กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
นายปราโมทย์ วิทยาสุข อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะผู้อำนวยการโครงการกรุงเทพฯเมืองแฟชั่น ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการเจาะตลาดเป้าหมาย หรือ Bangkok Fashion City Roadshow ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2548 และมีเป้าหมายในการนำสินค้าอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย 3 อุตสาหกรรม คือ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและรองเท้า และอัญมณีและเครื่องประดับ ไปเปิดช่องทางการตลาดตลาดและสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าแฟชั่นไทย ในประเทศเป้าหมาย 8 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ฝรั่งเศส อิตาลี ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินกิจกรรมไปแล้ว 8 กิจกรรมใน 5 ประเทศ และในระหว่างวันที่ 17-21 กันยายนนี้ จะเป็นการเจาะตลาดเป้าหมายประเทศที่ 6 และ 7 คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่คาดหวังการเปิดตลาดใหม่ได้สูง
“การดำเนินกิจกรรมของโครงการเจาะตลาดเป้าหมาย ในสหรัฐอเมริกาและสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ซึ่งถือเป็นประเทศเป้าหมายที่ 6 และ 7 ของโครงการฯนั้น จะเป็นการนำสินค้าอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยจำนวน 24 แบรนด์ ไปร่วมงานแสดงสินค้าแฟชั่นนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกถึง 3 งาน โดย 2 งานอยู่ในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา คือ งานเทรดแฟร์ MODA MANHATTAN SPRING/SUMMER 2007 ซึ่งจัดขึ้น ณ Metropolitan Pavilion ในมหานครนิวยอร์ค ระหว่างวันที่ 17-19 กันยายนนี้ โดยมีสินค้าในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นไทยไปร่วมงาน 4 แบรนด์ คือ Andis Bouton Flip และ LaBelle ส่วนงานที่ 2 คือ งาน FASHION COTERIE SPRING/SUMMER 2007 จัดขึ้น ณ Pier 94 และ Javits Center ในมหานครนิวยอร์คเช่นเดียวกัน ระหว่างวันที่ 19-21 กันยายนนี้ ต่อเนื่องจาก MODA MANHATTAN โดยมีสินค้าในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นไทย 5 แบรนด์ ไปร่วมงานคือ Boudoir C@Nina Kloset Sretsis และTube Gallery
ส่วนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น จะเป็นการเข้าร่วมงาน PRESTIGE 2006 SPRING/SUMMER 2007 ซึ่งจัดขึ้นที่ Dubai International Exhibition Center เมืองดูไบ ระหว่างวันที่ 17-19 กันยายนศกนี้ และจะมีสินค้าในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่น และเครื่องหนังไทย ร่วมงาน 15 แบรนด์
ซึ่งทั้ง 3 งานนี้ ต้องถือว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้ประกอบการไทยได้เข้าร่วมงานในนามประเทศไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 งานในกรุงนิวยอร์กคือ MODA MANHATTAN และFASHION COTERIE นั้น ถือว่าเป็นเทรดแฟร์ที่พิถีพิถันในการคัดเลือกแบรนด์เข้าร่วมงานอย่างเข้มงวด ซึ่งการที่แบรนด์ไทย ผ่านการคัดสรรและได้ไปร่วมงานนั้น ถือว่าเป็นการการันตีได้ว่าแฟชั่นแบรนด์ไทยมีคุณภาพด้านการผลิต และได้มาตรฐานสากลด้านการออกแบบเทียบชั้นแบรนด์ชั้นนำของโลกได้แล้ว”
นายปราโมทย์ ยังกล่าวถึงความสำคัญของแฟชั่นเทรดแฟร์ทั้ง 3 งาน ที่โครงการเจาะตลาดเป้าหมาย ได้ไปร่วมงานครั้งนี้ว่า แต่ละแฟร์มีความสำคัญและโดดเด่นไม่แพ้กัน
