กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--พม.
วันนี้ (๒๐ ก.ค.๕๒) เวลา ๑๓.๐๐ น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในโอกาสที่คณะผู้เข้าร่วมโครงการสู่มาตุภูมิ ครั้งที่ ๖ เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า รู้สึกพอใจที่ได้เห็นเด็กไทยในครอบครัวบุญธรรมชาวต่างประเทศ เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีการงานทำ มีหลักฐานมั่นคง สามารถเลี้ยงดูตนเองได้ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีความสุข เพราะเด็กกลุ่มนี้ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากครอบครัวชาวต่างชาติที่มีจิตใจดี มีเมตตา ปรารถนาที่จะแบ่งปันความรัก ให้ชีวิตใหม่และครอบครัวที่อบอุ่นแก่พวกเขา รักเขาเหมือนลูก แม้ว่าจะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขก็ตาม ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ.๒๕๒๒ โดยศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้จัดหาครอบครัวบุญธรรมชาวต่างประเทศให้แก่เด็กไทยที่ครอบครัวผู้ให้กำเนิดไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เนื่องจากประสบปัญหาสังคมต่าง ๆ ขณะนี้มีครอบครัวบุญธรรมต่างชาติรับเด็กไทยไปอุปการะมากถึง ๙,๕๖๘ คน
“เด็กถูกทอดทิ้ง และเด็กที่ครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงดูได้และมอบให้อยู่ในความอุปการะของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยเด็ดขาด เช่น มารดาเด็กเป็นบุคคลเร่ร่อน มีอาการทางจิต ครอบครัวยากจน หรือตั้งครรภ์นอกสมรส เป็นต้น นอกจากจะมีชาวต่างชาติมายื่นความจำนงขอรับไปอุปการะเป็นบุตรบุญธรรมแล้วก็ยังมี คนไทยที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีรับเด็กที่ถูกทอดทิ้งไปอุปการะเป็นบุตรบุญธรรมด้วย ที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ได้จัดหาครอบครัวบุญธรรมให้แก่เด็กโดยชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ.๒๕๕๒ ได้มอบเด็กให้แก่ครอบครัวชาวไทย และครอบครัวชาวต่างชาติ รวม ๙๒,๐๔๙ คน โดยในการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมทั้งคนไทยและต่างประเทศจะต้องผ่านการตรวจสอบทั้งคุณสมบัติ ความเหมาะสมทั้งด้านกฎหมายและสังคมทุกราย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการซื้อขายเด็ก คุ้มครองสวัสดิภาพ และสิทธิของเด็กที่เป็นบุตรบุญธรรม บิดามารดาบุญธรรม และบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ปัจจุบันด้วย” นายอิสสระ กล่าว
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า เด็กที่ไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวบุญธรรมต่างชาติ บางคนครอบครัวบุญธรรมรับไปตั้งแต่ยังเล็ก จำความอะไรไม่ได้ การกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนของเด็กไทย ภายใต้โครงการ “สู่มาตุภูมิ” ครั้งที่ ๖ (The Nativeland Visit Program VI) นี้ จะช่วยให้เด็กไทยได้รู้จักแผ่นดินที่ตนถือกำเนิด และได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมความเป็นไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย เพื่อให้เกิดความรัก ความผูกพัน และความภาคภูมิใจในประเทศบ้านเกิด อีกทั้งยังเป็นการติดตามผลการเลี้ยงดูเด็กอีกทางหนึ่งด้วย หลังจากที่เด็กและครอบครัวบุญธรรม ทั้งชาวออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ แคนาดา เดนมาร์ก นิวซีแลนด์ สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ เดินทางกลับประเทศแล้ว ก็จะนำไปเผยแพร่ให้กับญาติ พี่น้อง หรือเพื่อนๆ ได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น