กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--สคร.
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลัง การประชุม โครงการ“รัฐวิสาหกิจรวมพลัง กีฬาไทยเข้มแข็ง” ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาข้อมูลการดำเนินการเกี่ยวกับการให้การสนับสนุนสมาคมกีฬา จากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและเอกชน ซึ่งได้เคยมีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 - 2551 ซึ่งผลจากการดำเนินการสรุปได้ว่า มีรัฐวิสาหกิจจำนวน 11 แห่ง ให้ความช่วยเหลือสมาคมต่างๆ ระหว่างปี 2549 — 2551 ในวงเงินรวม 294.50 ล้านบาท
สำหรับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬา ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สนับสนุนสมาคมเทนิส และฟุตบอล จำนวน 90 ล้านบาท(โดยแบ่งเป็นสมาคมเทนนิส 30 ล้านบาท และสมาคมฟุตบอล 60 ล้านบาท) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สนับสนุนสมาคมมวยสากลสมัครเล่น 60 ล้านบาท ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) สนับสนุนสมาคมเทควันโด 38 ล้านบาท บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน)สนับสนุนสมาคมตะกร้อ 15 ล้านบาท บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) สนับสนุนสมาคมบิลเลียด 18 ล้านบาท โรงงานยาสูบ สนับสนุนสมาคมกรีฑา 36 ล้านบาท ธนาคารออมสิน สนับสนุนสมาคมว่ายน้ำ 8 ล้านบาท บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)สนับสนุนสมาคมวินด์เซิร์ฟ 12 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) สนับสนุนสมาคมขี่ม้า 7.5 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)สนับสนุนสมาคมรักบี้ฟุตบอล 2.5 ล้านบาท และการประปานครหลวง(กปน.)สนับสนุนสมาคมโบวลิ่ง 7.5 ล้านบาท
และผลจากการที่ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวได้มีผลต่อเนื่องในการที่รัฐวิสาหกิจและเอกชนได้ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาต่อเนื่องมาในระหว่างปี 2552 — 2555 เป็นวงเงินรวม 414.50 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สนับสนุนสมาคมเทนิส และฟุตบอล จำนวน 90 ล้านบาท(แบ่งเป็นสมาคมเทนนิส 45 ล้านบาท สมาคมฟุตบอล 75 ล้านบาท) บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) สนับสนุนสมาคมแบดมินตัน 90 ล้านบาท ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) สนับสนุนสมาคมเทควันโด 68 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สนับสนุนสมาคมมวยสากลสมัครเล่น 60 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) สนับสนุนสมาคมยกน้ำหนัก และเปตอง 45 ล้านบาท(แบ่งเป็นสมาคมยกน้ำหนัก 30 ล้านบาท สมาคมเปตอง 15 ล้านบาท) และการประปานครหลวง(กปน.)สนับสนุนสมาคมโบวลิ่ง 7.5 ล้านบาท
รมว.คลัง กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดนี้ต้องการให้รัฐวิสาหกิจสนับสนุนกีฬาอย่างทั่วถึงทั้ง 58 สมาคมและในส่วนของสมาคมกีฬาและรัฐวิสาหกิจที่มีการเซ็นข้อตกลงไว้แล้ว กระทรวงการคลังจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆทั้งสิ้น ในขณะเดียวกันในการพิจารณางบประมาณจากรัฐวิสาหกิจจะเป็นการกลั่นกรองพิจารณาของชั้นอนุกรรมการโดยตัวเลขงบประมาณจะได้จากแผนของแต่ละสมาคมกีฬาที่ส่งมา ตามผลงานของสมาคมกีฬาในอดีตและที่สำคัญคือสมาคมที่ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจะได้รับงบประมาณในครั้งนี้ด้วย ในส่วนของรัฐวิสาหกิจกระทรวงการคลังจะพิจารณาเพิ่มเติมว่ารัฐวิสาหกิจใดที่มีความสามารถสนันสนุนในวงเงินเท่าไหร่ ซึงในเบื้องต้นมี 21 รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งที่ได้เซ็นบันทึกข้อตงไปแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงการคลังต้องการให้โครงการรัฐวิสาหกิจรวมพลังกีฬาไทยเข็มแข็งวสามารถดำเนินการได้ในปีงบประมาณนี้เลย
เพื่อให้การดำเนินการของคณะกรรมการมีความคล่องตัวคณะกรรมการฯ จึงได้แต่งตั้งอนุกรรมการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และการให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจโดย แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการเรื่องดังกล่าวต่อไป