กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--อินวิส
เนื่องในโอกาสเปิดตัวเครื่องยูโรคอปเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด EC 725 ให้กับลูกค้าในแถบภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ยูโรคอปเตอร์ได้นำเครื่องยูโรคอปเตอร์ EC 725 ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูลคูการ์ (Cougar) มาบินแสดงพร้อมแนะนำรายละเอียดและคุณลักษณะของเครื่องรุ่นนี้ให้กับผู้ประกอบการต่างๆ ได้ชมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้มีทั้งรุ่นที่ใช้สำหรับภารกิจในการค้นหาและกู้ภัย (SAR) และการค้นหาและกู้ภัยทางทหาร (CSAR) ซึ่งยูโรคอปเตอร์เชื่อมั่นว่าเครื่องรุ่นนี้มีความเหมาะสมที่สุดในการให้ความช่วยเหลือทางด้านพลเรือน, การบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งช่วยในการพัฒนาความมั่นคงของประเทศอีกด้วย
EC 725 และรุ่นสำหรับพลเรือน EC 225 ถือเป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูลคูการ์ที่ได้รับการพิสูจน์และยอมรับจากทั่วโลก ณ ปัจจุบันเครื่องรุ่นนี้กว่า 800 ลำให้บริการอยู่ทั่วทุกมุมโลกสำหรับปฏิบัติภารกิจต่างๆ มากมาย โดยมีอัตราการเรียกใช้งานสูงถึง 98% เครื่อง EC 725/225 ได้รับอานิสงค์จากประสบการณ์และการใช้งานอันยาวนานของเครื่องรุ่นก่อน ๆ ในตระกูลคูการ์ ดังนั้นเครื่องรุ่นนี้จึงได้รับการออกแบบมาสำหรับปฏิบัติภารกิจทางด้านยุทธศาสตร์การขนส่ง, การค้นหาและกู้ภัย (SAR), การค้นหาและกู้ภัยทางทหาร (CSAR) รวมทั้งการขนส่งทางด้านการแพทย์และงานบริการขนส่งอื่นๆ ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนจัด นอกจากนี้เฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ยังสามารถติดตั้งระบบต่อต้านภาคพื้นราบและระบบต่อต้านเรือดำน้ำสำหรับการปฏิบัติภารกิจทางเรืออีกด้วย
มร. นอร์เบิร์ท ดูโครท์ รองประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคกล่าวว่า “EC 725 คือเฮลิคอปเตอร์เพียงรุ่นเดียวที่มีความทันสมัยที่สุด และเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติและสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบในการปฏิบัติภารกิจที่หลากหลาย อาทิเช่น การค้นหาและกู้ภัย (SAR), การค้นหาและกู้ภัยทางทหาร (CSAR), การขนส่งทางด้านสาธารณูปโภค / สินค้า และการขนส่งขนาดใหญ่ ซึ่งด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาลไทย ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องและการใช้งานที่เชื่อถือได้ทำให้เครื่อง EC 725 พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจที่ยากลำบากที่สุดให้สำเร็จลุล่วง แม้จะตกอยู่ภายใต้สภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดก็ตาม”
EC 225/ EC 725 ได้ทำการบินรอบปฐมฤกษ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2000 และด้วยผลการปฏิบัติงานที่ดีเลิศ, มีความปลอดภัยสูง และต้นทุนการบินที่ต่ำทำให้เครื่อง EC 225 ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูงในตลาดเครื่องบินพลเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่อยู่ในธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ตั้งแต่ภูมิภาคในแถบเส้นศูนย์สูตรไปจนถึงยุโรปตอนเหนือ, การให้บริการระดับวีไอพีของภาครัฐ รวมทั้งยังได้รับเกียรติสูงสุดจากจักรพรรดิญี่ปุ่นเลือกให้เป็นหนึ่งในเครื่องบินหลวงอีกด้วย
สำหรับเครื่อง EC 725 นั้นสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 5,000 กก. ด้วยคุณลักษณะที่ประกอบด้วย ใบพัดหลักส่วนหัวแบบใหม่ล่าสุด, gearbox หลักที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่ง, เครื่องยนต์รุ่นใหม่, การเชื่อมโยงระบบการแสดงผลและระบบการบินเข้าไว้ด้วยกัน ยูโรคอปเตอร์ได้เลือกโครงสร้างของลำตัวเครื่องบินแบบคูการ์สำหรับ EC 725 ด้วยเหตุผลของคุณภาพในการปฏิบัติงานมากมายที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง รวมทั้งยังมีออพชั่น และอุปกรณ์เครื่องเพิ่มเติมต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากมายหลายแบบ
