กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--สสวท.
นางสาวนารี วงศ์สิโรจน์กุล รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แจ้งว่าตามที่สสวท.ได้คัดเลือกและจัดส่งคณะผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันชีววิทยาโอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี 2552 จำนวน 4 คน ระหว่างวันที่12 - 19 กรกฏาคม2552 ณ เมืองซึคูบาประเทศญี่ปุ่น ผลปรากฏว่าผู้แทนประเทศไทยสามารถพิชิต 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน จากฝีมือของ
นางสาวนันทนัช วุฒิไกรวิทย์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญทอง
นายวีรภัทร คิ้ววงศ์งาม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ เหรียญเงิน
นางสาวฝันฝ้าย สมเกียรติ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เหรียญเงิน
นายจตุพร วานิชานนท์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เหรียญเงิน
คณะผู้แทนประเทศไทยฯ จะเดินทางกลับถึงไทยในวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2552 เที่ยวบิน TG 677 เวลา 21.25 น. สสวท.จะมีพิธีต้อนรับคณะผู้แทนประเทศไทยฯ ตามกำหนดดังกล่าว ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ชั้น 2 ด้านใน ประตูที่ 5
นางสาวนันทนัช วุฒิไกรวิทย์ (เพชร) เหรียญทองเผยว่าโอลิมปิกวิชาการเปิดโอกาสให้เด็กที่สนใจในสาขาวิชาการต่าง ๆ ของแต่ละประเทศได้มาพบและรู้จักกันซึ่งไม่ใช่โอกาสที่หาได้ง่ายๆ นับเป็นเกียรติสูงสุดที่ได้เป็นผู้แทนประเทศไทย เพื่อให้เรียนดีอย่างมีความสุขน้องเพชรจึงมีวินัยกับตัวเอง พยายามบริหารเวลาในชีวิตคือแบ่งเวลาทั้งด้านเรียน พักผ่อน ทำกิจกรรมโรงเรียน รวมทั้งช่วยติวให้เพื่อนหรือรุ่นน้องวิชาชีววิทยาและคณิตศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาที่ถนัด ตั้งใจเรียนในห้องเรียน ทำการบ้านและทบทวนสม่ำเสมอ ซึ่งทำให้เรียนได้เต็มที่และเวลาเล่นก็เล่นได้อย่างไม่มีกังวล เหนืออื่นใดกำลังใจทั้งมวลมาจากความรักความอบอุ่นของคุณพ่อคุณแม่
“อยากให้คุณครูสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์โดยกระตุ้นให้เด็กคิดเป็น วิเคราะห์เป็น และเห็นความสำคัญของทั้งสองวิชาว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว ทำให้เด็กๆ กระตือรือร้น เกิดความอยากรู้ ค้นคว้าเพิ่มเติมและสนุกกับการเรียนโดยไม่รู้สึกเบื่อ” น้องเพชรให้ข้อคิดเห็น
นายวีรภัทร คิ้ววงศ์ (นุ้ย) เล่าถึงบรรยากาศในครอบครัวว่าคุณพ่อ คุณแม่มักพูดคุยถึงเรื่องความรู้รอบตัวต่าง ๆ ให้ลูกฟังเช่น ดิน ฟ้า อากาศ ต้นไม้ ซึ่งช่วยส่งเสริมกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ ขณะเดียวกันข่าวการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการก็มีส่วนจุดประกายให้เด็กๆ สนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้น หรือถ้าเป็นคนที่ชอบวิชานี้อยู่แล้วก็ได้สนใจเพิ่มพูนความรู้มากยิ่งขึ้น
“วิธีเรียนดีและเรียนสนุก อยากให้นำความรู้มาวิพากษ์วิจารณ์กันกับเพื่อนๆ และคุณครู ซึ่งจะได้ความรู้ชนิด 150 % ทีเดียว ยิ่งถ้าสอนคนอื่นๆ ให้ความรู้แก่คนอื่นๆได้ด้วย ก็จะยิ่งได้ความรู้มากขึ้น อนาคตตั้งเป้าอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่สร้างผลงานเป็นประโยชน์ต่อโลกครับ” นุ้ยเผย
นางสาวฝันฝ้าย สมเกียรติ (ฝ้าย) เผยว่าก้าวมาถึงจุดนี้ได้เพราะมีคุณพ่อ คุณแม่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือและกำลังใจ หลักการเรียนดีมีความสุขของฝ้ายก็คือรู้จักแบ่งเวลาระหว่างเรียนกับเล่นให้พอเหมาะซึ่งส่วนตัวไม่ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ส่วนด้านเรียนอยากให้สอนแบบไม่เน้นความสำคัญของคะแนนมากจนเกินไป แต่ให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เพราะทำให้นักเรียนสนุกและรักที่จะเรียนรู้
น้องฝ้ายคิดว่าโครงการโอลิมปิกวิชาการมีส่วนช่วยส่งเสริมความสนใจเรียนวิทยาศาสตร์ของเด็กรุ่นใหม่ เพราะการได้เข้าค่ายทำให้ได้ต่อยอดความรู้ ได้พบอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ มีโอกาสเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติและเห็นของจริงมากกว่าในห้องเรียน ได้พบบรรยากาศที่ส่งเสริมให้หมั่นฝึกฝนทักษะเพิ่มพูนความรู้สม่ำเสมอ
นายจตุพร วานิชานนท์ (กวง) เผยว่าไม่ได้เรียนพิเศษนอกโรงเรียนเลยตั้งแต่ม.3 แต่ตั้งใจเรียนในห้องให้มากที่สุด ทำเข้าใจทุกเรื่องที่ครูสอนหรือถ้าไม่เข้าใจก็รีบถามให้กระจ่าง อ่านทบทวน 1 — 2 รอบให้เข้าใจดียิ่งขึ้น ปกติช่วยติวชีววิทยาให้เพื่อนหรือรุ่นน้องก่อนสอบกลางเทอมและสอบไล่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากเพราะได้ทบทวนความรู้ไปในตัว ช่วยให้รู้ว่าตัวเองเข้าใจวิชานั้นๆ มากน้อยแค่ไหน ถ้ายังไม่เพียงพอก็ต้องกลับไปอ่านเพิ่มแล้วนำมาตอบ จุดนี้ทำให้รู้ว่าการสอนคนอื่นนั้นมีคุณค่ามากทั้งต่อตัวเองและส่วนรวม
“เวลาว่างก็มีเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์บ้างเหมือนกันครับแต่ดูแลตัวเองไม่ให้ติด เมื่อก่อนบางครั้งก็มีปัญหาเหมือนกันแต่สิ่งที่ช่วยได้มากก็คือการควบคุมเวลา รู้ว่าเวลาไหนเป็นเวลาทำการบ้าน เวลานอน หรือเวลาเล่น ถ้าเจ้าจอสี่เหลี่ยมนี่ทำให้ชีวิตเราไม่เป็นเวลา ต้องหยุดทันทีครับ เลิกแล้วไปทำสิ่งอื่นที่จำเป็น หากยังไม่หยุดผมว่าเวลาต่อจากนั้นจะกลายเป็นเวลาที่สูญเปล่า” กวงให้ข้อคิดแหลมคม