขณะที่ราคาของ GFQ09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 14,980 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 50 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFQ09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 50+130 = 180 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท จึงยังคงคุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้ ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน ปัจจัยบวก - ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — รมว.คลังสหรัฐเปิดเผยในวันจันทร์ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความเสี่ยง แต่กล่าวเสริมว่ามีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจสหรัฐและประเทศชั้นนำอื่นๆจะเริ่มขยายตัวในช่วง 2 ไตรมาสข้างหน้า - ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์อ่อนค่าลง +$0.0049 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.3979 จากที่ปิด $1.3930 เมื่อวันก่อนหน้า หลังนางเมเรดิธ วิทนีย์ นักวิเคราะห์ชั้นนำให้ความเห็นที่สดใสเกี่ยวกับผลประกอบการของภาคการเงิน ได้ช่วยหนุนความหวังที่ว่า ผลประกอบการรายไตรมาสของภาคธนาคารสหรัฐอาจแข็งแกร่งเกินคาด + นายฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ให้ความเห็นในเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัย ได้หนุนดอลลาร์และเยน ให้อ่อนลง นักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่ม เช่น หุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์และขายคืนดอลลาร์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ และเยนในฐานะแหล่งทุนที่ใช้ในการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่เช้านี้ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงอีก +$0.0022 มาที่ $1.4001 - ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง +9 สต. มาที่ 34.14 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34.05 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า โดยเป็นการอ่อนลงในภาคบ่ายค่อนข้างแรงจากช่วงเช้า หลังมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาอย่างหนาแน่น ซึ่งดีลเลอร์ระบุว่าเกิดจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นไทย จะยังปรับตัวลงต่อ ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้เข้าซื้อดอลลาร์ด้วย ขณะที่เช้านี้เงินบาททรงตัวที่ 34.14 บาทต่อดอลลาร์อีกครั้ง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 34.05 บาทและ 33.96 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.21 บาทและ 34.28 บาท ปัจจัยลบ - ภาวะเศรษฐกิจยุโรป — ยุโรปตะวันออกอย่างน้อย 10 ประเทศ กำลังเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อรับการสนับสนุนด้านการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อหนุนเศรษฐกิจที่ย่ำแย่นั้น ได้ถ่วงยูโรลง - ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ส.ค. ร่วงลงอีก -$0.20 มาปิดที่ $59.69 ต่อบาร์เรล หลังความกังวลเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงมีส่วนกดดันราคาน้ำมันต่อไป นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันที่ระดับสูงและจากอุปสงค์ที่ระดับต่ำในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นได้ช่วยสกัดกั้นไม่ให้ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างรุนแรง ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือนสิงหาคมRebound กลับขึ้นมา +$0.13 มาอยู่ที่ $59.82 ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม - กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 13 ก.ค.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,109.81 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35.68 ล้านออนซ์ - ผลประกอบการไตรมาส 2/09 - คาดว่า เจเนอรัล อิเล็กทริค ไอบีเอ็ม อินเทล คอร์ป จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และซิตี้กรุ๊ป จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ - ปริมาณสำรองน้ำมันดิบ — EIA จะเปิดเผยตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ค.ในวันพุธนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบอาจลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล ปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล ปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจทรงตัวที่ 86.8% - ธนาคารกลางสหรัฐและญี่ปุ่น - จับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ Source: Bloomberg หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอในรายงานดังกล่าว นี้เป็นเพียงความคิดเห็นซึ่งนำเสนอโดย บริษัท YLG Bullion International จำกัด โดยบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ จากความเสียหายที่เกิดจากการใช้รายงานหรือข้อความจากรายงานฉบับนี้ ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