ยูโรคอปเตอร์เสริมความมั่นใจในการดำเนินงานตามโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว
การส่งมอบฝูงบิน EC 725 ที่ประจำการอยู่ในปัจจุบันเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า ยูโรคอปเตอร์มีความชำนาญในการรับมือและจัดการกับโปรแกรมทางทหารขนาดใหญ่ กองทัพอากาศของฝรั่งเศสซึ่งเป็นลูกค้ารายแรกได้สั่งซื้อเครื่อง EC 725 รุ่นนี้ถึง 18 ลำ โดยในจำนวนนี้ 14 ลำถูกเตรียมไว้ใช้สำหรับปฏิบัติภารกิจในการค้นหาและกู้ภัยทางทหาร การลงนามในสัญญาซื้อขายระหว่างกองทัพอากาศฝรั่งเศสและยูโรคอปเตอร์มีขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2002 หลังจากวันลงนาม EC 725 เครื่องแรกก็ได้ถูกส่งมอบให้กับกองทัพอากาศฝรั่งเศสในเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2005 ซึ่งนับว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วมาก
ในขณะเดียวกัน เครื่องในตระกูลคูการ์ก็ประสบผลสำเร็จในการบินครบ 3.2 ล้านชั่วโมงบิน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีความสามารถเป็นเลิศในการปฏิบัติภารกิจที่หลากหลาย ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการบินนั้นอยู่ในระดับปานกลาง นอกจากนี้เครื่องยังสามารถให้บริการอย่างไร้ขีดจำกัดในทุกสภาพอากาศไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือภายใต้สภาพอากาศที่เย็นสุดขั้วก็ตาม
คุณลักษณะทางด้านเทคนิค (Technical Characteristics) EC 725
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (ภายในเครื่อง) 11,000 kg / 24,250 lb.
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (ภายนอกเครื่อง) 11,200 kg / 24,700 lb
การรับน้ำหนัก (ภายในเครื่อง) 5,670 kg / 12,500 lb.
การเร่งเครื่องขณะวิ่งขึ้น (ต่อเครื่องยนต์) 1,566 kW / 2,130 ch
2,099 shp
กำลังเครื่องยนต์ MGB สูงสุด 2,600 kW / 3,536 ch
(ภายใต้การทำงานของเครื่องยนต์ 2 เครื่อง) 3,485 shp
พิสัยการบินสูงสุด (ด้วยน้ำหนักมากสุดขณะวิ่งขึ้น ) 783 nautical miles
สามารถเติมน้ำมันกลางอากาศได้
ความเร็วในการบิน (9000 kg / 19 840 lb) 160 knots
ใบพัดหลักรุ่นใหม่แบบ 5 แฉก
EC 725 ยังคงใช้เทคโนโลยีที่เปี่ยมประสิทธิภาพของ Spheriflex® สำหรับใบพัดหลักและใบพัดส่วนหาง เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยลดต้นทุนในการบินและการซ่อมบำรุง ใบพัดหลักมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 16.2 ม. และด้วยจำนวนใบพัด 5 ใบ ทำให้ใบพัดหลักทำงานได้ดีขึ้นอันเนื่องมาจากความก้าวหน้าในการพัฒนาส่วนของแอร์ฟอยล์ (airfoil) และผลการทำงานในแง่ของอากาศพลศาสตร์ การออกแบบอิงกับ spar ซึ่งทำมาจากวัสดุประกอบ (composite material) ส่วนของใบพัดทำจากโครงสร้างแบบกล่องหลายชั้นและ ด้วยจำนวนใบพัดถึง 5 ใบทำให้ตัวเครื่องมีระดับการสั่นสะเทือนที่น้อยมาก
Gearbox หลักรุ่นใหม่
Gearbox หลักของเครื่อง EC 725 ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งเพื่อให้สามารถรองรับกับเครื่องยนต์เทอร์ไบน์ที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งน้ำหนักโดยรวมของตัวเครื่อง มีการจัดเก็บโซ่ขับเคลื่อน Mk2 และ spiral bevel gears ซึ่งใช้เทคโนโลยีไนเตรทเชิงลึก (deep nitration technology) รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพสูดสุดในส่วนของ tooth profiles การกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงมีระบบการฉีดอัดสำรองซึ่งจะช่วยให้เครื่องสามารถทำงานได้โดยปราศจากน้ำมันนานกว่า 30 นาที
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด
