ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารทิสโก้

ข่าวทั่วไป Monday July 17, 2006 15:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (“National Ratings”) ระยะยาว ของธนาคารทิสโก้ (“TISCO”) ที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’
อันดับเครดิตของ TISCO สะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ ฐานะเงินกองทุน และความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งของธนาคาร รวมทั้งผลงานการจัดการที่ระมัดระวังของคณะผู้บริหารของธนาคาร แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ เมื่อพิจารณาถึงผลกำไรและคุณภาพสินทรัพย์ ที่โดยทั่วไปแล้ว น่าจะยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าสภาวะการดำเนินธุรกิจจะอ่อนแอลงในปี 2549 ถึงแม้ว่า TISCO ได้รับการสนับสนุนด้านเงินกองทุนจากกระทรวงการคลังในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2540 แต่เมื่อพิจารณาถึงขนาดของธนาคารที่เล็ก การสนับสนุนจากรัฐบาลนั้น แม้จะมีความเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ควรยึดถือการสนับสนุนนั้นว่าเป็นสิ่งที่แน่นอน
กลุ่ม TISCO อยู่ในกระบวนการที่จะจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งแยกออกมา ผลกระทบจากการแยกบริษัทลูกต่างๆในอดีตออกจากธนาคารต่อสถานะทางด้านความเสี่ยงของ TISCO น่าจะเป็นบวก แม้ว่าผลกำไรของธนาคารอาจจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย ภายหลังจากการแยกบริษัทลูกต่างๆออกจากธนาคาร ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากธุรกิจต่างๆของกลุ่มที่ไม่ใช่ธุรกิจธนาคารพาณิชย์และความผันผวนของรายได้จากบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นบริษัทลูกของธนาคารในอดีตน่าจะลดลง ทั้งนี้ TISCO จะยังคงดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจเงินทุน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มต่อไป และน่าจะได้รับประโยชน์จากความต้องการเงินกองทุนที่ลดลง หลังจากทำการแยกบริษัทลูกต่างๆออกจากธนาคารแล้ว
กำไรสุทธิของ TISCO ลดลงเป็น 1.8 พันล้านบาท ในปี 2548 อันเป็นผลมาจากกำไรจากการลงทุนที่ลดลง รายได้จากการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้จากการให้บริการทางด้านวาณิชธนกิจที่ลดลง และต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 4.4% ในปี 2548 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง ในไตรมาสแรกของปี 2549 ผลกำไรสุทธิของ TISCO เพิ่มขึ้นเป็น 551.2 ล้านบาท จาก 525.1 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2548 เนื่องจากกำไรจากการลงทุนที่สูงขึ้น อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิของไตรมาสแรกของปี 2549 ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เป็น 3.82% อันเป็นผลมาจากต้นทุนการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ฟิทช์ตั้งข้อสังเกตว่าค่าใช้จ่ายทางด้านภาษีก็จะส่งผลกระทบต่อผลกำไรสุทธิในปี 2549 ด้วย
สินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อรถยนต์เป็นสัดส่วนประมาณ 69.9% ของสินเชื่อทั้งหมดของ TISCO ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น TISCO ชะลอการปล่อยสินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อของธนาคาร ในขณะที่ทำการขยายฐานเงินฝากและนำสภาพคล่องส่วนเกินไปลงทุนในตลาดเงินระหว่างธนาคาร ซึ่งได้รับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ธนาคารยังได้กำลังทำการปรับอัตราส่วนของสินเชื่อรถยนต์มือสองที่มีผลตอบแทนที่สูงกว่า เป็น 30% ของสินเชื่อเช่าซื้อทั้งหมด จาก 10% ในเวลา 3 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มอัตรากำไร
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.5 พันล้านบาท หรือ 3.8% ของสินเชื่อทั้งหมด จากระดับ 2.6 พันล้านบาท หรือ 4.6% ณ สิ้นปี 2547 ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อยู่ในระดับที่ต่ำที่ 1% ทั้งนี้ เป็นผลจากสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้รถยนต์ใหม่และการปล่อยสินเชื่อให้ผู้กู้ที่ซื้อรถยนต์ยี่ห้อญี่ปุ่นที่ยังสูงอยู่ ระดับเงินสำรองหนี้สูญที่ 143.3% ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลังหักสำรองต่อส่วนของผู้ถือหุ้นซึ่งติดลบที่ระดับ 9.14% จัดว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมาก ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 เงินกองทุนขั้นที่ 1 ของ TISCO อยู่ที่ 11 พันล้านบาทหรือ 17.9% ของสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง แต่ถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับขนาดที่เล็กของธนาคาร อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ได้ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงอาจส่งผลให้อัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงลดลง
TISCO ก่อตั้งในปี 2512 โดยมีฐานะเป็นบริษัทเงินทุน และได้เปลี่ยนสถานะเป็นธนาคารพาณิชย์ในเดือนกรกฎาคม 2548 ธนาคารได้มีบทบาทที่แข็งแกร่งและชัดเจนในการดำเนินธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การจัดการกองทุน และวาณิชธนกิจ ในประเทศไทย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด ซึ่งถูกถือหุ้น 99.9% โดย TISCO ถือหุ้นจำนวน 10% ของบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่มีผู้ถือหุ้นใดนอกเหนือจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัดแห่งประเทศอังกฤษที่มีส่วนในการดำเนินงานและการจัดอันดับเครดิตที่จัดโดยบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, สรสิทธิ์ วรรณประเสริฐ, Vincent Milton, กรุงเทพฯ
+662 655 4755

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