ทิสโก้ไม่หวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว โชว์ผลประกอบการ 6 เดือนกำไรเพิ่ม 2.8%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 15, 2009 17:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป ทิสโก้ปลื้มผลประกอบการไตรมาส 2/2552 ยังเป็นบวก ครึ่งปีแรกโชว์กำไรเพิ่ม 25.74 ล้านบาท หรือ 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนกระแสเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายย่อยต่อเนื่องทั้งสินเชื่อและเงินฝาก นายปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่าการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 (ม.ค.-มิ.ย.) กลุ่มทิสโก้ได้แสดงให้เห็นศักยภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในทุกด้าน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยปัจจัยลบ ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ หลังสบโอกาสขยายธุรกิจเช่าซื้ออีกครั้ง ด้วยการเข้าซื้อพอร์ตลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จากบริษัทจีเอ็มเอซี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ จีแมค (GMAC) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่ารวมประมาณ 1,750 ล้านบาท โดยธนาคารทิสโก้ได้เริ่มเข้าบริหารลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อของจีแมคอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2552 ที่ผ่านมา ด้านนางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการอำนวยการ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 (1 เม.ย. — 30 มิ.ย.) ปี 2552 กลุ่มทิสโก้มีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 502.15 ล้านบาท โดยมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 37.4% ตามการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อยซึ่งเพิ่มขึ้น 16.2% และการปรับตัวสูงขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อเป็น 4.9 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3.9% สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2552 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 956.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.74 ล้านบาท หรือ 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 930.37 ล้านบาท โดยมาจากจากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิที่เพิ่มขึ้น 28.5% ตามการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อยและการปรับตัวสูงขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อจาก 4.0% เป็น 4.6% นอกจากนี้ การขยายตัวของสินเชื่อยังส่งผลให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น 96.37 ล้านบาท หรือ 16.4% ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจจัดการกองทุนที่เพิ่มขึ้น 60.43 ล้านบาท หรือ 24.4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมผันแปรจากผลประกอบการของกองทุนที่ปรับตัวดีขึ้นตามสภาวะตลาด ทำให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยไม่รวมกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มสูงขึ้น 77.68 ล้านบาท หรือ 6.6% อย่างไรก็ตามรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 69.82 ล้านบาท หรือ 23.6% เนื่องจากภาวะตลาดทุนซบเซาเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ปริมาณสินเชื่อของกลุ่มทิสโก้ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2552 มีจำนวน 110,688 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,351.93 ล้านบาท หรือ 3.1 % จากไตรมาสก่อนหน้า ตามการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย ทั้งนี้สัดส่วนเงินให้สินเชื่อของทั้งกลุ่มแบ่งเป็นสินเชื่อรายย่อย 74.9 % สินเชื่อธุรกิจ 20.5% และสินเชื่ออื่นๆ 4.6% สินเชื่อรายย่อยประกอบด้วยสินเชื่อเช่าซื้อ มีจํานวน 81,379.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,512.68 ล้านบาท หรือ 3.2 % เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาสที่แล้ว โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่อนุมัติใหม่ มีจํานวน 10,457.26 ล้านบาท ลดลง 154.29 ล้านบาท หรือ 1.5 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เมื่อเทียบกับภาวะซบเซาของตลาดรถยนต์ที่มีการปรับตัวลดลงถึง 30.4% ส่งผลให้อัตราปริมาณการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ของกลุ่มทิสโก้ต่อปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ใหม่เฉลี่ย (Penetration Rate) ใน 5 เดือนแรกของปี 2552 อยู่ในระดับสูง ที่ 13.4% เมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยในช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 10.0% ส่วนสินเชื่อธุรกิจมีมูลค่า 22,706.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 434.62 ล้านบาท หรือ 2.0% จากสิ้นไตรมาสก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อในกลุ่มการผลิตและการพาณิชย์เป็นหลัก ด้านเงินฝากรวมมีจำนวน 103,153.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 512.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.5% จากสิ้นไตรมาสก่อน โดยสัดส่วนเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวันต่อยอดเงินฝากรวมเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ โดย เพิ่มขึ้นเป็น 23.6% ณ สิ้นไตรมาส 2 เทียบกับ 15.8 % ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว เป็นผลจากการที่ธนาคารออกผลิตภัณฑ์และใช้กลยุทธ์การตลาดเพื่อขยายสัดส่วนลูกค้าเงินฝากประเภทดังกล่าว นางอรนุช ยังได้กล่าวถึงการบริหารความเสี่ยงว่า กลุ่มทิสโก้สามารถรักษาอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL) ให้อยู่ในระดับเดิมที่ 2.9% ด้วยการบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพผ่านเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงที่ทันสมัย และมีการติดตามชําระหนี้ ปรับปรุ งโครงสร้างหนี้ และตัดจําหน่ายหนี้สูญที่รัดกุม โดยทิสโก้กำลังเตรียมปรับระบบการจัดการความเสี่ยงเข้าสู่เกณฑ์ IRB ภายใต้ Basel II ของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ สิ้นไตรมาส 2 เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ของธนาคารทิสโก้อยู่ที่ 14.37% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเป็นผลจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเงินให้สินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของเงินกองทุนชั้นที่ 2 จากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิระยะยาวจำนวน 2,000 ล้านบาท นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการอำนวยการ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์ของธนาคารทิสโก้ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้ารายย่อย ทั้งในด้านสินเชื่อและเงินฝากในช่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยในครึ่งหลังของปีคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีที่ 15-20% และธนาคารจะยังคงมุ่งเน้นที่จะขยายฐานเงินฝากลูกค้ารายกลางที่มีเงินฝาก 1-10 ล้านบาทอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการ และลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่าง นอกจากนี้ธนาคารยังมีแผนเปิดสาขาเพิ่มในกรุงเทพฯปริมณฑลอีก 4 แห่งในครึ่งปีหลังนี้ เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าของธนาคารที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาธนาคารได้เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 4 แห่ง บรรยายภาพ นายปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป, นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการอำนวยการ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป และนายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการอำนวยการ บมจ. ธนาคารทิสโก้ ร่วมแถลงผลประกอบการไตรมาส 2 และงวดครึ่งแรกของปี 2552 โดยกลุ่มทิสโก้ยังสามารถโชว์กำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยงวดครึ่งแรกของปีมีกำไรเพิ่ม 25.74 ล้านบาท หรือ 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนกระแสเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายย่อยต่อเนื่องทั้งสินเชื่อและเงินฝาก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สุภานี นรสุภา, เสาวนีย์ สันทบ ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โทร. 02 633 6904-6

แท็ก ทิสโก้   มังกร  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