“MODA MANHATTAN เป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าแฟชั่นนานาชาติ ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เน้นกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่นสตรีระดับกลางค่อนข้างสูง จนถึงระดับสูง กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สั่งซื้อทั้งจากในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และจากภาคพื้นยุโรป MODA MANHATTAN เป็นงานที่ผู้จัดพิถีพิถันในการเลือกแบรนด์มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง ในแต่ละปีจะมีแบรนด์จากทั่วโลกหลายร้อยแบรนด์สมัครเข้ามา ซึ่งปีนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการคัดเลือกแบรนด์ถึง 300 คน และเลือกสินค้า จนเหลือเพียง 175 แบรนด์ จาก 20 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย
งานแสดงสินค้าแฟชั่นนานาชาติอีกงานหนึ่งในกรุงนิวยอร์ก ที่จัดในเดือนกันยายน และเป็นงานที่ได้รับความสนใจจากผู้สั่งซื้อทั่วโลกอีกเช่นกัน คือ FASHION COTERIE เป็นงานที่เน้นกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่นสตรีระดับกลางค่อนข้างสูงถึงระดับสูง จัดขึ้นปีละ 2 ครั้งคือ ในเดือนกุมภาพันธ์และกันยายน ตามฤดูกาลการซื้อขายสินค้าแฟชั่นล่วงหน้า โดยในปีนี้มีบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมงาน 774 บริษัท จาก 14 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย FASHION COTERIE เป็นงานที่ผู้ประกอบการธุรกิจแฟชั่นฝรั่งเศสให้ความสำคัญมาก เพราะในแต่ละปีจะมีแบรนด์ดาวรุ่งของฝรั่งเศสกว่า 50 แบรนด์มาเปิดตลาด และประสบความสำเร็จอย่างดี จนได้รับการกล่าวขานในวงการแฟชั่นว่า FASHION COTERIE คือ งานที่สร้างดีไซเนอร์ระดับโลก ซึ่งการที่สินค้าแฟชั่นไทยได้เข้าร่วมแสดงในงานย่อมหมายถึงโอกาส และแนวโน้มอันสดใสในการเปิดตลาดในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป และ ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าแบรนด์ไทย ที่กล่าวได้ว่าถูกจัดอันดับเป็นกลุ่ม แบรนด์ดาวรุ่ง ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ดังของโลกได้เช่นเดียวกัน”
นายปราโมทย์ยังกล่าวถึงความสำคัญของงาน PRESTIGE 2006 SPRING/SUMMER 2007 ที่จัดขึ้น ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 17-19 กันยายนนี้ว่า เป็นงานแสดงสินค้าแฟชั่นนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของตะวันออกกลาง เพราะดูไบถือเป็นประตูการค้าที่เปิดสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งหากสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสามารถ “ปักธง” ในดูไบได้สำเร็จ ย่อมหมายถึงโอกาสในการไปเจาะตลาดในอีกกว่า 24 ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และในเอเชียกลาง โดยเป็นงานที่เน้นกลุ่มสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าชาย-หญิง เสื้อผ้าเด็ก เครื่องหนัง และเครื่องประดับ ระดับกลางค่อนข้างสูงจนถึงระดับสูง ในปีนี้ มีสินค้าแฟชั่นจาก 18 ประเทศรวมทั้งประเทศไทย กว่า 150 แบรนด์เข้าร่วมงาน
สำหรับสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยที่ได้เข้าร่วมงาน PRESTIGE 2006 SPRING/SUMMER 2007 มีทั้งสิ้น 15 แบรนด์ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ อุตสาหกรรมเสื้อผ้าจำนวน 13 แบรนด์ คือ Ferreni Luicina C@Nina Century 22 DIVA : BKK Isabel Princess Bra Bar Bua Ovo Augus Police X-Girl และ NJ Vanson Monza และอุตสาหกรรมเครื่องหนังแฟชั่น จำนวน 2 แบรนด์ คือ New Bangpoo Group และ Roccoco
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
กวีรัตน์ คุณาภัทร 08 1641 2014
วิรดา อนุเทียนชัย 08 1804 5493 หรือ โทร. 0 2731 0630 ต่อ 311 , 312