EC 725 ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์แบบเทอร์โบ MAKILA 2A 2 ส่วน เครื่องยนต์แบบใหม่นี้ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Turbomeca ซึ่งประกอบด้วยคอมเพรสเซอร์รุ่นใหม่แห่งยุคที่สามารถทำงานภายใต้อุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วคือ MAKILA 1A 2 ดังนั้นมันจึงสามารถผลิตกำลังสำรองได้ถึง 1,800 kW (2,448 ch, 2,413 shp), ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 14% เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว
ระบบควบคุมไฟฟ้าดิจิตอลเอกเทศแบบสองช่องทาง FADEC (Full Authority Digital Electronic Control) ช่วยเสริมความมั่นใจในประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด, รวมทั้งให้ความปลอดภัยสูงและประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงในทุกขณะของการบิน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ "blade shedding" ที่ไม่ยึดติดกับเทอร์ไบน์ช่วยให้สมรรถนะในการทำงานของเครื่องยนต์มีความทันสมัย, มีเสถียรภาพและมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น เครื่องยนต์แต่ละเครื่องประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ เต็มรูปแบบ (self-contained) ไม่ว่าจะเป็นระบบที่สำคัญต่างๆ , เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการบิน และเครื่องยนต์แบบโมดูล่าร์ยังช่วยให้การซ่อมบำรุงรักษาและตรวจสอบเป็นไปอย่างง่าย
ระบบแสดงผลหน้าจอแบบบูรณาการ
EC 725 ติดตั้งระบบอีเล็คโทรนิคส์ภายในเครื่องแบบใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาจากประสบการณ์อันยาวนานของยูโร คอปเตอร์ในด้านเทคโนโลยีในการอินเตอร์เฟซการบินเฮลิคอปเตอร์และการพัฒนาคุณสมบัติทางด้าน ergonomics ที่ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายขณะที่อยู่ในเครื่อง
ระบบแสดงผลจะแสดงผลการบินผ่านหน้าจอ LCD แบบมัลติฟังค์ชั่นขนาด 6" x 8" สี่จอ และค่าตัวแปรของเฮลิคอปเตอร์จะแสดงผ่านหน้าจอ LCD ขนาด 4”x 5” อีกสองจอ หน้าจอเหล่านี้ช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นพิสัยการบิน, การนำทางและปฏิบัติภารกิจได้พร้อม ๆ กัน การออกแบบเชิงโมดูล่าร์ช่วยให้การตั้งค่าที่หลากหลายเป็นไปได้โดยง่าย เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลการบิน, ระบบนำทางและค่าตัวแปรทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน และด้วยระบบที่เชื่อมโยงแบบบูรณาการผนวกกับระบบการบินแบบอัตโนมัติแห่งยุค ช่วยให้เจ้าหน้าที่การบินสามารถมุ่งมั่นอยู่กับภารกิจที่ได้รับมอบหมายแทนที่จะมานั่งกังวลกับการควบคุมเครื่อง ซึ่งช่วยให้การปฏิบัติภารกิจมีแนวโน้มที่จะประสบผลสำเร็จอย่างดี
ข้อมูลบริษัทยูโรคอปเตอร์
Eurocopter คือบริษัทในเครือของ EADS, EADS คือผู้นำระดับโลกในด้านธุรกิจอากาศยาน, การกลาโหม และธุรกิจบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในปี 2005 EADS มีรายได้รวมถึง ?34.2 พันล้านยูโรและมีพนักงานทั่วโลกกว่า 113,000 คน ธุรกิจในกลุ่มบริษัท EADS ได้แก่ ผู้ผลิตเครื่องบินโดยสารแอร์บัส, ผู้ผลิตยูโรคอปเตอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจการผลิตเฮลิคอปเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก, และเป็นบริษัทร่วมทุนกับ MBDA ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาระบบมิสไซล์ นอกจากนี้ EADS คือผู้ถือครองหุ้นส่วนหลักใน Eurofighter Consortium, ผู้รับเหมาหลักในการสร้างฐานปล่อยยานดาวเทียม Ariane, ผู้พัฒนาและผลิต A400M เครื่องบินสำหรับลำเลียงทหาร, และเป็นพันธมิตรทางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการผลิตระบบดาวเทียมนำทางของยุโรปที่รู้จักกันดีในนามของ “กาลิเลโอ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ:
ผุสดี เพิ่มธรรมสิน
บริษัท อินวิส จำกัด
โทร: (662) 219 1945 แฟกซ์: (662) 219 1945
มือถือ: (04)-005-2425
pudsadee@gmail.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net